ติดเชื้อแบคทีเรีย – สำหรับเด็กๆวัยกำลังซน แน่นอนว่าย่อมขึ้นชื่อเรื่องการไม่ปล่อยให้ความกลัวเชื้อโรคร้ายมาขัดขวางการเล่นสนุกของพวกเขา ของเล่นมากมายก่ายกองที่เด็กๆ เล่นอยู่ทุกวัน รวมถึงจุดต่างๆ ภายในบ้าน หรือ ในสนามเด็กเล่นและเครื่องเล่นนอกบ้านสามารถเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็น และอาจทำให้เด็กๆ ป่วยได้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของร่างกายยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจต้องใส่ใจเรื่องสุขอนามัยของลูกเป็นพิเศษ ด้วยโรคติดเชื้อส่วนใหญ่สามารถติดต่อได้โดยตรงจากการสัมผัส
แหล่งเพาะเชื้อ ทำเด็กเสี่ยงป่วย ติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อไวรัส
ตามรายงานของ สมาคมจุลชีววิทยา Society for General Microbiology พบว่าแบคทีเรียบางชนิด สามารถแบ่งตัวทุกๆ 20 นาทีในอุณหภูมิที่เหมาะสมและสารอาหารที่เหมาะสม จากการศึกษาวัตถุที่มีการปนเปื้อนมากที่สุดภายในบ้าน พบแบคทีเรียมากกว่า 340 ชนิดซึ่งเชื้อบางชนิดสามารถพบได้ทั่วบ้านของคุณและทำให้ลูกคุณป่วย และอาจเกิดการติดเชื้อในรูปแบบต่างๆ เช่น ที่ผิวหนัง บาดแผล ระบบปัสสาวะ ปอด กระแสเลือด โดยเชื้อโรคส่วนใหญ่ที่สามารถพบได้บ่อย ได้แก่
- สแตฟฟิลโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus)
- ยีสต์และรา (Candida and Fungus)
- ซัลโมเนลลา (Salmonella)
- อีโคไล (E. coli)
- บาซิลลัส (Bacillus)
นอกจากนี้ ไวรัส SARS-CoV-2 หรือ ไวรัสโคโรน่า ที่ยังคงไม่หยุดการแพร่ระบาดสามารถพบได้บนพื้นผิวหลายแห่ง เชื้อต่างๆ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วเพราะอยู่ได้หลายชั่วโมงหรือหลายวันบนพื้นผิวบางชนิด จากการศึกษาพบว่า coronavirus สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมและพื้นผิวต่อไปนี้:
- ในอากาศ : นานถึง 3 ชั่วโมง
- พลาสติกและสแตนเลส : สูงสุด 72 ชั่วโมง
- กระดาษแข็ง : สูงสุด 24 ชั่วโมง
- ทองแดง : นานถึง 4 ชั่วโมง
ทั้งสถานที่นอกบ้าน และภายในบ้านของคุณ สามารถเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง ต่อไปนี้เป็นจุดเสี่ยงทั้งนอกบ้าน และภายในบ้าน ที่อาจทำให้เด็กติดเชื้อต่างๆ ทั้งแบคทีเรียและไวรัสได้
1. สนามเด็กเล่น เสี่ยง ติดเชื้อแบคทีเรีย
นอกจากสนามเด็กเล่นจะเป็นพื้นที่แห่งความสุข สำหรับเด็กๆ แต่เชื่อว่ายังเป็นสถานที่ที่ผู้ปกครองคงอดกังวลเรื่องการเจ็บป่วยของลูกไม่ได้เช่นกัน สนามเด็กเล่นที่เต็มไปด้วยเด็กๆ ก็ย่อมมีโอกาสจะเต็มไปด้วยเชื้อโรค บางครั้งก่อนที่พวกเขาจะสัมผัสกับเครื่องเล่น หรือ สัมผัสกันและกัน เป็นที่รู้กันว่าเด็ก ๆ ไอจามอย่างอิสระและมักเช็ดจมูกด้วยมือของพวกเขา การล้างมือหลังจากใช้ห้องน้ำอาจใช้เวลานานเกินไปสำหรับเด็กที่ต้องการกลับไปสนุกสนาน นอกจากนี้เด็กวัยหัดเดินที่สวมผ้าอ้อมที่รั่วซึมอาจนั่งบนสไลเดอร์และชิงช้า ดังนั้นสนามเด็กเล่นหลายแห่งจึงมีเชื้อโรคที่น่าวิตกรวมทั้งเชื้อโรคที่พบในอุจจาระ
อุปกรณ์สนามเด็กเล่น โดยเฉพาะสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง แทบไม่เคยได้รับการทำความสะอาด หรือ นานๆ ครั้ง เชื้อโรคที่เป็นอันตราย เช่น เชื้อโรคในน้ำมูกที่เด็กๆ เช็ดออกจากจมูก สามารถคงอยู่ได้หลายวัน นอกจากนี้ ทรายในสนามเด็กเล่นก็มีความเสี่ยงที่กระรอกและนกสามารถทิ้งอุจจาระไว้ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคกระเพาะและการติดเชื้อที่ผิวหนังในเด็กเล็ก
สนามเด็กเล่นทั้งในร่ม และ กลางแจ้งบางแห่ง ให้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจ คือ มีการตรวจพบเชื้อแกรมบวก (PYOGENIC GRAM POSITIVE COCCI) ซึ่งเป็นสาเหตุทั่วไปของการติดเชื้อที่ผิวหนัง และอื่นๆ นอกจากนี้ ในสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง ยังสามารถพบเชื้อบาซิลลัส ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มักพบในดินที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก ซึ่งเชื่อมโยงกับการติดเชื้อที่ผิวหนังและโรคอื่นๆ ได้
อย่างไรก็ตาม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะกำจัดเชื้อโรคทั้งหมดได้ ดังนั้นควรสอนบุตรหลานของคุณว่าอย่าจับปาก จมูก หรือตา เมื่ออยู่ที่สนามเด็กเล่น วิธีที่ดีที่สุดที่คุณสามารถช่วยให้พวกเขาปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ คือ การทำความสะอาดมือของเด็กๆ ด้วยเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก่อนออกจากสนามเด็กเล่นทุกครั้ง นอกจากนี้สำหรับบ้านที่มีกระบะทรายเด็ก ควรปิดไว้เมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือเปิดตากแดดในบางโอกาส
2. กระโถน / ฝารองนั่งชักโครก
เป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจสำหรับพ่อแม่เสมอเมื่อลูกๆ เริ่มใช้กระโถนพลาสติกหรือที่นั่งชักโครก การฝึกขับถ่ายเป็นสิ่งจำเป็นและไม่สามารถละเลยได้ แต่กระโถนพลาสติกสำหรับฝึกและที่นั่งชักโครกเหล่านี้สามารถเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ขณะที่นั่งบนกระโถนสำหรับฝึกหัดหรือที่นั่งชักโครกลูกของคุณอาจสัมผัสกับสิ่งสกปรกจำนวนมากและอาจเอาเข้าปากได้
3. มือจับลิ้นชักและลูกบิดประตู
ไม่ว่าจะที่บ้านหรือนอกบ้าน ลูกของคุณต้องสัมผัสลูกบิดประตู ที่จับประตู หรือราวบันได พื้นผิวเหล่านี้มีหลายคนที่ต้องสัมผัสได้เช่นเดียวกัน บางคนอาจมือสกปรก บางคนอาจไอจาม ซึ่งอาจเกิดการแพร่เชื้อได้
4. เบาะคาร์ซีท / เบาะรถยนต์
คาร์ซีท หรือ เบาะในรถยนต์ ต้องผ่านเรื่องราวดราม่ามากมายในแต่ละการเดินทาง และมักเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกหลากหลาย เช่น อาเจียน น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระ อาหารที่หกเลอะเทอะ ขณะเดินทางออกไปเที่ยวเล่นในที่ต่างๆ เด็กๆ อาจนั่งอยู่ในจุดที่เปื้อนดินหรือโคลน ลูกของคุณต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรกจำนวนมาก หากเบาะไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อต่างๆ ได้
5. สวิตช์ไฟ
เด็ก ๆ โดยเพาะเด็กเล็กมักหลงใหลในสวิตช์ไฟ และชอบที่จะเปิดและปิดสวิตช์เหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เราอาจมองข้ามว่าสวิตซ์ไฟไป แต่ความจริงแล้ว มันเป็นหนึ่งในจุดที่สามารถพบเชื้อโณคได้มากที่สุด สวิตช์ไฟมีสิ่งสกปรกและแบคทีเรียจำนวนมากเนื่องจากมือที่มีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกไปสัมผัส ดังนั้นหากเป็นไปได้ คุณควรเช็ดทำความสะอาดสวิตซ์ไฟด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคบ้าง
6. รองเท้า
ไม่ว่าลูกของคุณจะไปที่ไหน รองเท้าก็ตามไปด้วยทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหาร พื้นรองเท้าและเชือกผูกรองเท้าเป็นสิ่งที่สกปรกที่สุดที่ลูกของคุณอาจสัมผัสได้ในแต่ละวัน และโดยส่วนใหญ่แล้ว เด็ก ๆ มักจะไม่ล้างมือหลังจากสัมผัสมันและอาจเอามือเข้าปากได้ทุกเมื่อ
7. อุปกรณ์กีฬา
บุตรหลานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยเตาะแตะหรือเด็กโต การใช้อุปกรณ์กีฬา เช่น ไม้ตี ลูกบอล สนับเข่า หมวกกันน็อค สนับศอก ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อและสิ่งสกปรกทำให้เกิดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังและโรคต่างๆในภายหลัง เราอาจมองข้ามพวกมัน แต่ด้วยสิ่งสกปรกและแบคทีเรียเพียงเล็กน้อย ก็สามารถพัฒนาเป็นเชื้อโรคที่น่ากลัวได้ เหนือสิ่งอื่นใด การรักษาสุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ลูกน้อยของคุณปลอดจากเชื้อโรคสกปรกที่อาจนำไปสู่การเจ็บป่วย
8. ห้องน้ำในบ้าน
ไม่น่าแปลกใจที่สถานที่ที่คุณใช้ในการชำระล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากร่างกายของคุณจะมีแบคทีเรียสะสมอยู่ และสำหรับบ้านที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ความชื้นจากการอาบน้ำอุ่นในห้องน้ำสามารถเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยจุดที่คุณควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษในห้องน้ำ ได้แก่ :
- อ่างอาบน้ำ
- ท่อระบายน้ำ
- ก๊อกน้ำ
- พื้นที่รอบห้องน้ำ
- ผ้าเช็ดตัว
- แปรงสีฟัน
อ่านต่อ…แหล่งเพาะเชื้อ ทำเด็กเสี่ยงป่วย ติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อไวรัส ได้ที่หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่