ลูกมีพัฒนาการช้า โรคที่พ่อแม่เป็นคนทำ!!
พ่อแม่ยอมรับว่าตัวเองก็ติด smartphone ต้องเอาขึ้นมาดู check LINE, up status, load รูป เช่นเดียวกัน ที่บอกว่าเล่นกับลูก คุยกันตอนลูกเล่นนั้น ก็คือ นั่งข้างๆ ลูก ลูกเล่นไป พ่อแม่ก็ social ไปอยู่ข้างๆ หันไป say yes, say hi กับลูกเป็นพักๆ …เอิ่ม อันนี้ไม่ใช่เล่นด้วยกันแล้วค่ะ เพลีย!!
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ซึ่งที่เล่ามาให้อ่านยืดยาวนี่ก็เพราะ อยากให้ข้อมูลซึมซาบลึกเข้าไปถึงในทรวง และอยากให้จดจำกันให้แม่นยำ ว่าถ้าไม่อยากเป็นคนทำให้ลูกผิดปกติ ควรมี “สติ” และศึกษาหาความรู้ให้ดี
พอมองออกไหมคะว่าทั้ง 3 รายข้างต้น มีจุดร่วมคืออะไร
…”เทคโนโลยีและอุปกรณ์หน้าจอทั้งหลาย” ที่หยิบยื่นให้ลูกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งให้ในอายุที่ไม่สมควร ไม่จำกัดเวลาใช้ ไม่จำกัดเนื้อหาที่ดู และใช้จนเด็ก “ติด” งอมแงม ไม่อยากจะไปทำสิ่งอื่นใด จนมีผลกระทบต่อพัฒนาการและพฤติกรรม ทำให้เด็กที่ควรจะเติบโตปกติดี ต้องมีมลทิน …ด้วยมือของพ่อแม่เอง เจ็บไหมคะ??
เด็กที่อยู่กับหน้าจอมากๆ จะทั้ง “ติดใจ” และ “ติดนิสัย” เช่นที่หมอเคยเล่าให้ฟังไปแล้วใน “series Generation Alpha” …ถ้าใครยังไม่เคยอ่าน ขอแนะนำให้อ่านทั้ง 5 ตอน เพื่อทราบถึงผลเสียที่อาจเกิดกับลูกๆ ของท่านได้ หากใช้เทคโนโลยีอย่างไม่ถูกไม่ควร และไม่มีสติ
หมอไม่ได้บอก…ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ ถ้าพูดถึงประโยชน์ย่อมมีมากมาย แต่โทษก็มีไม่น้อย
เด็กเล็ก…
- …ยังไม่สามารถแยกแยะประโยชน์และโทษได้เอง
- …ยังไม่สามารถควบคุมตนเองได้ดีเท่าผู้ใหญ่
- …และยังต้องมีการพัฒนาทักษะอื่นๆ รอบด้าน เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต
หากพ่อแม่เอง ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งใดควรไม่ควร ยังควบคุมตัวเองในการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้ …คุณจะเลี้ยงได้ลูกแบบไหน???
ปิด (อุปกรณ์หน้าจอทั้งหลาย) ในวันนี้ เพื่อ เปิด (โอกาสและเวลากระตุ้น)
พัฒนาการที่ดีของลูก เถอะค่ะ!
อย่าให้บรรยากาศในบ้านต้องเป็นเหมือนรูปประกอบบทความเลยนะคะ
…”อยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน”…
ที่อ้างว่าไม่มีเวลากันนั้น หมอไม่เชื่อค่ะ “เวลาคุณภาพ” ที่ลูกต้องการจากพ่อแม่ ไม่ต้องมาก แต่ต้องมีทุกวัน สม่ำเสมอ และมีคุณภาพจริงๆ เพียงแค่ “ปิดจอ” ก็มีเวลาเพิ่มแล้วค่ะ …แค่นี้ ให้ลูกได้ไหมคะ?
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
บ่นยาวเลยค่ะ แต่เพราะช่วง 3-4 ปีมานี้ หมอตรวจเด็กไปก็เพลียใจไปกับหลายบ้าน เด็กที่หมอให้คำนิยามว่าเป็น “โรคพ่อแม่ทำ” พบเจอได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ
และเพราะความรู้สึก “ฉัน-ทน-ไม่-ไหว-แล้ว-นะ” ได้บังเกิดขึ้นกับหมอหลังจากตรวจเด็ก “โรคพ่อแม่ทำ” คนล่าสุดเสร็จ …บทความนี้จึงบังเกิด
เพราะคิดว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้ว ไม่ทำอะไรบ้างไม่ได้แล้ว แม้เป็นเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่ง แต่ก็ขอตะโกนดังๆ ให้เข้าไปสะเทือน “สติ” ของพ่อแม่และผู้เลี้ยงดูเด็กบ้าง
ดังนั้น ถ้าใครอยากช่วยหมอตะโกนดังๆ เพื่อปกป้องอนาคตของชาติร่วมกัน ขอให้ช่วยแชร์บทความนี้ไปให้คนที่เกี่ยวข้องกับเด็กๆ ได้อ่านกันเยอะๆ จะขอบพระคุณอย่างยิ่งเลยค่ะ
ด้วยรักและห่วงใยค่ะ ^^
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- แชร์ประสบการณ์! ลูกติด ipad เพราะแม่ใช้เลี้ยงตั้งแต่เล็ก เสี่ยงเป็นออทิสติก
- สังเกตสัญญาณ “พัฒนาการล่าช้า” ของลูก
- เรากำลังเลี้ยงลูกให้เป็น “ออทิสติกเทียม” ด้วย ทีวี แท็บเล็ต และเร่งเรียน หรือเปล่า?
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก : หมอมิ้นตัวเล็ก เจ้าของเพจ เพื่อลูกทุกสิ่ง Everything about KIDS