ซิงเกิ้ลมัม ใครว่าแย่ เมื่อต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว รับมือได้ง่าย ๆ ด้วยเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกคนเดียว ที่ช่วยให้ลูกไม่รู้สึก ขาด เติมเต็มได้ ไร้ปัญหา
ซิงเกิ้ลมัม เลี้ยงลูกคนเดียวก็เฟี้ยวได้!! กับเคล็ดลับเติมเต็มลูก
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซิงเกิ้ลมัม ไม่ใช่เรื่องแปลกกับสังคมยุคปัจจุบัน ที่ผู้หญิงก็สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ ผู้ชายก็สามารถเลี้ยงลูกได้ ดังนั้นคำว่า ครอบครัวสมบูรณ์แบบ นั้น คงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่รูปแบบ พร้อมหน้า พ่อแม่ และลูกเท่านั้น แต่หากเป็น การที่เราสามารถเลี้ยงลูกให้ไม่เกิดความรู้สึก ขาด แม้จะมี แม่ หรือ พ่อเพียงลำพังก็ตาม ดังนั้นคำว่า สมบูรณ์ จึงเป็นการกล่าวถึงคุณภาพเสียมากกว่า คุณภาพชีวิตของลูก และความรู้สึกที่ได้รับการเติมเต็มก็สามารถนับได้ว่า เขาเติบโตมาพร้อมกับความสมบูรณ์ได้เช่นกัน
เลี้ยงเดี่ยว ก็เฟี้ยวได้ ถ้าสุขภาพจิตดี!!
พ่อ หรือแม่เลี้ยงเดี่ยว ส่วนใหญ่มักมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในการดูแลอารมณ์ หรือจัดการกับชีวิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย สาเหตุใด เช่น หย่าร้าง การตายของคู่ครอง หรือแม้แต่สมัครใจอยู่คนเดียวแต่ต้น สิ่งที่คนเหล่านี้มักเลือกปฎิบัติเมื่อต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสถานะ นั่นคือ ซิงเกิ้ลมัม เหล่านี้มักยุ่งอยู่กับการดูแลความต้องการของลูก ๆ จนมองข้ามความต้องการทางอารมณ์ของตนเอง ไม่ว่าจะด้วยเพื่อการชดเชยสิ่งที่ขาดหายให้กับลูก หรือด้วยเหตุผลอื่นใด แต่รู้หรือไม่ว่าการละเลยความต้องการของตนเองเป็นการกระทำที่ผิดพลาด
5 ขั้นตอน กับการจัดการอารมณ์ให้มีสุขภาพจิตที่ดี
พ่อ หรือแม่เลี้ยงเดี่ยวควรหันมาสนใจกับสุขภาพจิตของตนเองเป็นอันดับแรก เนื่องจากหากเราสามารถจัดการกับตัวเองได้แล้ว เราจะสามารถดูแลความรู้สึกของลูก และสามารถจัดการให้ความรู้สึก ความต้องการของทั้งสองฝ่ายเดินไปด้วยกันได้อย่างลงตัว ขั้นตอนในการจัดการอารมณ์ของตนเองเพื่อให้มีสุขภาพจิตที่ดี มีดังต่อไปนี้
- อย่าเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดของคุณ เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งที่มาจากความตั้งใจ หรือมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ความรู้สึกแรกของคุณคงต้องเริ่มจากความเจ็บปวดเป็นอันดับแรก ดังนั้นคุณควรยอมรับความเจ็บปวดทางอารมณ์นั้นเสียก่อน และเมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองเจ็บปวดมาเกินสองสามวันแล้ว ให้คุณรับรู้ และพิจารณาถึงความรู้สึกเจ็บปวดนั้น และหาทางแก้ไขเพื่อรักษาบาดแผลทางจิตใจของคุณ อย่าทำเป็นลืม หรือเพิกเฉยต่อมัน
- หยุดโทษตัวเองที่มากเกินไป หยุดวงจรเชิงลบทางความคิดของคุณเสีย เพราะมันจะนำไปสู่การขาดความมั่นใจในตนเอง
- ปกป้อง และรักษาความนับถือในตนเองของคุณ โดยเริ่มจากหลีกเลี่ยงการพูดถึงตนเองในเชิงลบ เลิกโทษตัวเองเป็นอันดับแรก
- ต่อสู้กับความคิดเชิงลบนั้นเสีย เมื่อเรายอมรับว่ามีความคิดเชิงลบในตนเอง ถึงเวลาที่เราจะลุกขึ้นสู้กับความคิดเหล่านั้นแล้ว ซึ่งวิธีการแห่งการต่อสู้คงมีรายละเอียดที่ต่างไปในแต่ละสถานการณ์ แต่ละคน โดยบางทีอาจเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่ตั้งเป้าหมายความสำเร็จง่าย ๆ ให้แก่ตัวเอง เมื่อเราทำสำเร็จเราจะรู้สึกถึงความภูมิใจในตนเองขึ้นมาบ้างหลังจากดำดิ่ง
- ค้นหาข้อมูล และวิธีการเยียวยาผลกระทบของบาดแผลทางจิตใจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการรับฟังประสบการณ์จากผู้ที่เคยประสบมาก่อน หรือ การฟังคำคมชีวิต หรือการออกไปท่องเที่ยวคนเดียว หรือวิธีอื่นใด ที่เมื่อคุณทำแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น
เคล็ดลับเติมเต็มให้ลูก ฉบับซิงเกิ้ลมัม
ในด้านสุขภาพจิตของเด็ก มีงานวิจัยพบว่าวัยรุ่นที่เติบโตจากการเลี้ยงดูโดยพ่อหรือแม่เพียงคนเดียวนั้น มีความเสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้า และขาดความเชื่อมั่นในตนเองมากกว่าเด็กที่มีทั้งพ่อ และแม่ ดังนั้น หากสังเกตเห็นสัญญาณผิดปกติของลูกอย่างการแยกตัวจากสังคม เศร้าซึม ดูเหงา พูดว่าตัวเองไม่ดี ไม่เป็นที่รัก และแสดงความหงุดหงิดหรือความสิ้นหวัง คุณแม่ควรพยายามพูดคุยรับฟังลูก และอาจพาลูกไปปรึกษาแพทย์
รีบแก้ไขก่อนเดินไปถึงจุดนั้น
หากคุณเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มให้แก่ลูกของคุณ ไม่ให้เข้ารู้สึกขาด คุณสามารถทำได้อย่างแน่นอน เมื่อเราสามารถเริ่มต้นการเป็นซิงเกิ้ลมัมด้วยสุขภาพจิตที่ดีจาก 5 ขั้นตอนข้างต้นแล้ว รับรองว่าเคล็ดไม่ลับ ฉบับซิงเกิ้ลมัมนี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณแม่ หรือคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวทั้งหลายช่วยปิดช่องว่างให้แก่ลูกของเราได้อย่างแน่นอน
เคล็ดไม่ลับ…ฉบับซิงเกิ้ลมัม
- มอบความรัก และความอบอุ่นให้ลูกอย่างเพียงพอ การดูแลเอาใส่ใจและแสดงให้ลูกเห็นว่าตนรัก และสนับสนุนลูกอยู่เสมอนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อ และแม่ด้วยตนเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยหากต้องออกไปทำงานนอกบ้านด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ควรจัดสรรเวลาว่างเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับลูกเป็นประจำ เช่น ออกกำลังกายนอกบ้าน เล่นกับลูก อ่านหนังสือไปพร้อม ๆ กัน หมั่นพูดคุยสอบถามความรู้สึก และชีวิตที่โรงเรียนของลูกอย่างใกล้ชิดเผื่อมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เป็นต้น
- สอนให้ลูกรู้จักระเบียบวินัย เช่น ฝึกให้ทำทุกอย่างเป็นกิจวัตร ทั้งเวลาตื่น กิน และนอน เพื่อให้เด็กจดจำ และรับรู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร การทำเช่นนี้จะช่วยให้แต่ละวันดำเนินไปอย่างราบรื่น และง่ายดายยิ่งขึ้น หากมีพี่เลี้ยงเด็ก ต้องบอกให้คอยสร้างระเบียบวินัยกับเด็กแบบเดียวกันด้วย เช่น สอนให้พูดจาไพเราะและให้เกียรติผู้อื่น จำกัดเวลาดูโทรทัศน์ เป็นต้น เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นและแสดงถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้นแล้ว คุณแม่อาจผ่อนผันกฎต่าง ๆ ให้เหมาะสมตามไปด้วย เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกอึดอัดหรือถูกบังคับมากเกินไป
- เลือกผู้ดูแลลูกที่เชื่อถือได้ สำหรับซิงเกิ้ลมัมที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง และต้องฝากให้คนอื่นเลี้ยงดูลูก ควรเลือกคนใกล้ชิดที่เชื่อใจได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กจะปลอดภัย และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในระหว่างที่คุณแม่ไม่อยู่ และไม่ควรปล่อยให้เด็กที่โตกว่า รวมถึงเพื่อนใหม่หรือคนรักใหม่ที่เพิ่งคบกันไม่นานมาดูแลเด็กเล็กเพียงลำพัง หากเลือกฝากเด็กกับสถานรับเลี้ยงเด็กหรือเนิร์สเซอร์รี่ก็ควรเลือกสถานที่ที่น่าเชื่อถือและมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
- ใส่ใจดูแลตนเองด้วย สุขภาพกาย และใจที่แข็งแรงของซิงเกิ้ลมัมจะช่วยให้รับมือกับความเหน็ดเหนื่อยจากการเลี้ยงลูกคนเดียวได้ดีขึ้น โดยควรกินอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ พักผ่อนให้เพียงพอเสมอ หมั่นออกกำลังกาย และจัดสรรเวลาให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชื่นชอบหรือผ่อนคลาย ทั้งนี้ คุณแม่ควรหาเวลาพักจากการเลี้ยงลูกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ชั่วโมง ในระหว่างที่ฝากลูกกับคนใกล้ชิดหรือจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้ดูแลลูกแทน
- ขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด เมื่อรู้สึกท้อ เหนื่อยจากการเลี้ยงลูก หรือพบเจอปัญหาใด ๆ อย่าแบกรับไว้คนเดียว คุณแม่ควรขอคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด เพื่อน หรือแม้แต่เพื่อนบ้านที่สนิทกัน เพราะการพูดคุยระบายความทุกข์จะช่วยให้สบายใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลังจากปรึกษาหรือขอความเห็นจากผู้อื่น คุณแม่อาจได้มุมมองและวิธีใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา ทั้งยังช่วยให้ไม่จมอยู่กับปัญหานั้นมากเกินไป
- เข้าร่วมกลุ่มให้ความช่วยเหลือในการเลี้ยงลูก หากไม่สามารถปรึกษาคนรอบข้างได้ หรือไม่สบายใจที่จะพูดคุยด้วย คุณแม่สามารถเข้าร่วมกลุ่มพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือองค์กรที่สนับสนุนด้านการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือแบบพบปะเห็นหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง และแนวทางในการเลี้ยงลูก
- อย่าโทษตัวเองที่ลูกต้องขาดพ่อหรือแม่ ควรให้ความสำคัญกับการเอาใจใส่ลูกให้ดีที่สุด ไม่ควรจมอยู่กับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และไม่ควรพยายามทดแทนสิ่งที่ลูกขาดด้วยการตามใจลูกทุกอย่างเป็นอันขาด
- มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ พยายามมองปัญหาต่าง ๆ อย่างมีอารมณ์ขัน และคิดในแง่บวกให้มาก และจำไว้ว่าการยอมรับกับลูกว่าคุณกำลังเครียด กดดัน หรือเผชิญปัญหาต่าง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย แต่ควรให้ความมั่นใจกับพวกเขาว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และไม่ควรคาดหวังให้เด็กเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดหรือคาดหวังให้เด็กประพฤติตัวเป็นผู้ใหญ่ เพราะเด็กก็ยังเป็นเด็ก การสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบตามที่ควรจะทำได้ในช่วงอายุนั้น ๆ เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว
- รู้จักปล่อยวาง ในกรณีที่พ่อแม่แยกทางกัน คุณแม่หรือคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวอาจอยากให้อีกฝ่ายมาหาลูกบ้าง โดยเฉพาะในโอกาสสำคัญอย่างวันเกิดหรือวันจบการศึกษาของลูก แต่ควรระลึกไว้ว่าบางสิ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้และไม่ควรคาดหวัง เพราะอาจทำให้รู้สึกขุ่นเคืองใจ สิ่งที่ซิงเกิ้ลมัมทำได้ก็คือพยายามทำในส่วนของตนเองให้ดีที่สุด
- ควบคุมสติอารมณ์ หากรู้สึกเหนื่อยล้าเพราะหลาย ๆ อย่างไม่เป็นดังใจ คุณแม่ที่เป็นซิงเกิ้ลมัมอาจสูญเสียการควบคุมตนเองได้ ดังนั้น เมื่อเกิดความรู้สึกหงุดหงิดหรือโมโห คุณแม่ไม่ควรใส่อารมณ์หรือใช้กำลังกับลูกเด็ดขาด เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่ส่งผลดีต่อเด็ก โดยอาจเดินออกไปสงบสติอารมณ์ หายใจเข้าออกช้า ๆ หรือเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการทำให้เป็นเรื่องตลกแทน
- เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยขณะอยู่กับลูก ๆ เพียงลำพังอาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก คุณแม่ควรเตรียมยาสามัญประจำบ้านให้พร้อม รวมทั้งเตรียมขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในกรณีฉุกเฉิน เช่น ขอเบอร์โทรศัพท์ของคนใกล้ชิดหรือเพื่อนบ้าน หาพี่เลี้ยงเด็กสำรองไว้เผื่อตัวเองป่วยเป็นไข้หวัดนอนซม เป็นต้น
- ไม่ควรสอนให้ลูกอคติต่อคุณพ่อหรือเพศชายเด็ดขาด เพราะอาจสร้างปมเมื่อลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ แต่ควรใช้บุคคลรอบตัวที่เป็นผู้ชายอย่างอา น้า หรือคุณปู่ เป็นตัวอย่างที่ดีในการสอนให้เด็กเห็นว่าผู้ชายที่ดีเป็นอย่างไร และผู้ชายไม่ได้เลวร้ายทุกคน เมื่อทำได้เช่นนี้ การเป็นซิงเกิ้ลมัมก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างแน่นอน
แม้ว่าช่วงจังหวะชีวิตบางครั้งเราก็ไม่สามารถกำหนดตามใจตัวเองได้ แต่ถึงอย่างไร ปัญหาก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายชีวิตที่เหลือของเราได้เช่นกัน หากคุณรู้จักตั้งสติ และเลือกที่จะก้าวเดินต่ออย่างมั่นใจ และเข้มแข็ง เพียงพอที่จะจูงมือนำพาลูกของเราไปสู่ความสุขให้แก่กันและกันได้ เราขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคุณแม่ที่เป็น ซิงเกิ้ลมัม และคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวทุกท่านให้มีพลังใจที่เข้มแข็ง และสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไปได้ และอย่าลืมให้กำลังใจกับตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะเราเชื่อว่า สุดยอดคุณแม่ สุดยอดคุณพ่ออยู่ในตัวคุณแล้ว
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.pobpad.com/www.psychologytoday.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่