การเลี้ยงดูแบบใด เสี่ยงลูกเป็นฮ่องเต้ซินโดรม?
กลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นฮ่องเต้ซินโดรม
- เด็กที่ถูกเลี้ยงโดยผู้ปกครองที่ตอบสนองความต้องการของเด็กตลอดเวลา เพราะเข้าใจว่าการตอบสนองเร็ว คือ ความสุขของลูก
- ผู้ปกครองที่ไม่เคยให้เด็กได้พบกับความผิดหวังใด ๆ เลย
- ผู้ปกครองที่ไม่เคยทำโทษ แม้ว่าเด็กจะทำผิดหรือทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ตาม
ผลกระทบจากภาวะฮ่องเต้ซินโดรม
ในระยะยาว เด็กที่มีภาวะนี้จะประสบกับปัญหาในด้านบุคลิกภาพ ดังนี้
- ขาดความยอมรับนับถือในตนเอง (Low Self-Esteem) เพราะได้สิ่งที่ตนเองต้องการมาได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพยายามอะไร จึงไม่มีความภูมิใจในตัวเอง
- ไม่รู้จักควบคุมและจัดการอารมณ์ของตัวเอง เมื่อรู้สึกผิดหวัง จะมีอาการเครียด โกรธ โมโห หรืออาจแสดงปฏิกิริยารุนแรงที่อาจรุกล้ำสิทธิของผู้อื่น เพราะไม่คุ้นเคยกับการยอมรับความต้องการของผู้อื่น
- มีความอดทนต่ำ ไม่ชอบความยุ่งยาก ไม่ชอบรอนาน เพราะชินกับการได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากพ่อแม่
- ก้าวร้าว เพราะไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง และคิดเพียงว่าความคิดของตนเองถูกต้องเสมอ ขาดความเคารพในตัวผู้อื่นที่คิดเห็นไม่ตรงกับตนเอง
- มีโอกาสที่จะติดสุราและยาเสพติด
- ผลการเรียนไม่ดี เนื่องจากเด็กที่มีภาวะนี้จะไม่มีเป้าหมายในชีวิต
- ไม่ชอบอยู่ในกติกาและข้อจำกัดใด ๆ สนใจแต่ความต้องการของตนเอง ไม่มีความเข้าใจเหตุและผลของสิ่งต่าง ๆ
- เห็นตนเองเป็นจุดศูนย์กลางของสังคม ต้องได้สิ่งที่ต้องการตลอดเวลา
ป้องกันภาวะ ฮ่องเต้ซินโดรม ได้อย่างไร?
ภาวะนี้ การเลี้ยงดูมีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการหลีกเลี่ยงให้ลูกห่างไกลจากภาวะฮ่องเต้ซินโดรม สามารถปฏิบัติตามหลัก 3 ประการต่อไปนี้
- ให้เวลาคุณภาพกับลูก โดยเวลาคุณภาพไม่จำเป็นต้องอยู่กับลูกทั้งวันทั้งคืนนะคะ คุณพ่อคุณแม่สามารถไปทำงานหรือทำสิ่งอื่น ๆ ได้ เพียงแต่ควรจะแบ่งเวลาอยู่กับลูกบ้าง โดยเวลาที่ใช้อยู่กับลูกนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรจะพุ่งความสนใจไปที่ลูกและครอบครัวเท่านั้น ไม่ควรนำเรื่องงาน หรือนำมือถือมาแทรกในช่วงเวลาที่อยู่กับลูก เล่นกับลูก เช่น การช่วยลูกทำการบ้าน หรือทานอาหารเย็นร่วมกันและพูดคุยกัน เป็นต้น
- ใช้กฏเกณฑ์กับลูกบ้าง เด็กทุกคนควรจะได้ทราบถึงกฏเกณฑ์ของการอยู่ร่วมกันในสังคม รู้ว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ สิ่งเหล่านี้จะสอนให้ลูกรู้ถึงระเบียบวินัย การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และการเข้าใจเห็นใจผู้อื่น
- ให้รางวัลเมื่อลูกมีความพยายาม ไม่ใช่ให้รางวัลเมื่อลูกทำได้นะคะ รางวัลนี้คุณพ่อคุณแม่จะต้องย้ำกับลูกว่าที่ได้รับรางวัลเพราะลูกมีความพยายามที่จะทำให้มันสำเร็จ ซึ่งต่อให้ทำไม่สำเร็จลูกก็จะได้รับรางวัลนี้อยู่ดี เพราะลูกมีความพยายามและความตั้งใจ สิ่งนี้จะทำให้ลูกเกิดความยอมรับนับถือในตนเองได้นั่นเอง (Self-Esteem) แต่ข้อควรระวังคือ รางวัลที่คุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกจะต้องเหมาะสมกับความพยายามและวัยของลูก ไม่ควรให้ของรางวัลที่มากเกินไป
พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนย่อมรักลูก ไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจหรือพบเจอกับสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร แต่ต้องอย่าลืมนะคะว่าหากลูกไม่เคยเสียใจเลย เมื่อโตขึ้นลูกจะต้องเจอกับโลกภายนอกที่อาจจะโหดร้ายกับลูกมากกว่าตอนที่อยู่กับพ่อแม่ แล้วลูกจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองได้อย่างไร เมื่อไม่มีพ่อแม่มาคอยแก้ปัญหาให้แล้ว
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
Self Esteem การเห็นคุณค่าในตนเอง สิ่งสำคัญที่ต้องสร้างให้ลูก
10 ทักษะสอนลูกให้เป็นคนดี มีศีลธรรม!
เดนมาร์กสอนวิชา “ความเห็นใจผู้อื่น” ในชั้นเรียน
เลี้ยงลูกอย่างไร? ให้ลูกมี พัฒนาการด้านอารมณ์ ที่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, youaremom.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่