จากการวิจัยพบว่า…
เราไม่อาจพูดได้ว่า ในใจเด็กจีนทั้งหมดนั้นไม่มี “พ่อแม่” เลย และเราจะโทษเด็กก็ไม่ได้ “การอบรมสั่งสอนของพ่อแม่” ต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในบรรดาพ่อแม่นั้นก็มีหลายประเภทอีกด้วย ทั้งๆ ที่พ่อแม่เหล่านี้ต่างก็รักลูกกันมากมาย แต่กลับไม่ได้รับความเคารพจากลูกๆ แล้วบรรดาพ่อแม่พวกนี้เป็นพวกไหนบ้าง?
กลุ่มที่ 1 คือ พ่อแม่ที่เอาแต่โทษว่าลูกไม่เชื่อฟัง
แล้วยังชอบเข้ามายุ่งทุกเรื่อง เช่น พ่อแม่ที่ชอบบังคับให้ลูกเรียนเปียโนทั้งๆ ที่ลูกก็ไม่ได้อยากเรียน หรือชอบเข้ามาแอบอ่านบันทึกของลูก อยากรู้ทุกเรื่องของลูก (ถ้าสิงในตัวลูกได้คงทำแล้ว)
กลุ่มที่ 2 คือ พ่อแม่ที่ชอบที่เอาความฝันของตนมาไว้ที่ลูก
ตนเคยอยากเรียนหมอ แต่เรียนไม่ได้ เลยบังคับว่าลูกจะต้องเรียนหมอให้ได้ โดยไม่เคยถามเลยว่าลูกชอบหรืออยากเป็นหรือไม่ อยากจะให้ลูกเป็นที่ 1ของห้อง ของโรงเรียน ของประเทศอะไรพวกนี้
กลุ่มที่ 3 คือ บรรดาพวกพ่อแม่สายเปย์
มีอะไรฉันจ่ายได้หมด เอาเป็นว่าบ้านรวยทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด ทำให้คนเคารพนบนอบได้แต่จริงๆ คนเขาเคารพนับถือเงินต่างหาก ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยเรื่องใหญ่อะไรก็ตาม พ่อแม่จะแก้ปัญหาได้ด้วยเงินและอำนาจบารมี
ฉะนั้นเมื่อเด็กไม่เห็นว่าพ่อแม่ทำตัวเป็นแบบอย่าง หรือไม่เข้าใจตน ไม่พอใจที่พ่อแม่กดดันตน แล้วจะมีความเคารพนับถือตัวพ่อแม่จากใจได้อย่างไร ความกตัญญูเป็นสิ่งที่ต้องทำออกมาจากใจ หากแม้แต่ความเคารพยังไม่มีแล้วนั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง “ความกตัญญู” หรอก
พ่อแม่จีนรุ่นใหม่มักจะคร่ำครวญว่า “ฉันรักลูกขนาดนี้ แต่แล้วลูกรักฉันบ้างไหม” หากว่าพ่อแม่ยังรักลูกและอบรมลูก รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกไม่ได้ แล้วจะเรียกร้องให้ลูกมารักเคารพและกตัญญูเราได้หรือ ดูแล้วไทยเราก็ไม่น่าจะต่างกันมากนัก
“พ่อแม่สายเปย์ พ่อแม่ที่เอาความฝันของตัวมาฝากที่ลูก พ่อแม่สายบังคับ” ล้วนแต่สร้างคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเคารพใคร แม้แต่ตัวเอง!!
…………………………………..
คอลัมน์ : ฝ่ากำแพงเมืองจีน
โดย “อ.ดร.ศิริเพ็ชร ทฤษณาวดี”
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วิธีสอนลูกหลานให้มีความกตัญญู
การที่ลูกหลานยุคนี้ ไม่ค่อยจะมีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ปู่ย่าตาทวดของตัวเองนั้น ถ้าจะว่าไปแล้ว ประเด็นใหญ่ๆ มีอยู่ 2 ประเด็น คือ
- นึกถึงพระคุณของพ่อแม่ไม่ออก
- ไม่รู้วิธีตอบแทนที่เหมาะสม
สำหรับพ่อแม่ มีพระคุณต่อลูก เรื่องหลักๆ อยู่ 3 เรื่องด้วยกัน คือ…
- ให้ชีวิตเพราะพอท่านรู้ตัวว่าเราอยู่ ในครรภ์ของท่าน ถ้าท่านไม่คิดจะเอาไว้ ท่านก็มีวิธี ที่จะทำให้เราตายตั้งหลายวิธี แต่คุณพ่อคุณแม่ ท่านกลับเปิดโอกาส ให้พวกเรามีชีวิตลืมตาขึ้นมาดูโลกกัน
- ให้ต้นแบบร่างกายที่เป็นคนซึ่งเป็นรูปร่างที่เหมาะสมในการที่จะประกอบคุณงามความดีทั้งหลาย ต่างกับรูปร่างของสัตว์โลกชนิดอื่นๆ ที่ไม่สามารถจะประกอบคุณงามความดีใดๆ ได้เลย
- ให้ต้นแบบทางจิตใจเมื่อเราคลอดออกมาแล้ว ท่านก็ไม่ได้ดูดาย ท่านสอนจิตใจที่เป็นมนุษย์ให้เรารู้ดี รู้ชั่ว รู้ผิด รู้ถูก รู้บุญ รู้บาป …แต่ว่าบางคนคุณพ่อมาตายเสียก่อนที่ ตัวเองจะคลอด เกิดมาจึงไม่เคยเห็นหน้าคุณพ่อ ถึงอย่างนั้น คุณพ่อก็ยังมีพระคุณ ตรงที่ท่านให้ชีวิตกับให้ร่างกายที่เป็นมนุษย์มา
พระคุณเพียง 2 ข้อนี้ก็มากมายแล้ว แต่มนุษย์ยุคนี้มองพระคุณหลักนี้ไม่ออก กลับไปมองที่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แล้วคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ท่านจะมีสมบัติ จะมีมรดกให้เท่าไร หรือท่านจะให้การศึกษา ให้นั่น ให้นี่อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องรองลงมา…