นี่คือแนวทาง สิ่งที่ควรสอนลูก เพื่อให้ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่เติบโตเป็นคนดี มีความสุข มีจิตใจที่แข็งแกร่ง ต่อสู้ได้กับทุกปัญหาได้ กับคำแนะนำดีๆ จากนักจิตวิทยา 10 + 1 สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ!!
นักจิตวิทยาแนะ!! 10 สิ่งที่ควรสอนลูก + 1 ข้อ
ที่ควรทำเพื่อลูกและตัว (พ่อแม่) เอง
เชื่อว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคน ย่อมอยากให้ลูกน้อยของตัวเอง เป็นเด็กเก่งมีความสามารถ เพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพและมีอนาคตที่ดี ซึ่งนอกจากการส่งไปเรียนรู้ พัฒนาสมอง สร้างเสริมทักษะประสบการณ์ต่างๆ แล้ว ก็ยังมี สิ่งที่ควรสอนลูก เพื่อให้เขาเติบโตเป็นคนที่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมไปถึงเพื่อให้ลูกของเราเป็นบุคคลที่มีค่าและมีความสุขกับการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้นั่นก็เป็นเรื่องสำคัญ!!
ดังนั้นเพื่อเป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกให้กับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่สมัยนี้ ซึ่งเป็น สิ่งที่ควรสอนลูก ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เขาเป็นคนที่สมบูรณ์ในสังคม และมีชีวิตที่มีความสุข ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงขอเสนออีกหนึ่งคำแนะนำในการเลี้ยงลูกให้ถูกทาง กับ 10+1 ข้อที่พ่อแม่ควรทำ สิ่งที่ควรสอนลูก จากคุณครูเม เจ้าของเพจ ตามใจนักจิตวิทยา โดยคุณครูเม ได้บอกถึง 10 ข้อที่พ่อแม่ควรทำเพื่อลูก และ 1 ข้อที่พ่อแม่ควรทำเพื่อตัวเองเพื่อลูก ไว้ดังนี้ …
สิ่งที่ควรสอนลูก ข้อแรก ⇓
1. พูดในสิ่งที่จะทำ และทำในสิ่งที่พูดเสมอ
พ่อแม่ต้องตระหนักอยู่เสมอเมื่อเราสอนหรือบอกให้ลูกทำอะไรสักอย่าง แต่พ่อแม่เองก็ทำตามไม่ได้ เช่น
- ให้ลูกฟังพ่อแม่ แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยฟังเขา
- ให้ลูกพูดกับพ่อแม่ดีๆ แต่พ่อแม่กลับขึ้นเสียงใส่เขา
- ให้ลูกใจเย็นๆ แต่พ่อแม่ก็ใจร้อนเสียเหลือเกิน
- ให้ลูกมีวินัย ตรงต่อเวลา แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยมารับเขาตรงเวลาหรือเอาจริงเอาจังเรื่องตารางเวลาเสียที …ฯลฯ
ดังนั้น ก่อนจะบอกลูกให้ทำอะไร พ่อแม่ควรทำสิ่งนั้นให้ได้เสียก่อน หรือ อย่างน้อยต้องแสดงให้ลูกเห็นถึงความพยายามจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน ไม่ใช่คาดหวังให้ลูกทำอยู่ฝ่ายเดียว
สิ่งที่ควรสอนลูก ข้อต่อมา
2. มองเห็นและชื่นชมสิ่งดีๆ ที่ลูกทำ และบอกให้เขารู้ว่า พ่อแม่รับรู้ถึงสิ่งที่เขาทำด้วยความจริงใจ
ธรรมชาติของคนเรามักมองหาจุดด่างดำหรือตำหนิมากกว่ามองเห็นสิ่งดีๆ ที่มาควบคู่กัน พ่อแม่เวลามองลูก เรามักปฏิเสธไม่ได้ว่า เรามองเห็นปัญหาก่อนเรื่องดีๆ ในตัวเขา เราพุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาก่อนการชื่นชมสิ่งดีๆ ที่เขามี ณ ปัจจุบัน ดังนั้นวันนี้แม้ลูกเรายังมีอีกหลายอย่างที่เขาต้องปรับเปลี่ยนและเรียนรู้ แต่อย่าลืมมองหาสิ่งดีๆ และชื่นชมเขาด้วย ก่อนที่เขาจะท้อใจ เพราะวันทุกวัน ตัวเขามีแต่ข้อตำหนิไม่จบไม่สิ้น
ในทางกลับกัน บางครั้งเมื่อลูกทำสิ่งต่างๆ ได้ดี พ่อแม่อาจจะมองว่าเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว เช่น เมื่อพาลูกเล็กไปข้างนอก เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ทางลบหรือบ่นเหนื่อยเลย พ่อแม่อาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตรงนี้เขาทำได้ดีมาก พ่อแม่สามารถบอกให้ลูกรับรู้ได้เช่นกัน เช่น “ขอบคุณลูกนะ ที่วันนี้อดทนได้ดีมากๆ” หรือ “วันนี้ลูกอดทนและรอคอยได้เยี่ยมมากๆ เลย”
3. ให้ลูกเรียนรู้ผลลัพธ์ของการกระทำของเขาด้วยตัวเขาเอง
ถ้าสิ่งที่ลูกทำ ผลลัพธ์ของสิ่งนั้นไม่นำไปสู่อันตรายถึงชีวิต พ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกได้รับผลของการกระทำของตนเองบ้าง เช่น
เมื่อลูกอยากลองชิมอาหารรสเผ็ดของผู้ใหญ่ แม้เราจะเตือนแล้วก็ตาม ก็ลองให้เขาชิมดู และรับรู้รสเผ็ดดูบ้าง
เมื่อลูกอยากลองแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเอง (ด้วยวิธีที่ผู้ใหญ่อย่างเราก็รู้แหละว่า มันไม่ช่วยอะไร) ก็ลองปล่อยให้เขาลองผิดลองถูกดู
หรือ เมื่อลูกทำผิด เขาควรได้รับผลลัพธ์ของการกระทำ ซึ่งผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับกติกาของแต่ละที่ที่ตกลงกันไว้ ถ้าทำผิดที่โรงเรียน พ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกถูกโรงเรียนลงโทษ ไม่ควรปกป้องหรือแก้ตัวแทนเด็ก เพื่อให้ลูกเรียนรู้การกระทำของตนเอง ถ้าทำผิดที่บ้าน พ่อแม่ควรสอนเขา และงดกิจกรรมหรือสิ่งที่เขาชอบ ในบางครั้งอาจจะให้ทำงานชดเชยสิ่งที่ตนเองทำไป
เด็กเรียนรู้วันนี้ ดีกว่าเขาไปเรียนรู้ในวันข้างหน้า เพราะผลลัพธ์ในวันข้างหน้าอาจจะหนักหนาสาหัสกว่าผลลัพธ์ในวันนี้มากนัก ที่สำคัญเรียนรู้วันนี้ที่ยังมีพ่อแม่อยู่ ดีกว่าเรียนรู้ในวันที่เขาไม่เหลือใคร
อ่านต่อ >> “สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ..เพื่อลูกมีความสุขไปตลอดชีวิต” คลิกหน้า 2