เปิดเหตุผล!! พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน งานวิจัยชี้จากสิ่งนี้นี่เอง - Amarin Baby & Kids
พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน

เปิดเหตุผล!! พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน งานวิจัยชี้จากสิ่งนี้นี่เอง

Alternative Textaccount_circle
event
พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน
พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน

พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน กับสาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้น มาร่วมไขความลับไปกับงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงเหตุผล และอันตรายที่ลูกจะได้รับ อย่าคิดว่าแค่เรื่องเล็กน้อย

เปิดเหตุผล!! พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน งานวิจัยชี้จากสิ่งนี้นี่เอง

หากคุณเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่มีพี่น้อง เป็นพ่อแม่ที่มีลูกมากกว่า 1 คน หนึ่งในคำพูดที่มักอำกัน แหย่กันนั้น คงหนีไม่พ้น “ลูกรักของพ่อ” “ลูกรักของแม่” แต่รู้หรือไม่ว่า เมื่อ พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน ส่งผลกระทบต่อลูก และทั้งครอบครัว ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ

ผลงานวิจัยนักวิจัยอเมริกัน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่าร้อยละ 70 ของพ่อแม่มักจะมี “ลูกรัก” ที่รักมากกว่าลูกคนอื่น ๆ แม้จะเป็นลูกในสายเลือดที่คลานตามกันมา

นักวิชาการเชื่อว่า หากพูดกันจริง ๆ แล้ว พ่อแม่ทุกคนล้วนแต่มีความรักที่ 2 มาตรฐานที่ให้กับลูกแต่ละคน”

พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน จริงหรือ
พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน จริงหรือ

ผิดไหม…ที่รักลูกไม่เท่ากัน!!

ความรักเป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ ไม่เฉพาะแต่ความรักระหว่างหนุ่มสาว ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกก็เช่นกัน เพราะความรักเป็นเรื่องที่ไม่อาจฝืน!! พ่อแม่ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง การที่เราจะมีความรู้สึกต่อสิ่งใดนั้น เป็นเรื่องที่บังคับกันได้ยาก แต่หากคุณเป็นพ่อแม่ที่มีลูกมากกว่า 1 คน การระวังในแสดงออกถึงความรู้สึกต่อลูกแต่ละคนต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่ไม่อาจรักลูกได้เท่ากัน แต่สามารถแสดงออก และทำหน้าที่ของ พ่อแม่ ต่อลูกทุกคนอย่างเท่าเทียมกันได้

เช็กอาการเข้าข่าย เราเป็น พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน อยู่หรือไม่??

  1. ในการกระทำแบบเดียวกันของลูกสองคน คุณกำลังรู้สึกเครียด หงุดหงิด รำคาญ หมั่นไส้ กับลูกทั้งสองคนไม่เท่ากันหรือไม่
  2. รู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่กับลูกคนหนึ่งมากกว่าอีกคนหรือไม่
  3. สังเกตน้ำเสียงที่เราใช้พูดกับลูกแตกต่างกันระหว่างสองคนหรือไม่ เช่น คนหนึ่งเราพูดกับเขาอย่างอ่อนโยน อีกคนใช้น้ำเสียงแข็ง ดุดัน เหมือนเป็นคำสั่งมากกว่าคำพูดอยู่หรือไม่
  4. เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ทำร่วกัน เรามักเห็นภาพการมีกิจกรรม หรือช่วงเวลาดี ๆ กับคนหนึ่ง แต่กับอีกคนมีแต่เหตุการณ์น่าอึดอัดใจ เช่น ทำโทษ ทะเลาะกัน หรือไม่
  5. คุณสามารถนึกถึงด้านดีของลูกได้ง่าย และมากกว่าลูกอีกคนหรือไม่
  6. คุณกำลังพยายามหนึความจริง ด้วยการไม่ถูกใจ ไม่พอใจเวลามีคนพูดว่า คุณเป็นพ่อแม่ที่รักลูกไม่เท่ากันอยู่หรือไม่

เมื่อคุณพ่อคุณแม่เช็กลิสต์อาการเหล่านี้ได้ครบ หรือมีสัญญาณเตือนมากกว่าครึ่งหนึ่ง นั่นแสดงว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังเข้าสู่ภาวะ พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน เสียแล้ว

คำแนะนำสำหรับพ่อแม่

หากคุณพ่อคุณแม่สามารถยอมรับได้ว่า เราอาจจะไม่สามารถรักลูกทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกันแล้ว เราก็จะสามารถระมัดระวังในการแสดงออกได้ดีกว่าที่เราไม่ตระหนักรู้ข้อเท็จจริงในข้อนี้ วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการการแสดงออกถึงการรักลูกไม่เท่ากัน คือ การตระหนักถึงการปฏิบัติต่อลูกทุกคน และพยายามรักษาความยุติธรรมให้มากที่สุด แน่นอนว่ามันอาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในบางสถานการณ์ แต่ไม่เป็นไร เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่พยายาม เด็กก็สามารถรับรู้ถึงความตั้งใจดีนั้นได้ แม้ว่าเขาอาจจะพอรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้บ้าง แต่การกระทำของเราทำให้เขาเข้าใจเราได้มากขึ้น

เมื่อมีลูกอีกคน ทำให้พี่คนโตเกิดความคิด พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน
เมื่อมีลูกอีกคน ทำให้พี่คนโตเกิดความคิด พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน
  • ตระหนัก และเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าพ่อแม่จะซื้อของขวัญชิ้นหนึ่ง ลองเพิ่มการที่จะซื้อของขวัญอีกชิ้นหนึ่งให้ลูกทั้งคู่ หากเป็นการซื้อโดยไม่ได้มีวาระพิเศษ หรือเหตุผล เช่น เป็นวันเกิด หรือเป็นรางวัล ก็ควรตระหนักและพยายามซื้อให้ได้รับเท่าเทียมกัน หรือ หากคนหนึ่งได้รับค่าขนม อีกคนหนึ่งจะได้รับเช่นกันเมื่อเขาโตถึงวัยเดียวกัน
  • ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกแต่ละคน โดยพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้เห็นถึงความแตกต่างชัดเจน เช่น การใช้เวลาร่วมกัน ทำกิจกรรมเป็นครอบครัวร่วมกันให้มากที่สุด เป็นต้น
  • หากการแสดงออกถึงความรักที่ไม่เท่ากัน มันเกิดจากสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เช่น เมื่อคุณแม่เพิ่งคลอดน้องคนใหม่ ทำให้ต้องใช้เวลากับลูกคนเล็กมากกว่าลูกคนโต คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายบอกให้ลูกอีกคนเข้าใจถึงเหตุผล และกอดลูกให้บ่อยเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อให้เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความใส่ใจของเรา การกอดแม้เพียงเวลาสั้น ๆ แต่มากด้วยความจริงใจก็สามารถเยียวยาจิตใจ เพิ่มความอบอุ่นในใจลูกได้เสมอ แบ่งเวลาให้เขาเพียงสักนิดจะส่งผลดีต่อลูกอย่างมหาศาล เพราะความรู้สึกที่เสียไปแล้ว ซ่อมไม่ง่ายเลย
  • หาเวลาพักเสียบ้าง งานพ่อแม่เป็นงานที่ไม่มีวันหยุด ไม่มีวันลา การที่เราเหนื่อยล้า จะส่งผลต่อความรู้สึก และการตอบสนองต่อลูกได้ เด็กบางคนอาจเกิดมาเลี้ยงยาก หากพ่อแม่ไม่มีเวลาพักเหนื่อยล้าจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเกิดขึ้นได้ หาตัวช่วย คนช่วย ขอเวลานอกให้ได้พักกาย พักใจ เว้นระยะห่างเสียบ้าง จะช่วยให้จิตใจดีขึ้น
  • อย่าทำร้ายแม้ไม่ใช่ลูกรัก การรู้สึกว่าไม่เป็นลูกที่รัก ไม่ใช่ลูกคนโปรดก็ทำให้เด็กเจ็บปวดมากพอแล้ว พ่อแม่โปรดอย่าทำร้ายเขาเพิ่มด้วย คำพูด หรือการกระทำเพิ่มอีกเลย เช่น การพูดจาประชดประชัน เปรียบเทียบ หรือถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันเลย

เหตุใดจึงควร แสดงความรักในฐานะพ่อแม่ที่มีต่อลูกอย่างเท่าเทียมกัน

Mallory Williams,LCSW ได้ให้ข้อมูลถึงผลกระทบระยะยาวอย่างร้ายแรงต่อการเติบโตในครอบครัวที่แสดงออกถึงการรักลูกไม่เท่ากัน ไว้ดังนี้

“เด็กที่ไม่เป็นที่โปรดปราน เขาจะรับรู้ความรู้สึกนั้นได้และจะทำให้เด็กรับรู้ถึงการมีคุณค่าในตนเองต่ำ ความรู้สึกที่ถูกปฎิเสธ และไม่เป็นที่รัก ทำให้เด็กรู้สึกว่าเขาไม่เคยมีค่าควรแก่การเอาใจใส่ มอบความรัก และความภาคภูมิใจในแบบเดียวกับที่ลูกรักได้รับ ซึ่งมันจะส่งผลระยะยาวต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ในวัยเรียน และในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เนื่องจากความสัมพันธ์ในการเลี้ยงดูบุตรได้กำหนดรากฐาน และความคาดหวังของความสัมพันธ์ในอนาคต” วิลเลียมกล่าว

รักโดยไม่มีเงื่อนไข รักเท่าเทียม ทำได้จริงหรือ
รักโดยไม่มีเงื่อนไข รักเท่าเทียม ทำได้จริงหรือ

การไม่เห็นคุณค่าในตนเองนี้เองจะส่งผลอันตรายระยะยาวที่สำคัญที่สุด คือ โรคซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความไม่คงที่ของอารมณ์ และบาดแผลทางใจที่ส่งผลต่อการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และที่น่าตกใจ คือ ผลกระทบดังกล่าว ไม่ได้เกิดกับเด็กที่ไม่ใช่ลูกคนโปรดเท่านั้น แต่ลูกคนโปรดของพ่อแม่ก็สามารถได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน

เด็กที่เป็นลูกรัก แม้พวกเขาจะได้รับคำชม และการยกย่อง ซึ่งดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ความจริงแล้วพวกเขามักจะประสบกับปัญหากลัวการล้มเหลว กลัวทำได้ไม่ดีพอ และรู้สึกกดดันอย่างมากที่จะต้องรักษาผลงานเอาไว้ มันทำให้เด็กรู้สึกว่าไม่มีที่ว่างสำหรับความผิดพลาด นอกจากต้องแบกรับความคาดหวังที่มากับความรักที่ไม่เท่าเทียมแล้ว พวกเขายังมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพี่น้องคนอื่นอันเนื่องมาจาก ความรักที่ไม่เท่าเทียมที่พ่อแม่แสดงออกจนพวกลูก ๆ รับรู้ได้นี่เองอีกด้วย

Journal of Marriage and Family เปิดผลสำรวจพบว่า มีเพียงเด็กจำนวน 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่รู้สึกถึงการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันจากแม่ของพวกเขา การศึกษาพบว่า ความแสดงออกถึง พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะซึมเศร้าที่สูงขึ้นในผู้ใหญ่วัยกลางคน

อ่านต่อ >>งานวิจัยเผย!! เหตุผลที่พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up