ซึ่งในงานวิจัยได้ทำการศึกษาจากกลุ่มเด็ก กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้ใหญ่ที่ค่อนๆ ไปทางโตหน่อย ที่เป็นนักเรียนอยู่ในชั้นมัธยมต้น มัธยมปลาย และนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยให้ทำการตอบคำถามเกี่ยวกับมุมมองของพวกเขาที่มีต่อผู้อพยพ และระหว่างที่ทำการศึกษาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พวกเขาจะถูกชวนให้พูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ในนิยายอยู่ตลอดอีกด้วย
ผลวิจัยของเด็กที่อ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์
ปรากฏว่านักเรียนที่มีความชื่นชอบในตัวละครหลักอย่าง ‘Harry Potter’ นั้นจะมีมุมมองที่ดีต่อเหล่าผู้อพยพและเปิดใจยอมรับพวกเขา
ซึ่งเป็นเพราะว่าในเนื้อเรื่อง มุมมองของตัวละคร แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่มีต่อทุกคนและสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่เขาพบเจอในเรื่อง เขาจะเปิดใจยอมรับทั้งหมด
อีกทั้งยังมีความแน่วแน่ในความคิดของตัวเอง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนที่ชื่นชอบตัวละคร แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะมีแนวโน้มที่จะมีมุมมองและทัศนคติไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งยังรวมไปถึงเรื่องความหลากหลายทางเพศอีกด้วย
นอกจากนี้งานวิจัยยังได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจถึงกลุ่มคนที่เป็นผู้ใหญ่ด้วยว่า หากพวกเขาไม่ชอบ โวลเดอมอร์ ก็จะมีแนวคิดที่เปิดใจกว้างยอมรับเหล่าผู้อพยพและชนกลุ่มน้อยเช่นกัน ส่วนคนที่มีความสนใจและฝักใฝ่ในด้านมืด ก็จะมีความคิดที่รุนแรงมากกว่าคนอื่นๆ
ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่อยากจะสอนลูกให้เป็นคนที่มีจิตใจดี มีมุมมองและทัศนคติที่เปิดกว้าง ลองให้ อ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็น่าจะดีนะคะ เพราะนอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ยังเป็นผลดีทางด้านจิตใจและมุมมองความคิดของลูกอีกด้วย
เทคนิคการสอนลูกรักให้จิตใจดี
อย่างไรก็ดีการจะสร้างสังคมที่ดีสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา และพ่อแม่จะต้องช่วยกันปลูกฝังความดีสู่หัวใจลูกตั้งแต่ยังเล็ก พญ. ถิรพร ตั้งจิตพร จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีเทคนิคการเลี้ยงลูกให้จิตใจดีมาแนะนำและใช้ได้จริง โดยเริ่มต้นจาก
1.ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง
เพื่อเป็นพื้นฐานทักษะอื่นต่อไป เพราะการที่เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และลดการพึ่งพาคนอื่นจะทำให้เด็กเกิดความมั่นใจในตัวเอง ลดความกังวล และพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน
2.ฝึกลูกช่วยงานบ้าน
เริ่มได้ตั้งแต่เล็กโดยส่วนใหญ่ เด็กวัย 2 ขวบ เริ่มฟังและเข้าใจคำสั่งง่ายๆ ดังนั้นเราควรฝึกลูกให้ช่วยงานบ้านขั้นพื้นฐาน เช่น เก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จแล้ว นำเสื้อผ้าที่สวมแล้วไปใส่ตะกร้า เป็นต้น การให้ลูกช่วยงานบ้าน โดยเริ่มจากสิ่งที่เขาควรต้องรับผิดชอบเอง ทำให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องหน้าที่ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตในสังคม เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นค่อยเพิ่มหน้าที่ภายในบ้านให้เหมาะสมกับวัย ลูกก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งต่างๆ ที่ตนทำ มีผลกระทบต่อคนรอบข้างอย่างไร นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเอาใจเขาใส่ใจเรา
อ่านต่อ >> “เทคนิคการเลี้ยงลูกให้จิตใจดี” คลิกหน้า 3
อ่านฉบับเต็มได้ที่: The greatest magic of Harry Potter: Reducing prejudice
ขอบคุณที่มาจาก : distractify, elitedaily
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่