เรื่องก็มีอยู่ว่า คุณแม่คุณพ่อครอบครัวหนึ่งเชิญเพื่อนมาปาร์ตี้ที่บ้านตอนเย็น ในวันหยุดสัปดาห์ พอเพื่อนๆ มาถึงบ้าน สิ่งแรกที่ลูกชายวัย 3 ขวบ ของพวกเขาบอกกับแขกที่มาบ้านคือพ่อมีสายยางอยู่ที่จุ๊ดจู๋ด้วยล่ะ! ยังดีที่เพื่อนๆ ต่างก็รู้ว่าคุณพ่อบ้านท่านนี้เพิ่งผ่าตัดไส้เลื่อนไปหยกๆ
จะทำอย่างไรดีเมื่อลูกช่างจ้อผู้ใสซื่อของคุณดูจะตีแผ่เรื่องส่วนตัวมากเกินไปเสียแล้ว
1. ทำเป็นถึงบ้างอ้อ!
สำหรับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าสิ่งที่ลูกคุณพูดออกไปจะจริงหรือไม่ ให้ทำเป็นรับทราบแล้วเฉไฉออกข้างทางด้วยคำพูดเช่น เอ…สงสัยลูกคงไม่อยากฟังเรื่องตลกที่แม่ (หรือเพื่อนแม่) จะเล่าให้ฟังแล้วแน่ๆ เลย
2. อธิบายง่ายๆ
ถ้าคุณอยากอธิบายอะไรๆ โดยที่ความจริงไม่คลาดเคลื่อน แนะนำว่าไม่ต้องลงลึกในรายละเอียด เอาแค่ประมาณเอ่อ จริงๆ คนป่วยบางคนจะต้องใช้สายยางเป็นเรื่องปกติ แล้วสายยางก็ไม่ได้ใช้กับจุ๊ดจู๋ เท่านั้นนะลูก
3. คุยกับลูก
หลังจากแขกกลับไปแล้ว (และคุณก็หน้าชาไปแล้ว) ขออย่าเพิ่งโมโห ให้พูดกับลูกดีๆ เช่น แม่ไม่อยากให้ลูกเอาเรื่องที่ปกติเขาทำกันในห้องน้ำมาพูดกับคนที่ไม่ใช่ครอบครัวนะคะ เพราะว่ามันจะทำให้พ่อแม่อายนะลูก คุณครูแอนเซลมิ จากรัฐโอเรกอนผู้ได้ยินเรื่องน่าอิหลักอิเหลื่อสำหรับพ่อแม่ในทำนองนี้มาตลอด 20 ปีของการทำงาน แนะนำมา
4. เปลี่ยนเรื่องซะ
คุณครูแอนเซลมิชี้แจงว่า ถ้าคุณยิ่งทำเหมือนว่าเป็นเรื่องใหญ่ อธิบายยืดเยื้อไป ลูกคุณจะจับไต๋ได้ว่าการที่เขาพูดแบบนี้มันกระตุ้นต่อมหัวเสียของคุณได้ แล้วเขาอาจจะพูดอีกในโอกาสต่อไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ
5. อย่าไปเครียด
จดจำไว้เสมอว่า นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พ่อแม่ไม่ควรมานั่งตกอกตกใจกับคำพูดของลูกวัยนี้มากนัก ครอบครัวไหนๆ ก็มีเรื่องตลกๆ แบบนี้กันทั้งนั้นแหละ
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง