ป้อนกล้วยลูก ถูกต้องตามวัย ได้ประโยชน์เต็มที่ - amarinbabyandkids

ป้อนกล้วยลูก ถูกต้องตามวัย ได้ประโยชน์เต็มที่

event

ป้อนกล้วยลูก

√ กล้วยช่วยทำให้เด็กอารมณ์ดี

กล้วยหอมมีวิตามินบีอยู่มาก ซึ่งมีสรรพคุณที่สามารถช่วยลดความเครียดได้ นอกจากนี้ กล้วยยังมีโปรตีนชนิด try potophan ซึ่งช่วยทำให้เด็กรู้สึกอารมณ์ดี มีความสุข และสารโปแตสเซียมทำให้หัวใจทำงานได้ดี จึงส่งผลให้ออกซิเจนออกไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ ร่างกายจึงเกิดการผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้ความเครียดลดลง

√ กล้วยช่วยเรื่องระบบขับถ่ายของเด็ก

  • ช่วยแก้อาการท้องผูก การให้เด็กรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้เด็กไม่มีอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยอาหารอยู่มาก จึงช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวก
  • ช่วยแก้อาการท้องร่วง นำกล้วยดิบมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ ทั้งเปลือก ตากแห้งแล้วนำมาบดให้ละเอียดเป็นผงใช้ชงดื่ม ช่วยรักษาอาการท้องเสียหรือท้องเดิน อีกทั้งสามารถลดอาการท้องเฟ้อท้องอืดได้อีกด้วย

และนอกจากประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนี้ ในกล้วยยังมีวิตามินบี1ที่มีสรรพคุณในการป้องกันโรคเหน็บชา มีวิตามินซี ใช้ป้องกันโรคหวัด มีแมกนีเซียม ช่วยควบคุมความดันเลือดและมีแคลเซียม ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และปัจจุบันยังมีการสนับสนุนให้กินกล้วยมื้อเช้าทุกวันเพื่อล้างพิษและลดไขมันในร่างกายอีกด้วย (Hamachi,Asa Banana Diet,2008)

จะเห็นได้ว่า กล้วยๆ มีประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นที่มีราคาแพงกว่า อีกทั้งกล้วยยังหากินได้ง่าย มีทุกฤดูกาลและราคาถูกอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ลูก ๆ ได้กินกล้วยกันทุกวันเพื่อสุขภาพร่างกาย สมองและอารมณ์ที่ดีของเด็ก ๆ นั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดีเพื่อให้ลูกได้รับประโยชน์ของกล้วยอย่างถูกต้องและเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่ควรป้อนกล้วยลูกให้ถูกเวลา ถูกต้องตามวัยที่ลูกควรกินด้วย เพราะถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ป้อนกล้วยให้ลูกที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน เนื่องจากก่อน 6 เดือนเด็กยังมีกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่แข็งแรงเต็มที่ ระบบการย่อยยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมเข้าไป อาจมีความผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหารเนื่องจากเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันหลวมๆ ทำให้โปรตีนแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านโปรตีนแปลกปลอม แล้วนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ในอนาคต

แม้ว่าสารอาหารในกล้วยมีอยู่ประมาณ 20 กว่าชนิด แต่ในขณะที่สารอาหารในนมแม่มีมากกว่า 200 ชนิด ดังนั้นเทียบกันไม่ได้เลย แล้วทำไมถึงต้องรีบสละการกินอาหารที่มีสารอาหารมากกว่า ไปกินอาหารที่มีสารอาหารน้อยกว่าด้วย ผลไม้ย่อมเป็นอาหารที่มีประโยชน์แน่นอน แต่ต้องเริ่มกินในเวลาที่เหมาะสม

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th , www.bnhhospital.com พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up