วิธีการที่พ่อสอนผม……
ตอนเด็ก ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก!!
หากเจออะไรที่ถูกใจก็ยึดไว้ก่อนคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่สนใจไยดีคนอื่น
เพื่อนฝูงหายไปทีละคนสองคน ญาติพี่น้องในบ้านเอือมระอา สุดท้ายกลายเป็นคนไร้เพื่อนไร้คนคบ ไม่มีใครอยากคบคนแล้งน้ำใจอย่างผม
⇒ ค่ำคืนหนึ่ง…
พ่อ ยกบะหมี่ร้อน ๆ ออกมาจากครัวสองชาม
ชามหนึ่งมีไข่ต้มหนึ่งฟองอยู่ด้านบน
อีกชามเห็นมีแต่เส้นบะหมี่ล้วนๆ
ยุคสมัยนั้น ไข่ไก่เป็นของหายากมีราคาสูง นานๆทีหรือในเทศกาลพิเศษจึงจะได้ลิ้มรสไข่ไก่ ตาผมลุกวาวทันทีเมื่อเห็นไข่ต้มสีขาวนวลฟองโตอยู่ในชาม
พ่อถามผมว่าอยากได้ชามไหน?
ผมหยิบเอาชามที่มีไข่โดยไม่ลังเล กำลังกินด้วยความเอร็ดอร่อย เหลือบไปเห็นชามของพ่อมีไข่สองฟองอยู่ข้างล่าง
ผมได้แต่เสียดาย ใจร้อนไปหน่อย…
พ่อสอนผมว่า
“จำไว้ สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดคิดแต่จะเอาเปรียบคนอื่นสุดท้ายคนที่เสียเปรียบคือเรา”
⇒ คืนถัดมา…
พ่อเตรียมบะหมี่ออกมาสองชามเหมือนเดิม
สภาพเหมือนเมื่อคืน
คราวนี้ผมคิดว่าผมฉลาดขึ้น ขอเลือกชามที่ไม่มีไข่
พ่อมองหน้าผมอย่างเงียบๆ ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
ผมรีบนำตะเกียบคุ้ยเส้นบะหมี่ แน่ใจว่าวันนี้ต้องได้กินไข่สองฟอง
แต่ปรากฏว่าทั้งชามมีแต่เส้นบะหมี่ไม่มีอะไรอยู่ข้างล่าง
พ่อพูดกับผมว่า
“ลูกเอ๋ย อย่ามั่นใจกับประสบการณ์ของตนเองเกินไปบางครั้งชะตากรรมก็ต้องการหลอกลวงหรือทดสอบเรามันอาจจะผิดพลาดหรือผิดคาดต่างจากประสบการณ์ครั้งก่อนๆ ไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องเศร้า นั่นก็แค่บทเรียนชีวิตบทหนึ่งที่ควรต้องจดจำ เรื่องพวกนี้คงต้องประสบพบเจอด้วยตัวเองไม่มีสอนกันในห้องเรียน”
อ่านต่อ >> “พ่อสอนลูกด้วยบะหมี่ในคืนที่ 3 ที่ทำให้ชีวิตลูกเปลี่ยนไป” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่