ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์ จนลูกเกือบเป็นใบ้!
ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ยังมองไม่เห็นภาพว่า การปล่อยให้ลูกอยู่แต่กับโทรศัพท์ หรือให้ ลูกเล่นโทรศัพท์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต จะมีผลเสียอย่างไร ตามมาอ่านเรื่องจริงที่ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids ไปเจอมา ซึ่งเล่าว่า…
ขออนุญาตเล่ากรณีตัวอย่างที่ผู้เขียนได้เคยเห็นมาเองกับตัว คือ ลูกชายวัย 7 ขวบ ของญาติฝั่งแม่นั้นเป็นเด็กที่ติดแท็บเล็ตมาก ขอย้ำว่ามากจริงๆ! ตอนแรกที่แม่เราเล่าให้ฟังเราก็ไม่คิดว่าจะหนักมากอะไรก็คงติดเหมือนเด็กทั่วไป แต่ไม่ใช่เลย น้องคนนี้มีอาการเก็บตัวอยู่แต่ในห้องตัวเอง จ้องอยู่แต่หน้าจอแท็บเล็ตทั้งวัน และเกือบทั้งคืน (จากที่แม่ของน้องบอกตอนได้คุยกัน) ถามว่าน้องจ้องอะไรนะหรอ น้องเล่นเกมส์ ดูยูทูป วนอยู่แบบนั้นตลอด
ช่วงแรกที่บ้านก็ไม่ได้อะไรชอบซะอีกที่น้องไม่ต้องออกไปเล่นนอกบ้านให้เป็นห่วง แต่เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วในระยะหลังเพราะน้องมีอาการไม่พูดไม่จากับใคร ถามอะไรก็ไม่ตอบ ไม่ออกจากห้อง เวลาทานข้าวแม่ก็เอาไปให้หรือออกมากินเองบ้างเป็นบางครั้ง
ถึงเวลาเปิดเทอมน้องก็ไปตามปกตินะ แต่ก็ไม่สามารถที่จะเรียนรู้เรื่องได้ คือเหม่อลอยบ่อย แม่ก็กังวลกลัวลูกจะมีปัญหาทางจิต ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาก็เป็นคนต่างจังหวัดไม่ได้คิดถึงเรื่องการไปพบจิตแพทย์แต่อย่างใด ประกอบกับที่บ้านของเขานั้นเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวจึงยุ่งวุ่นวายแต่กับลูกค้ากันทั้งบ้าน จนมีคนแนะนำหลายคนเข้าจึงตัดสินใจพาน้องไปหาหมอ
แต่ก็ยังเป็นหมอโดยทั่วไปอยู่แต่คุณหมอก็ให้คำแนะนำมาว่าให้ลูกเลิกเล่นแท็บเล็ตซะ เพราะมันคือสาเหตุหลักเลย เนื่องจากมันเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เข้าถึงโดยง่าย มีภาพ มีเสียง เคลื่อนไหวไปมา ทำให้เด็กรู้สึกสนใจและอยากจะเล่นมันไปเรื่อยๆ และที่สำคัญมันเป็นการสื่อสารทางเดียว เด็กได้ดูได้ยินอยู่ฝ่ายเดียว เด็กไม่สามารถตอบโต้ใดๆได้ จึงเกิดความเคยชินทำให้ไม่พูดไปโดยปริยาย
และที่เด็กเหม่อลอยนั้นเป็นเพราะสมาธิสั้น เกิดจากภาพและเสียงจากจอที่รวดเร็วไม่กี่วินาทีก็เปลี่ยนทำให้เด็กไม่ทันได้เกิดกระบวนการคิด หมอยังแนะนำอีกว่าให้ครอบครัวให้เวลากับลูก ลองชวนเขาออกมาช่วยงานก็ได้ พูดคุยถามโน่นนี่กับเขาบ่อยๆ ทางครอบครัวก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำ
น้องก็มีอาการค่อยๆ ดีขึ้น อาจจะหงุดหงิดในช่วงแรกเพราะไม่ได้เล่นแท็บเลต แต่ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว โชคดีที่น้องยังติดไม่ถึงปีจึงง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงหน่อย เสริมอีกนิดนอกจากข้อเสียดังกล่าวมาแล้ว จอแสดงผลของอุปกรณ์เหล่านี้ยังส่งผลไม่ดีต่อระบบประสาทตาอีกด้วย
ขอบคุณเรื่องราว ผลเสียของการให้ลูกดูมือถือ ทำลูกเกือบเป็นใบ้ จากเพจ Tom & Kate Baby Bedding
เทคโนโลยีนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียเท่าๆกัน อยู่ที่การเลือกใช้ประโยชน์ แต่ข้อเสียนั้นจะเกิดมากถ้าใช้โดยไม่เหมาะสมกับช่วงวัย ยิ่งกับเด็กด้วยแล้ว การคิด วิเคราะห์ แยกแยะยังไม่เป็นระบบเหมือนกับผู้ใหญ่ จึงมีผลต่อพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างมาก หากไม่อยากให้ผลกระทบดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับลูกคุณ ก็ลองทบทวนดูว่า แน่ใจแล้วหรือ? ที่จะปล่อยให้ลูกอยู่กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต