ซื้อหนังสือให้ลูก – เหตุใดการได้อ่านหนังสือ จึงส่งผลดีต่อเด็ก?? คำตอบคือ การอ่านทำให้เด็กถูกเคลื่อนย้ายไปสู่อีกโลกหนึ่งที่อยู่ระหว่างหน้าหนังสือ ทำให้เกิดจินตนาการกับชีวิตของตัวละครสมมติ มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างจากชีวิตจริงอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้เด็กๆ ยังสามารถเรียนรู้คำ และวลีใหม่ๆ ตลอดจนได้สัมผัสกับอารมณ์ที่หลากหลาย ได้รับทักษะและความรู้ต่างๆ จากหนังสือเล่มใหม่ เรื่องราวใหม่ๆ อย่างไม่รู้จบ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ตอกย้ำถึงประโยชน์ของการอ่านหนังสือ ซึ่งผลการศึกษาวิจัยได้ข้อสรุปว่า บ้านไหนยิ่งมีหนังสือที่บ้านเยอะ เด็กจะยิ่งเก่งวิชาการ และการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล!
ผลวิจัยชี้! ซื้อหนังสือให้ลูก อ่าน ยิ่งเยอะ ลูกยิ่งเก่ง!
- คนที่เติบโตมาในบ้านที่มีหนังสืออย่างน้อย 80 เล่ม ถึงจะทำคะแนนได้ถึงระดับเฉลี่ย หรือเรียกว่าพอที่จะมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม และประสบความสำเร็จในชีวิต
- คนที่เติบโตมาในบ้านที่มีหนังสือน้อยกว่า 80 เล่ม จะมีความฉลาดรู้ น้อยกว่าค่าเฉลี่ย และมักมีปัญหาทางการเรียน การหาเลี้ยงชีพ และความสุขในชีวิต
- ความฉลาดรู้จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนหนังสือในวัยเด็ก ค่าความฉลาดรู้ จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนคงที่ ที่ระดับจำนวนหนังสือประมาณ 350 เล่ม
การอ่านมีผลต่อพัฒนาการเด็กอย่างไร?
งานวิจัยหลายชิ้นที่ดำเนินการและจัดทำโดย BookTrust ได้ค้นพบประโยชน์ที่ลึกซึ้งของการอ่านเพื่อพัฒนาการของเด็ก งานวิจัยชิ้นหนึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบของการอ่านที่มีต่อทักษะการรู้หนังสือในอนาคต การอำนวยความสะดวกในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างผู้ใหญ่และเด็ก และการส่งเสริมให้เด็กมีส่วนร่วมกับโลกรอบตัวพวกเขา นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าการอ่าน ถือเป็น “แหล่งข้อมูลที่มั่นคงตลอดชีวิต” ของเด็กได้และอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเด็กที่ต้องเติบโตขึ้นมาในสถานการณ์ที่ท้าทาย
การอ่านมีประโยชน์หลายอย่างต่อพัฒนาการของเด็ก เช่น
- ช่วยพัฒนาองค์ความรู้ การพัฒนาความรู้ความเข้าใจหมายถึงวิธีที่เรารับรู้และคิดเกี่ยวกับโลกของเรา โดยอ้างอิงถึงความฉลาด การให้เหตุผล การพัฒนาภาษา และการประมวลผลข้อมูล การอ่านให้เด็กๆ ฟัง คุณได้ให้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับโลกของพวกเขา และเติมเต็มสมองด้วยความรู้พื้นฐาน จากนั้นพวกเขาใช้ความรู้พื้นฐานที่ได้มานี้เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่พวกเขาเห็น ได้ยิน และอ่าน ซึ่งช่วยพัฒนาความรู้ความเข้าใจของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น
- การพัฒนาความเห็นอกเห็นใจ เมื่อเราอ่านหนังสือ เราใส่ตัวเองในเรื่องที่อยู่ตรงหน้าเรา สิ่งนี้ช่วยให้เราพัฒนาความเห็นอกเห็นใจในขณะที่เราสัมผัสชีวิตของตัวละครอื่นๆ และสามารถระบุได้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร เด็กๆ สามารถใช้ความเข้าใจนี้เพื่อเห็นอกเห็นใจผู้อื่นในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากนี้ เด็กจะเข้าใจอารมณ์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจอารมณ์ของตนเองและของผู้อื่น สิ่งนี้ช่วยได้อย่างมากในการพัฒนาสังคมของพวกเขาในอนาคต
- เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้น หนังสือสามารถพาเราไปได้ทุกที่ ไปยังเมืองอื่น ไปยังอีกประเทศหนึ่ง หรือแม้แต่ไปยังโลกอื่น การอ่านหนังสือทำให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับผู้คน สถานที่ และเหตุการณ์ที่พวกเขาอาจไม่สามารถเรียนรู้ในชีวิตจริงได้ สิ่งนี้ทำให้เด็ก ๆ มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโลกรอบตัวพวกเขาและวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป
- การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หากผู้ปกครองอ่านหนังสือกับลูกเป็นประจำ พวกเขาจะพัฒนาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับเด็กๆ ได้อย่างไม่ต้องสงสัย การอ่านทำให้ผู้ปกครองมีโอกาสที่จะมีกิจกรรมร่วมกันเป็นประจำซึ่งทั้งผู้ปกครองและเด็กสามารถตั้งตารอได้ นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกถึงความเอาใจใส่ ความรัก และความมั่นใจแก่เด็กๆ อันเป็นกุญแจสำคัญในการเลี้ยงดูและความเป็นอยู่ที่ดี
นอกจากนี้ การอ่านหนังสือกับลูก สามารถสร้างความรักในการอ่านไปได้ตลอดชีวิต งานวิจัยหลายชิ้นพบความสัมพันธ์ระหว่างการอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นได้ในทุกวิชา!
ประโยชน์ของการอ่านหนังสือกับลูก ในด้านการศึกษามีมากมาย เช่น :
- ช่วยปรับปรุงทักษะวรรณกรรม การอ่านออกเสียงกับเด็กเล็ก ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจยังไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดอย่างถ่องแท้ แต่จะช่วยปูทักษะที่จำเป็นแก่พวกเขาเมื่อพวกเขาเริ่มอ่านได้ด้วยตัวเอง มันแสดงให้เด็ก ๆ เห็นว่าการอ่านเป็นสิ่งที่ทำได้โดยเน้นจากซ้ายไปขวา และการพลิกหน้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการต่อ การอ่านให้เด็กๆ ฟังแม้ในช่วงเดือนแรกๆ ของชีวิต สามารถช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาและกระตุ้นสมองส่วนที่ประมวลผลด้านภาษาได้
- ได้รู้คำศัพท์ที่หลากหลายมากขึ้น การได้ยินคำที่พูดออกมาดังๆ อาจทำให้เด็กๆ ได้รู้จักคำศัพท์และวลีใหม่ๆ ที่พวกเขาอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน โดยการอ่านให้เด็กฟังทุกวันพวกเขาจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ทุกวัน
- มีสมาธิที่มากขึ้น การอ่านอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อของเด็กได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะนั่งเฉยๆ และฟังได้เป็นเวลานาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาในการเรียน
- ช่วยให้ระดับความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูงขึ้น การอ่านหนังสือขึ้นอยู่กับการใช้จินตนาการในการสร้างภาพตัวละคร สภาพแวดล้อม และคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ต้องใช้จินตนาการหากต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับคนอื่น สถานที่ เหตุการณ์ และเวลา ในทางกลับกัน จินตนาการที่พัฒนาขึ้นนี้จะนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในชีวิต
สุดท้ายแล้ว ยิ่งเด็กได้อ่านหนังสือมากเท่าไหร่ และยิ่งได้อ่านด้วยตัวเองมากเท่าไหร่ พวกเขาจะเก่งขึ้นเท่านั้น และยิ่งเด็กอ่านหนังสือมากเท่าไร ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวม และทักษะทางสังคมของพวกเขา เช่น การเอาใจใส่ต่อสิ่งที่ต้องรับผิดชอบในชีวิตก็จะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น
ลูก 5 ขวบ อ่านหนังสือไม่ได้ ทำไงดี? มาช่วยลูกให้ “อ่านออก” กัน
9 เทคนิคต้องรู้ สอนลูกให้ชอบอ่าน พ่อแม่ต้องทำแบบนี้!
รู้แบบนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่คงอยากทราบถึงเทคนิคการอ่านหนังสือกับลูกเพื่อให้ลูกได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่แล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันเลย
เทคนิคในการการอ่านหนังสือกับลูก
การอ่านออกเสียงเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ที่ทั้งผู้ปกครองและเด็กสามารถเพลิดเพลินไปด้วยกันได้ นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมที่พบว่ามีผลสัมฤทธิต่อการเรียนและควรส่งเสริมอย่างสม่ำเสมอทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน
หากคุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือกับลูกที่บ้าน แสดงว่าเรากำลังเสริมสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในห้องเรียน รวมทั้งให้การสนับสนุนแบบตัวต่อตัวเพิ่มเติมแก่พวกเขาในขณะที่ห้องเรียนไม่สามารถให้ได้
เพื่อให้ลูกมีทักษะการอ่านที่ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ให้พิจารณา ประเด็นต่อไปนี้:
เริ่มตั้งแต่ลูกยังเล็ก เด็กสามารถดูภาพและฟังเสียงของคุณได้ การอ่านออกเสียงให้บุตรหลานฟังและชี้ไปที่รูปภาพและพูดถึงชื่อของสิ่งนั้นๆ จะช่วยให้เด็กๆ ได้รับข้อมูลสองทาง คือ ความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริง และความเข้าใจในความสำคัญของภาษา แม้ว่าลูกของคุณสามารถอ่านได้ด้วยตัวเองแล้ว คุณก็ควรอ่านออกเสียงพร้อม ๆ กัน เพื่อเป็นการฝึกฝน
ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน พยายามอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน และพยายามทำให้ดีที่สุด รวมสิ่งนี้เข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณและลูกของคุณ จนกว่าจะกลายเป็นนิสัยพอ ๆ กับที่พวกเขาแปรงฟัน อย่างไรก็ตาม อย่าท้อแท้หากคุณพลาดวันใดวันหนึ่ง เพียงแค่กลับมาทำกิจวัตรตามปกติเมื่อคุณมีเวลา
ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พยายามเปลี่ยนหนังสือที่คุณอ่านให้ลูกฟังให้มากที่สุด สิ่งนี้จะเปิดหูเปิดตาของพวกเขาสู่โลก วัฒนธรรม และตัวละครที่หลากหลาย และทำให้จินตนาการของพวกเขาขยายออกไปและเติบโตได้มากยิ่งขึ้น
มีความอดทนสูง บางครั้งเราอาจลืมไปว่าวัยนั้นเป็นอย่างไร ในฐานะผู้ใหญ่บางครั้งเราอาจมองว่าการอ่านออกเสียงเป็นเรื่องไร้สาระ แต่สำหรับเด็กๆ แล้วทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขา เช่น เด็กๆ ไม่สามารถรู้ได้ว่าต้องอ่านหนังสือจากซ้ายไปขวา จนกว่าคุณจะชี้ไปที่คำศัพท์และเริ่มอ่านให้ฟัง เพราะฉะนั้นจงสละเวลาของคุณในการสอนลูกๆ และใช้ความอดทนในการสอน
สรุปใจความหลังจากอ่านจบ หลังจากที่คุณอ่านนิทานให้ลูกฟังจนจบแล้ว ลองพยายามเล่าสรุปความต่อ คุณสามารถถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งอ่านได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ ตัวอย่างเช่น “คุณชอบเรื่องราวนั้นไหม”, “ตัวละครที่คุณชอบคือใคร?” หรือ “ทำไมคุณถึงคิดว่าเจ้าชายมีความสุขในตอนจบ?” อย่างไรก็ตาม อย่ารู้สึกว่าสิ่งนี้จำเป็นสำหรับทุกเรื่องราวที่คุณอ่าน หากลูกของคุณชื่นชอบการอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมพวกเขาจะพัฒนาความรักในการอ่านได้ไม่รู้จบ แม้จะไม่มีการสนทนาสรุปปิดท้ายก็ตาม
การอ่านหนังสือ นอกจากจะช่วยให้เด็กๆ เกิดจินตนาการและเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างทักษะความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ ให้กับเด็กๆ ได้หลายด้าน อาทิ ความฉลาดทางสติปัญญา IQ , ความฉลาดในการคิดสร้างสรรรค์ CQ และความฉลาดทางคุณธรรม MQ เป็นต้น รู้แบบนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาอ่านหนังสือกับลูกๆ ให้ได้มากที่สุด หรือซื้อหนังสือดีๆ ให้ลูกอ่าน เพื่อเปิดโลกการเรียนรู้ใหม่ๆ ให้เด็กๆ ต่อไปได้อย่างไม่รู้จบกันเถอะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : theguardian.com , highspeedtraining.co.uk
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิจัยเผย พ่ออ่านนิทานให้ลูกฟัง ส่งผลดีต่อลูกมากกว่าแม่อ่าน
5 เทคนิค อ่านหนังสือให้ลูกฟัง เริ่มตอนไหน? อ่านยังไง? โดย พ่อเอก
ชวนลูกอ่านหนังสือ พัฒนาสมอง ด้วยเคล็ดลับ 7 ข้อ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่