สิ่งควรรู้เมื่อคุณมีลูก Alpha Gen!!
7.ไม่เล่นตามกฎ
หมดเวลาเล่นเกมกระดานและระบายสีระหว่างบรรทัดแล้ว Gen Alphas ไม่สามารถถูกจำกัดด้วยกฎเหมือนรุ่นก่อน พลังงานของพวกเขานั้นยากที่จะควบคุมได้ เนื่องจากโลกดิจิทัลของพวกเขาทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับมุมมองมากมายที่ไม่รู้จบ พวกเขาจึงมองว่าเป็นเรื่องปกติในการหาวิธีลัดที่จะเอาชนะ
8. ศาสนาไม่ใช่เครื่องยึดเหนี่ยว
Gen Alpha จำนวนมากโดยธรรมชาติมักจะต่อต้าน เป็นการยากที่จะชักชวนให้พวกเขาเข้าสู่ศาสนาหรือระบบความเชื่อ เนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะหลุดพ้นจากโครงสร้างที่มีอยู่ แม้ว่าคุณจะประสบความสำเร็จในการทำให้พวกเขายอมรับระบบความเชื่อตั้งแต่อายุยังน้อย ในไม่ช้าพวกเขาจะเติบโตและเริ่มมีแนวทางของตัวเอง
9. พวกเขาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ต่างจากรุ่นที่คาดการณ์ได้ก่อนหน้านี้ นักการตลาดมีปัญหาหนักใจเมื่อกำหนดเป้าหมายไปที่ Gen Alpha เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นปัจเจกมากกว่าและด้วยเหตุนี้จึงไม่ตกอยู่ในกลุ่มคนที่มีอำนาจเหนือกว่า ดังนั้น เมื่อคุณคิดหาข้อสรุปทำนายพฤติกรรมของพวกเขา พวกเขาก็เปลี่ยนไปอีกเสียแล้ว
10. วัยเด็กของพวกเขาแตกต่างกันมาก
Gen Alpha ต่างจากพ่อแม่รุ่นมิลเลนเนียลที่ชอบเล่นกลางแจ้งและใช้เวลาเพื่อความสนุกอย่างไม่รีบร้อน แต่พวกเขาอาศัยอยู่ในโลกแห่งการแข่งขัน ด้วยความที่โลกแคบลงจากเทคโนโลยี ทำให้เป้าหมาย และความสำเร็จของคนรอบตัวมีแตกต่างกันมาก เพิ่มแรงกดดันในพวกเขาต้องกระตุ้นตัวเองให้พัฒนาขึ้นตลอดเวลา ต้องใช้เวลาในการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อความเป็นเลิศ แม้ว่าวิธีนี้จะได้ผลสำหรับบางคน แต่หลายคนอาจรู้สึกเครียดและวิตกกังวล
11. อาหารของพวกเขา
คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และไดอารี่ออร์แกนิกจะเป็นส่วนใหญ่ของสิ่งที่พวกเขาชอบที่จะดื่มด่ำเพราะพวกเขาต้องการพลังงานทั้งหมดที่พวกเขาจะได้รับ Gen Alphas ส่วนใหญ่มักติดพาสต้า มักกะโรนีและชีส และซีเรียล อาหารที่มาพร้อมกับไขมันอิ่มตัว แม้ว่าจะถือว่าไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ Generation ของพวกเขาก็ยังคงมีอายุขัยเฉลี่ยมากกว่ารุ่นก่อน ๆ
การเลี้ยงดูเด็ก Alpha Gen!!
ต่อข้อคำถาม และความกังวลใจทั้งหลายว่าควรเลี้ยงดูลูก Alpha Gen อย่างไรให้ห่างไกลความเสี่ยงจากโรคทางใจ ให้มีสุขภาพจิตที่ดี มาร่วมหาคำตอบจากข้อแนะนำในการเลี้ยงเด็ก Alpha Gen ของ รศ. นพ.สุริยเดว ทรีปาตี จากสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้ให้แนวทางในการเลี้ยงดูไว้เป็นขอบเขต ซึ่งมีทั้งหมด 5 แนวทางด้วยกัน ดังนี้
1. เป็นนักคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มศักยภาพใหม่ๆ ให้กับลูก
ฝึกให้เด็กคิดและวิเคราะห์โดยเริ่มจากการชวนกันตั้งคำถาม ข้อสังเกต ให้เด็กรู้จักวิธีแก้ปัญหา ได้ฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณไตร่ตรอง ฝึกให้ลูกคิดว่าเรื่องที่ได้ฟัง ได้เห็น ได้รู้นั้นเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ สมควรเชื่อถือหรือไม่
2. เพิ่มเติมความรู้ในโลกความเป็นจริงแทนความเพ้อฝัน
สนับสนุนให้ลูกคิดในสิ่งที่เป็นไปได้ ทำได้โดยพ่อแม่ต้องสื่อสารกับลูกด้วยเหตุผล ฝึกลูกให้คิดเป็น เพื่อให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย รู้จักคิด ตัดสินใจ วางแผน และแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง รู้เท่าทันคน
3. ส่งเสริมสภาพอารมณ์ สังคม จิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม
สิ่งสำคัญพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ใช้วิธีการสอนด้วยความรักและสัมพันธภาพที่ดี จะทำให้เด็กค่อยๆ ซึมซับเอาแบบอย่างที่ดีนั้นมาปฏิบัติตามจนเกิดเป็นนิสัย
4. พ่อแม่ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยการเปิดใจรับฟังลูก
โดยพ่อแม่สามารถสังเกตทัศนคติ มุมมอง ความคิดของลูกได้ และใช้วิธีการพูดคุย แลกเปลี่ยน สั่งสอน ปลูกฝังสิ่งที่ดีต่างๆ เพื่อเขาจะได้เกิดวิธีคิดที่ดีและถูกต้อง
5. การเลือกรับสื่อให้เด็กอย่างสร้างสรรค์
พ่อแม่ควรใช้สื่อให้สร้างสรรค์ คิดให้เท่าทันสื่อ ให้คำแนะนำในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็ก และร่วมกันหาทางรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://parenting.firstcry.com/https://www.istrong.co/https://dmh.go.th
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี เป็นภัยต่อพัฒนาการลูกลงโทษแบบไหนถึงดี
GEN ME!!Genที่ หลงตัวเอง คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เป็นอยู่หรือเปล่า
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่