ข้อที่สี่: เปิดอกคุยกัน
หากลูกไม่เล่นบทบาทสมมติกับคุณแม่ละก็ ให้คุณพ่อคุณแม่เรียกลูกมานั่งคุย แล้วก็เปิดอกไปพร้อม ๆ กันกับลูกเลยค่ะ ลืมว่าเราเป็นพ่อแม่ของเขา ให้พูดคุยเสมือนกับเพื่อนคุยกับเพื่อน ถามเขาว่า เขากลัวอะไร ทำไมถึงกลัว … เมื่อลูกยอมเปิดเผยความในออกมาแล้ว ก็ให้คุณพ่อคุณแม่บอกกับลูกว่า “คุณก็กลัวด้วยเหมือนกัน” แต่ตอนนี้คุณไม่กลัวแล้ว เพราะคุณผ่านจุดนั้นมาแล้ว รู้แล้วว่าสิ่งที่คุณกลัวนั้นไม่มีอยู่จริง จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัวอีกต่อไปอย่างนี้ เป็นต้น
ข้อที่ห้า: เกาหลัง
ไม่ต้องตกใจค่ะ การเกาหลังนี้ช่วยได้จริง ๆ เพราะตัวผู้เขียนก็ทำสิ่งนี้อยู่เป็นประจำ แต่เวลาเกาอย่าเกาแรงนะคะ เดี๋ยวหลังจะถลอกได้ แค่ลูบ ๆ เบา ๆ พอค่ะ เท่านี้ลูกก็จะรู้สึกผ่อนคลาย และยอมนอนหลับสบายโดยไม่ต้องเหนื่อยเลยละค่ะ
ข้อที่หก: เปิดไฟนอนบ้าง
หากมีความจำเป็นหรือรู้สึกว่า ลองมาแทบทุกวิธีแล้วแต่ไม่ได้ผลละก็ นอนเปิดไฟกันไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัว ในเมื่อ ลูกกลัวความมืด ดีนัก เพราะฉะนั้น การนอนเปิดไฟ จึงถือเป็นทางออกที่ดีอีกทางออกหนึ่งเลยละค่ะ นอกจากลูกจะไม่โวยวายแล้ว ลูกจะยังรู้สึกผ่อนคลาย และนอนหลับได้เร็วขึ้อีกด้วยละค่ะ
ข้อที่ 7: ให้กำลังใจ
อย่าลืมที่จะให้กำลังใจลูกทุกครั้ง ถึงแม้ว่าลูกจะทำไม่สำเร็จก็ตาม คุณพ่อคุณแม่จะต้องชมลูกว่า พวกเขาเก่งที่รับฟังในสิ่งที่คุณพูดและอธิบาย ถึงวันนี้ลูกจะยังไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อแม่พูดก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่ลูกสู้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่นานลูกก็จะสามารถฟันฝ่าความกลัวที่ว่านี้ไปได้ด้วยดี แล้วละค่ะ
อ่านต่อ บทความน่าสนใจ คลิก
บทความโดย: กองบรรณาธิการ Amarin Baby and Kids
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่