สอนลูกให้รู้จักแพ้ ห่างไกล โรคแพ้ไม่เป็น (ต่อ)
- หยุดตามใจลูกไปเสียทุกเรื่อง
การตามใจลูกไปเสียทุกเรื่องนั้น เป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิตของลูกอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการควบคุมอารมณ์ วินัย การแสดงออก ความก้าวร้าว รวมไปถึงเรื่องของการสอนลูกให้แพ้เป็นด้วย เพราะเด็กที่ได้รับการตามใจนั้นจะเคยชินกับความสมหวัง พอผิดหวัง หรือแพ้ ก็จะรู้สึกยอมรับความพ่ายแพ้ได้ยาก ถ้าเป็นเด็กๆ ก็จะแสดงออกด้วยการโวยวาย ต่อต้าน ร้องห่มร้องไห้ ถ้าไม่ฝึกฝนให้รู้จักแพ้เป็น ลูกก็จะโตเป็นคนที่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ ไม่เอาชนะในทางที่ไม่ถูกไม่ควร ก็ซึมเศร้าเสียใจจนเกินกว่าเหตุ
(อ่านเพิ่มเติม บทความน่าสนใจ สร้างวินัยให้ลูก เหมือนเด็กญี่ปุ่น พ่อแม่ทำได้!)
- สอนลูกว่า ชนะหรือแพ้ ความรักของพ่อแม่ไม่ลดลง
พ่อแม่ต้องสอนลูกว่า “ชัยชนะ” ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิต ไม่ว่าชนะหรือแพ้ ความรักของพ่อแม่ไม่ลดลง พ่อแม่ยังคงรับลูกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ “ความพยายาม” ต่างหากคือต้นทางของความสำเร็จที่แท้จริง หากลูกทำอย่างตั้งใจ ทำอย่างเต็มที่แล้ว นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ภูมิใจ เพราะลูกได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้ ได้ฝึกความอดทน เพียรพยายาม ถ้าคราวนี้แพ้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องแพ้ตลอดไปสักหน่อย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
- สอนลูกพูดสะท้อนอารมณ์ตนเอง
ลูกในวัยอนุบาล อาจยังขาดทักษะด้านการแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง จึงเหมือนงอแงไม่มีเหตุผล เมื่ออารมณ์ของลูกสงบลง พ่อแม่ควรเข้าไปนั่งพูดคุยกับลูกเพื่อเรียนรู้ เข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกลูก สอนให้เด็กเข้าใจและสื่อคำพูดสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของเขาเองออกมา ขณะเดียวกันยังเป็นการหัดให้เด็กกล้าปรึกษาหารือในเรื่องละเอียดอ่อนของชีวิตกับพ่อแม่อีกด้วย
- สอนลูกเรียนรู้จากความพ่ายแพ้
เมื่อลูกเผชิญกับความพ่ายแพ้ อารมณ์ความรู้สึกยามนั้น คือ การเผชิญกับความผิดหวัง สิ่งที่พ่อแม่ควรเป็นอันดับแรก ทำคือ การพูดคุย ปลอบโยนลูก ให้รู้ว่าลูกมีพ่อแม่เคียงข้างลูกเสมอไม่ว่าลูกจะชนะหรือแพ้ เมื่อลูกทำใจยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว พ่อแม่จึงชวนลูกคุยว่าในครั้งนี้ ทำไมเราจึงพลาดไป เราควรปรับปรุงตรงไหนบ้าง แล้วให้ลูกพยายามตั้งเป้าหมายว่าครั้งต่อไปลูกตั้งใจจะทำให้ดีแค่ไหน ให้ลูกแข่งกับตัวเอง ไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่น เช่น การแข่งกีฬา ควรสอนให้ลูกดูสถิติที่ดีขึ้นของตัวเอง เป็นต้น