คนปกติสามารถสั่งน้ำมูกออกจากช่องจมูกและไอเอาเสมหะออกจากปอดได้ แต่ในกรณีเด็กเล็ก ๆ หรือผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวหรือมีความพิการทางสมองจะไม่สามารถสั่งน้ำมูก และไอได้เอง จึงต้องทำการดูดเสมหะเพื่อดูดน้ำมูกออกจากช่องจมูกและเป็นการกระตุ้นให้ไอเพื่อขับเสมหะออกจากปอด การที่ไม่มีน้ำมูกในช่องจมูก และไม่มีเสมหะคั่งค้างในปอดจะทำให้เด็กหายใจสะดวกสามารถดูดนมได้ดี และนอนหลับสบาย นอกจากนี้ยังไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค จึงไม่เกิดการติดเชื้อตามมา และควรดูดเสมหะให้ลูกก่อนให้นมหรืออาหาร
♦ รู้ได้อย่างไรว่าเด็กมีเสมหะ
ในเด็กเล็ก เด็กที่ไม่รู้สึกตัว หรือเด็กที่มีความพิการทางสมองจะไม่สามารถบอกเราได้ว่าเขามีเสมหะ เราจะต้องเป็นผู้คอยสังเกตอาการว่าเด็กมีเสมหะหรือไม่ อาการเหล่านี้ได้แก่
- มีน้ำมูกในจมูกหรือมีเสมหะในคอ
- หายใจครืดคราด หรือเมื่อวางมือแนบอกหรือหลัง จะรู้สึกว่าครืดคราด
- กระสับกระส่าย
- หายใจลำบาก จมูกบานหรืออาจจะหายใจเร็วกว่าปกติ
- ดูดนมไม่ดี
- รอบปากซีดหรือเขียวคล้ำ
การดูดเสมหะทางจมูกและปาก มีวิธีดูดเสมหะอย่างไร?
ด้วยลูกยางแดง
- ลูกยางแดง เบอร์ 2 สำหรับเด็กเล็ก ลูกยางแดง เบอร์ 4 สำหรับเด็กโต
- ผ้าห่อตัว
- กระดาษทิชชูหรือภาชนะ เพื่อใช้รองน้ำมูก และเสมหะที่จะบีบทิ้งจากลูกยางแดง
√ วิธีการ
- ใช้ผ้าห่อตัวเด็กให้แน่นหนาเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเอามือปัดและดิ้นไปมา เมื่อเด็กอยู่นิ่ง ๆ ผู้ดูดเสมหะจะได้ ดูดเสมหะได้ด้วยความนุ่มนวล
- ใช้มือข้างที่ถนัดจับลูกยางแดงและบีบลมออกให้แฟบ เตรียมพร้อมที่ จะดูด ขณะที่มืออีกข้างจับหน้าเด็กให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
- สอดปลายลูกยางแดงเข้าใน รูจมูกทีละข้าง โดยให้สอดเข้าไปตื้น ๆ พร้อมกับปล่อยมือช้า ๆ น้ำมูกจะถูกดูดเข้ามาในลูกยางแดง
- บีบน้ำมูกที่ดูดมาได้ทิ้งในทิชชู หรือภาชนะที่เตรียมไว้
- ทำซ้ำแบบเดิม และดูดน้ำมูกออกจนหมดในจมูกแต่ละข้าง
- หากเด็กมีเสมหะในปอดค่อย ๆ สอดปลายลูกยางแดงเข้าไปในปากจนกระทั่งถึงโคนลิ้น จึงจะเป็นการกระตุ้นให้เด็กไอ
- ขณะเด็กไอจะมีเสมหะขึ้นมาในคอ ปล่อยลูกยางแดงให้ดูดเสมหะเข้ามาช้า ๆ
- บีบเสมหะทิ้งในกระดาษทิชชูหรือภาชนะที่รองรับและดูดเสมหะซ้ำอีกจนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงเสมหะครืดคราดในลำคอ
◊ หมายเหตุ การจับให้เด็กหันหน้าไปด้านใด ด้านหนึ่ง เป็นการป้องกันไม่ให้เด็กสำลักเอาน้ำลายหรืออาหารเข้าปอด หากขณะดูดน้ำมูกหรือเสมหะแล้วเด็กอาเจียนออกมาพร้อม ๆ กัน
การล้างทำความสะอาด
หลังดูดเสมหะทุกครั้ง นำลูกยางแดงไปล้างน้ำสบู่ และบีบล้างในน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ควรนำไปต้มในน้ำเดือดนานประมาณ 5 นาที วันละ 1 ครั้ง
อ่านต่อ >> การดูดเสมหะให้ลูก ด้วยสายดูด” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่