สับสน ซ้ายขวา เป็นเรื่องปกติไหม ลูกอายุเท่าไหร่ถึงควรแยกแยะได้ หาคำตอบพร้อมกัน แถมเรียนรู้วิธีสอนลูกแยกแยะซ้ายขวาด้วยวิธีสุดน่ารัก เตรียมให้ลูกพร้อมก่อนใคร
6 เทคนิคสุดน่ารัก และสร้างสรรค์ช่วยลูกแยกแยะ ซ้ายขวา ได้ง่าย ๆ
เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หน้าเดิน…
คำสั่งง่าย ๆ เช่นนี้คุณสามารถปฎิบัติได้อย่างทันทีเลยหรือเปล่า ลองเช็กตัวเองกันดูสิว่า เราต้องฉุกคิดสัก 1-2 วินาทีหรือไม่ก่อนปฎิบัติตาม หรือต้องระลึกนึกถึงสิ่งใดก่อนถึงทำตามกันได้นะ หรือว่าไม่สามารถแยกซ้ายขวาได้เลย
ปกติแล้วสมองซีกซ้ายจะควบคุมการทำงานของสมองซีกขวา และสมองซีกขวาก็ควบคุมการทำงานของสมองซีกซ้ายสลับกันไปอยู่ตลอดเวลา ผู้หญิงซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้สมองทั้งสองซีกไปพร้อม ๆ กัน ทำให้มีโอกาสสับสนเวลาแยกฝั่งซ้ายและขวา ในขณะที่ผู้ชายใช้สมองทีละซีก จึงมีโอกาสสับสนเรื่องซ้ายขวาได้น้อยกว่าผู้หญิงนั่นเอง
ดังนั้นหากคุณต้องฉุกคิดสัก 1-2 วินาทีก่อนทำ ถือได้ว่าไม่ผิดปกติร้ายแรง นอกจากว่าจะไม่สามารถแยกซ้ายและขวาได้เลยจริง ๆ และมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แบบนี้เราสามารถไปปรึกษาแพทย์ได้เพื่อหาสาเหตุได้
สมองควบคุมการสั่งการซ้ายขวาอย่างไร
การทำงานของสมองที่แบ่งเป็นซ้ายและขวานั้นถูกพบในปี 1960 โดยนักจิตวิทยาทางประสาท Roger W. Sperry การรับรู้ซ้ายขวานั้นเป็นการทำงานของระบบประสาทเหมือนกับความสามารถในด้านอื่น ๆ เช่น ประสาทการมองเห็น ภาษา ตรรกะ ความจำ เป็นต้น ซึ่งความผิดปกติในการแยกซ้ายขวานั้น มักจะพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการทำงานของสมองนั้นจะทำงานโดยให้สมองซีกซ้ายจะควบคุมการทำงานของร่างกายในด้านขวา และสมองซีกขวาจะควบคุมการทำงานของร่ายกายในด้ายซ้าย ซึ่งผู้หญิงจะใช้สมองทั้งสองข้างพร้อม ๆ กันในการคิดวิเคราะห์ทำให้เกิดอาการสับสนได้ง่ายเวลาแยกซ้ายขวา แต่ในขณะที่ผู้ชายจะใช้สมองที่ละซีกในการคำนวนทำให้มีโอกาสที่จะสับสนเรื่องการแยกซ้ายขวาได้น้อยกว่าผู้หญิง
สับสนซ้ายขวา
การรับรู้ซ้ายขวา เป็นกระบวนการทางจิตวิทยาที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาท เช่นเดียวกับความสามารถในการรวบรวมข้อมูลประสาทสัมผัสและการมองเห็น ภาษา และความจำ สำหรับบางคนอาจตัดสินใจเลือกได้ในทันที แต่สำหรับบางคนต้องหยุดคิดสักชั่วครู่จึงจะสามารถแบ่งแยกได้ว่าทางใดซ้ายหรือขวา ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องแย่อะไรหากเราไม่สามารถตัดสินใจเลือกซ้ายขวาได้ในทันที หรือมีอาการสับสนซ้ายขวา แต่ก็มีหลายสถานการณ์ที่ความสับสนระหว่างด้านซ้ายและด้านขวาก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง หลายอาชีพที่สร้างความผิดพลาดอย่างมากหากมีปัญหาในการแยกแยะความแตกต่างดังกล่าว เช่น ในงานทางด้านการแพทย์อย่างการผ่าตัดเปลี่ยนไตผิดข้างหรือการตัดขาผิดข้าง เป็นต้น แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดได้น้อยก็ตามที ด้วยเพราะขั้นตอนการวางแผนทำงานของแพทย์ แต่ก็คงทำให้ผู้ที่มีปัญหารู้สึกกังวล และไม่มั่นใจเป็นอย่างมาก
การเรียนรู้ซ้ายขวาไม่ใช่เรื่องไกลตัว
แม้ว่าการเลือกซ้าย หรือขวาได้ถูกต้องนั้นจะฟังดูเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่อย่าลืมกันนะว่า ทิศทางซ้ายขวานั้นมีให้เราได้ตัดสินใจตลอดเวลารอบตัวเรา ในทุก ๆ กิจกรรมในชีวิตประจำวันนั้น อย่างน้อยการรับรู้ในเรื่องด้านซ้าย ด้านขวาก็เป็นเรื่องที่คุณต้องเผชิญตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านเสียแล้ว หากคุณต้องการใส่รองเท้าให้ถูกข้าง
การตัดสินใจเลือกซ้ายขวาได้โดยทันทีนั้นจึงมักมาจากความเคยชินของเรามากกว่าการรอคำสั่งจากสมอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่จะสอนลูกน้อยของคุณให้คุ้นชิน และรับรู้ในเรื่องทิศทางซ้ายขวากันเสียตั้งแต่เด็ก ยิ่งโดยเฉพาะในเด็กอายุ 3.5 ปีนั้น เรียกได้ว่าเป็นงานท้าทายของเขาอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
6 เทคนิคสุดน่ารัก และสร้างสรรค์ช่วยลูกน้อยฝึกทักษะแยกซ้ายขวา
- Right First,Please
ในทุกกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่เริ่มตื่นนอนตอนเช้า พ่อแม่สามารถกำหนดข้อตกลงกับลูกเล่น ๆ ได้ว่า ให้เริ่มต้นด้วยด้านขวา มือขวาก่อนเสมอ เช่น เวลาแต่งตัว ให้ใส่แขนเสื้อด้านขวาก่อน พร้อมทั้งพูดกับลูกไปด้วยในขณะที่แต่งตัวให้เขาว่า มือขวาหนูใส่ในแขนเสื้อเรียบร้อยแล้ว หรือใส่ถุงเท้าด้วยเท้าข้างขวาก่อน เป็นต้น
- ทริกเล็ก ๆ ในรองเท้าของหนู
อย่างที่รู้กันว่าการใส่รองเท้านั้นจำเป็นต้องรู้ข้างซ้ายข้างขวา ดังนั้นจึงเป็นการดีที่พ่อแม่จะใช้เทคนิคดี ๆ มาช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ทิศทางด้านซ้ายขวากัน โดยอาจเริ่มจากการเขียนชื่อของลูกลงบนกระดาษ จากนั้นตัดแบ่งครึ่งแล้วนำกระดาษที่เขียนชื่อครึ่งแรกไปติดลงบนรองเท้าข้างซ้าย และครึ่งหลังไปติดบนรองเท้าข้างขวา เวลาลูกใส่รองเท้าก็จะสามารถใส่ได้ถูกต้องจากการสะกดชื่อของเขานั่นเอง (วิธีนี้อาจเหมาะกับเด็กที่สามารถอ่านตัวหนังสือได้ หรือจำชื่อของเขาได้แล้ว)
อีกตัวอย่างที่สามารถนำไปใช้เป็นเทคนิคในการจำให้แก่ลูก เช่น ใช้สติกเกอร์สีแดง (Red) แทนคำว่า Right (ข้างขวา) ติดลงบนรองเท้าข้างขวา และใช้สติกเกอร์สีเขียว (Lemon Green) แทนคำว่า Left (ข้างซ้าย) ติดลงบนรองเท้าข้างซ้าย ให้เป็นจุดสังเกตแก่ลูกเวลาใส่รองเท้า นอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องซ้ายขวาแล้ว ยังสามารถสอนคำศัพท์ให้แก่เจ้าตัวเล็กได้อีกด้วย
- สร้าง Landmark จุดสังเกตให้แก่ลูก
ในบางคนอาจใช้จุดสังเกตที่มีอยู่บนตัว เช่น ไฝ รอยแผล หรือขี้แมลงวัน มาใช้เป็นตัวช่วยในการจำด้านซ้ายขวา ยอมรับมาเถอะว่าคุณก็เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พ่อแม่จะสร้าง Landmark ขึ้นมาให้กับลูกเพื่อใช้เป็นจุดสังเกตในการตัดสินใจเลือกซ้ายขวาได้อย่างถูกต้อง โดยอาจจะใช้ริบบิ้นผูกที่ข้อมือ หมึกปั๊มลายการ์ตูน หรือติดสติกเกอร์ลงบนมือข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นบอกลูกว่านี่คือมือข้างใด จากนั้นก็เล่นเกมยกมือให้เขายกมือตามคำสั่งซ้ายขวาให้ถูกต้อง ก็จะช่วยให้เขาจำด้านซ้ายขวาได้เร็วขึ้น
- ตัว “L” ข้างไหนเขียนถูก ใช่เลย Left Hand
วิธีง่าย ๆ และสร้างสรรค์ที่ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ใด ๆ ให้ยุ่งยากวิธีนี้ขอแนะนำคุณพ่อคุณแม่ลองสอนลูกกันดู โดยเริ่มจากการให้ลูกทำมือ ใช้นิ้วชี้ และนิ้วโป้งยืดออกมาเป็นรูปตัว “L” คือนิ้วชี้เหยียดตรง นิ้วโป้งยืดออกด้านข้าง และนิ้วที่เหลือพับงอเก็บไว้ เท่านี้เราก็จะได้รูปตัว “L” จากมือทั้งสองข้าง จากนั้นพ่อแม่ก็บอกให้ลูกสังเกตดูว่ามือข้างไหนที่ทำออกมาแล้วรูปตัว “L” นั้นเขียนได้ถูกต้อง ข้างนั้นก็คือ มือข้างซ้าย (Left Hand)นั่นเอง
- เรียนรู้ซ้ายขวาผ่านกิจกรรมเพลงเด็ก
เพลงสนุก ๆ ช่วยให้ลูกหันมาสนใจทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไม่น่าเบื่อ และสนุกสนาน ซึ่งเพลงที่ให้ทั้งความสนุกด้วยทำนองที่สนุกสนาน ไปพร้อมกับการสอนให้ลูกเรียนรู้ซ้ายขวาก็มีอยู่มากมายหลายเพลง สามารถหาได้ทั่วไป นำมาเปิดไปพร้อมร่วมเต้นไปพร้อมกับลูกก็ดีไม่น้อย
ตัวอย่างเพลง
เพลง Hokey Pokey
เนื้อเพลง
…You put your right foot out
⇒You put your right foot in
And you shake it all about
You do the Hokey Pokey and you turn yourself around
- หนูน้อยนักขับ (รถเข็น)
การเรียนรู้มีอยู่ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ระหว่างการช็อปปิ้งแสนเพลินเพลิด พ่อแม่ลองให้เจ้าตัวน้อยลองเป็นนักขับรถ (เข็น) คอยบังคับรถเข็น (โดยอาจช่วยเขาประคองทิศทางด้านหลัง) ให้ไปทางซ้าย ทางขวา โดยระหว่างเลี้ยวพ่อแม่ก็คอยพูดบอกทิศทางไปด้วย ลูกจะรู้สึกสนุกที่ได้ทำกิจกรรมแบบผู้ใหญ่ ได้บังคับทิศทางพร้อมทั้งฝึกฝนการเรียนรู้ซ้ายขวาไปด้วยในตัว
การเตรียมความพร้อมให้ลูกนั้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนมักวางแผน สนับสนุน ผลักดันทุกอย่าง ทุกทางเพื่อลูกน้อยเสมอ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยให้เขาได้เรียนรู้โลกกว้างด้วยความพร้อมอย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ ยิ่งโดยเฉพาะในเด็กยุคใหม่ที่พ่อแม่ควรเสริมทักษะความฉลาดรอบด้านให้แก่ลูก เพราะการเรียนรู้ของลูกไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ในห้องเรียนเท่านั้น
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.stkc.go.th/ www.playdoughtoplato.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่