การเลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันให้เหมาะสมสำหรับลูกน้อย
ลักษณะของแปรงสีฟันที่ดี
- เป็นแปรงหัวตรง มีขนาดเหมาะสมกับช่องปากของเด็ก ขนแปรงมีลักษณะนุ่มและหน้าตัดเรียบ สำหรับด้ามจับควรเลือกให้มีขนาดพอเหมาะสำหรับให้เด็กจับได้ถนัดมือ ซึ่งแปรงสีฟันสำหรับเด็กสามารถหาซื้อได้ทั่วไปทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับการตัดสินใจของคุณพ่อ คุณแม่ที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับลูกน้อยของคุณ
- เมื่อได้ใช้แปรงสีฟันไปได้ระยะหนึ่งควรทำการเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ ซึ่งโดยปกติควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อใช้ไปนานเกิน 3 เดือน หรือเมื่อขนแปรงมีลักษณะบานออก
- สำหรับแปรงสีฟันเด็กที่ไม่ควรเลือกซื้อ คือ แปรงสีฟันที่มีขนแข็งๆ มีความสูงของขนแปรงที่ต่างระดับกัน เนื่องจากจะทำให้เกิดการฉีกขาดของเหงือกและเหงือกร่นได้ ให้เลือกซื้อที่เป็นแปรงสีฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะ
การเลือกยาสีฟันให้กับลูกน้อย
ยาสีฟันที่ควรเลือกใช้ควรเป็นยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุได้ดี ซึ่งความเข้มข้นของฟลูออไรด์ที่แนะนำให้ใช้สำหรับผู้ใหญ่คือ 1,000-1,500 ppm. สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปีซึ่งมีโอกาสที่เด็กจะกลืนยาสีฟันได้สูง อันจะก่อให้เกิดฟันตกกระ จึงควรเลือกซื้อยาสีฟันที่มีปริมาณของฟลูออไรด์ประมาณ 500 ppm. แทน
ปริมาณของยาสีฟันที่เหมาะสมสำหรับเด็กแต่ละวัย
- สำหรับเด็กที่ยังไม่มีฟันขึ้นในช่องปาก ให้ทำความสะอาดช่องปากโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดบริเวณสันเหงือกบนและล่าง บริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นให้สะอาดภายหลังการดื่มนมหรือการรับประทานอาหารทุกครั้ง
- เมื่อลูกมีฟันขึ้นมาในช่องปากเต็มซี่ ซึ่งอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 3 ปี แนะนำให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ปริมาณเล็กน้อย โดยแตะยาสีฟันพอเปื้อนขนแปรง 1 จุด เมื่อแปรงฟันเสร็จแล้วให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฟองยาสีฟันออกไม่ให้กลืน
- เมื่อเด็กสามารถบ้วนปากได้เอง ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 3 ปีขึ้นไป ให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว แล้วให้เด็กบ้วนทิ้งเมื่อแปรงเสร็จ
- สำหรับเด็กที่อายุเกิน 6 ปีขึ้นไป ให้เพิ่มปริมาณยาสีฟันให้มากขึ้นได้