เริ่มขั้นตอนการ ฝึกลูกนอนเอง
- เตรียม “ใจ” ให้พร้อม มั่นคง หนักแน่น และตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องสำเร็จ ห้ามใจอ่อน แนะนำให้เขียนข้อดีของการ ฝึกลูกนอนเอง ไว้ใกล้ ๆ มือ เมื่อเริ่มอ่อนไหวให้อ่านข้อดีที่จดไว้
- เมื่อถึงเวลาเข้านอนตามปกติที่เราพานอน ให้ งด การกระทำทุกอย่างที่เราเคยทำอย่างหักดิบ ได้แก่ พวกอุ้มเดิน ให้นมแบบหลับคาเต้า เขย่าๆๆ อะไรก็แล้วแต่ให้งดเลย
- พอลูกเริ่มโยเยอยากนอน แต่ไม่ได้ดั่งใจ (เพราะเรางดทุกอย่างไปแล้วในข้อ 2 ) ก็ให้เอานอนลงเปลเด็ก วาง แล้วหันหลังเดินออกจากห้อง
- ลูกจะร้องแบบสาหัสสากันต์ ไม่ลืมหูลืมตา ร้องๆๆๆๆๆ 1 – 2 ชั่วโมง เราต้องใจแข็ง เวลาดูลูกผ่านจอ แนะนำให้ปิดเสียงไปเลย อย่าเปิดเสียง จะจิตตกมาก ๆ ทำใจยาว ๆ เลย คอยดูให้ลูกไม่เป็นอันตรายก็พอ ทีนี้ในข้อ 4 เราก็จะมีวิธีแนะนำอีก 2 วิธีในการทำใจ
4.1 Ignore คือไม่สนไม่แคร์ ปล่อยร้องไปเลย แบบนี้ต้องใจแข็งจริงๆ
4.2 Checked คือใช้วิธีเชคเป็นระยะ 10 นาทีเข้าไป ต่อมาอีก 15 นาที อีก 20 นาทีห่างขึ้นเรื่อย ๆ เวลาเข้าไปเชค ห้าม!! อุ้มลูก ให้นม สบตา เด็ดขาด ให้เข้าไป จัดที่นอน พูดเบา ๆ ว่านอนนะลูก พ่อแม่อยู่ตรงนี้นะดูหนูอยู่ พูดไปลอย ๆ มือก็จับเตียง จับผ้าอะไรไป อย่าจับตัวลูก ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที แล้วออกมาเลย (คุณพ่อก็ใช้วิธีนี้ครับ ทนใจแข็งไม่ไหว 555+ โดยลูกคุณพ่อก็ร้องๆๆๆ ทั้งปีนขึ้นมายืน ทั้งล้มลุกคลุกคลาน ตอนแรกเปิดเสียง สุดท้ายต้องปิดเสียง คุณแม่ร้องไห้เลยครับ เลยใช้วิธีเชค เข้าไปเชค 2 รอบ ตอน 15 นาที กับ 40 นาที พอครบ ชั่วโมง ลูกก็ฟุบลงและหลับไปเอง) - หากลูกร้องและอาเจียน ให้เข้าไปอุ้ม เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อ แล้วออกมาทันที ห้ามอุ้มโอ๋ ให้นมเด็ดขาด
- หากลูกหลับแล้วตื่นขึ้นมาใหม่ (ซึ่งในวันแรก บอกเลยตื่นแน่นอน) ลูกก็จะเริ่มต้นร้องใหม่ ให้ใช้วิธีเดิม คือคอยดู จะ ignore ก็ต้อง ignore ให้สุด ๆ จะเชค ก็เชคให้สม่ำเสมอ ห่างขึ้นเรื่อย ๆ ห้ามสลับไปมาเดี๋ยวลูกจะสับสนและจับได้
- ช่วงใกล้ ๆ เช้า บางทีลูกจะตื่นมาเอง ถ้าลูกตื่นใกล้เคียงเวลาที่เคยตื่น ก็ให้เข้าไปหาลูกได้เลย ไปให้นม ไปเล่นกับลูกอะไรก็แล้วแต่ ทำเหมือนตอนที่ลูกตื่นตามปกติ บางทีลูกอาจตื่นเร็วกว่าสัก ชม. นึง ก็ไม่เป็นไร เช่น ปกติลูกจะตื่น 7 โมง แต่ทำวิธีนี้ลูกตื่นตี 5 และไม่มีทีท่าว่าจะหลับแล้ว ก็เข้าไปเลย วันหลัง ๆ จะตื่นได้ยาวเอง
- จบวันแรก เริ่มวันที่สองให้ทำแบบเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่จะดีขึ้น เชื่อได้เลย ทุกสำนัก ทุกเวป แม้แต่ตัวคุณพ่อเองยืนยันเลยว่าวันที่สองดีขึ้นแน่นอน จากที่วันแรก ร้องอยู่เป็น ชม. วันที่สองจะสั้นลง ซึ่งตอนแรกคุณพ่อก็ไม่เชื่อ แต่มันก็จริง วันที่สองลูกคุณพ่อร้องแค่ 30 นาทีเอง แล้วกลับยาวยันตีสอง แล้วตื่นมาใหม่ แต่ก็ร้องอีก 15 นาทีก็หลับได้เอง ให้เราทำทุกอย่างเหมือนข้อ 4
- วันที่สาม ทำเหมือนเดิม เชื่อไหม ลูกคุณพ่อร้องแค่ 10 นาที แล้วหลับยาวยันเช้าเลย ตื่นมาตีสามนิดหน่อย แต่ไม่ร้อง แล้วนอนต่อได้เอง โดยวันที่สามคุณพ่อไม่ได้เข้าไปเลย
- ถ้าลูกป่วย ให้ยกเลิกทั้งหมด และกลับมานอนเฝ้าลูกเหมือนเดิม เพราะกลางคืนไข้อาจสูงได้ ต้องคอยวัดและเช็ดตัวกินยาลดไข้ตลอด ห้ามทำวิธีนี้ตอนลูกป่วยเด็ดขาด อันตราย ไข้สูงชักได้
จากประสบการณ์ที่คุณพ่อได้ลอง ฝึกลูกนอนเอง ด้วยวิธี Cry it out ได้ใช้เวลาฝึกเพียงแค่สามวัน จากตื่นทุก 45 นาที จากที่ร้องเป็นชั่วโมง แค่สามวัน ลูกร้องแค่ 10 นาที และนอนยาวยันตีสามรวดเดียว คุณพ่อคุณแม่จึงดีใจสุด ๆ และรู้สึกได้ว่ามาถูกทางจริง ๆ บางท่านอาจนานกว่านี้ แต่ส่วนมากไม่เกิน 5 วัน
แม่พริมาเองก็ ฝึกลูกนอนเอง โดยวิธีนี้เช่นกัน บอกเลยว่าเป็นวิธีที่ทรมานใจแม่ ๆ เป็นอย่างมาก แต่กลับเป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็ว (ลูกของแม่พริมาร้องเพียงแค่ 1 วัน ก็นอนยาวได้เลย) ลูกไม่ต้องร้องงอแงหลาย ๆ วัน และ ลูกก็นอนได้เต็มอิ่มตลอดคืนอีกด้วย สำหรับคุณแม่บางท่านอาจจะมองว่าวิธีนี้โหดไปหน่อย หรือยังอยากนอนกับลูกอยู่ ก็สามารถปรับวิธีการนี้ให้ตรงกับความสะดวกของแต่ละบ้านได้เลยค่ะ เช่น ฝึกลูกนอนเอง แต่นอนอยู่ในห้องเดียวกัน เป็นต้น เพราะการ ฝึกลูกนอนเอง นี้จะมุ่งเน้นไปที่การให้ลูกได้นอนเองโดยไม่ต้องกล่อม และไม่ต้องตื่นขึ้นมาร้องกลางดึกอีก
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ คลิก
ให้ลูกกิน นมผงผสมนมแม่ ในขวดเดียวกันได้หรือไม่?
18 ลักษณะลิ้นบอกโรค เพียงแค่ดูลิ้นลูก ก็รู้ได้ว่าป่วยหรือไม่?
ไอเดียสุดเจ๋ง ถุงมือแทนมือแม่แก้ ลูกติดมือ นอนหลับยาก
ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ Agent Molder, http://primlilboo.wixsite.com/bonzaboo
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่