ฝึกลูกเดินอย่างไรให้เดินเป็นเร็ว
การใช้ตัวช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นเทคนิคที่จะทำให้ลูกเดินเป็นเร็วขึ้น และข่าวดีก็คือ คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ เลยในการฝึกให้ลูกเดินค่ะ และนี่ก็เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้ลูกเดินเป็นค่ะ
1. พยายามอย่าอุ้มลูกบ่อย ๆ
ใช่ค่ะ การอุ้มและการกอดลูกเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง แม่พริมาไม่ได้หมายความว่า จะไม่ให้อุ้มลูกเลยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถอุ้มหรือกอดเพื่อปลอบลูกได้เหมือนเดิมค่ะ แต่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือการอุ้มนาน ๆ หรืออุ้มเพื่อเดินไปให้ลูกไปในที่ ๆ ต้องการ เพราะนั่นหมายถึงลูกจะเรียนรู้ได้ว่าถ้าต้องการอะไรที่อยู่ไกลตัว ให้ร้องไห้และชี้เพื่อให้พ่อหรือแม่อุ้มพาไป หรือหากคุณพ่อคุณแม่รู้ใจลูกไปซะหมด ว่าลูกต้องการอะไร ก็อุ้มพาไปหาในสิ่งที่ลูกต้องการ ลูกก็จะไม่มีโอกาสที่จะได้ลองเคลื่อนที่แล้วลูกก็จะไม่มีแรงจูงใจในการเดินค่ะ
หากสิ่งของที่ลูกต้องการอยู่ไกลมาก จะทำอย่างไรดีล่ะ? คุณพ่อคุณแม่ช่วยได้ค่ะ เพียงแค่เอาของเล่นหรือสิ่งที่ลูกต้องการมาให้ แต่ไม่ให้วางไว้ที่มือลูกในทันทีนะคะ ควรวางให้อยู่ห่างจากตัวลูกและอยู่สูง (เช่น บนโซฟา หรือ โต๊ะ)พอสมควร เพื่อให้ลูกเห็น เมื่อลูกร้องขอจากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ ลูกก็จะพยายามไปหยิบสิ่งของนั้นด้วยตัวเอง โดยการเกาะโซฟา หรือ โต๊ะ ไปหยิบเอง เมื่อทำบ่อย ๆ เข้า ลูกก็จะเรียนรู้ได้ว่า ต่อไปจะต้องเดินไปหยิบเองนะ
2. อย่าใช้รถหัดเดิน
เพราะนอกจากจะอันตราย และ ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังไปสกัดกั้นการเรียนรู้ในการเดินของลูกอีกด้วย เพราะ รถหัดเดินจะพยุงสะโพกลูกให้อยู่ในท่านั่ง ลูกก็จะใช้ขาส่วนล่างในการเดิน แล้วลูกจะพัฒนากล้ามเนื้อสะโพกและต้นขา (ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการหัดเดิน) ได้อย่างไรล่ะคะ นอกจากนี้ลูกก็จะไม่รู้จักการทรงตัว ไม่รู้จักความกลัวที่จะล้ม เพราะรถหัดเดินคอยพยุงลูกไว้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ที่ใช้ในการหัดเดินที่ดีที่สุด ก็คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเองค่ะ เพียงแค่ใช้มือจับมือหรือรักแร้ลูกไว้ให้มั่นคง แล้วปล่อยให้ลูกได้ก้าวเอง โดยใช้กล้ามเนื้อสะโพกและต้นขาในการทรงตัว เท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ
3. ลดเวลาการนอนเล่นหรือนั่งเล่นบนเตียง
การให้ลูกนอน พลิกคว่ำพลิกหงาย และ นั่งบนเตียงนั้น เป็นที่ที่เหมาะสม แต่การให้ลูกคลาน ยืน หรือ เดิน บนเตียง นั้นจะไปขัดขวางพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของลูกแทน ถึงแม้ว่าการยืนหรือเดินบนเตียงจะทำให้ลูกปลอดภัยหากล้มหรือเกิดอุบัติเหตุใด ๆ แต่ความอ่อนนุ่มของเตียงหรือฟูกจะทำให้ยากต่อการทรงตัว การเดินบนพื้นที่อ่อนนุ่มจะทำให้เดินได้ยากกว่าการเดินบนพื้นที่แข็ง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะฝึกลูกเดินบนแผ่นรองคลานหรือพื้นหญ้าแทนได้ และควรจะจัดสถานที่ในการฝึกเดินให้ปลอดภัย โดยการนำสิ่งที่น่าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุออกจากบริเวณนั้น ๆ เช่น โต๊ะไม้แข็ง ๆ เก้าอี้ สิ่งของที่ตกอยู่ตามพื้น เป็นต้น
4. ให้รถผลักเดินเป็นตัวช่วย
ไม่จำเป็นต้องซื้อรถผลักเดินมาฝึกก็ได้นะคะ การใช้อุปกรณ์ที่อยู่รอบบ้านที่ไม่ลื่นจนเกินไป เช่น ลังกระดาษ (มีของอยู่ข้างในเพื่อเพิ่มน้ำหนักไม่ให้คว่ำ) หรือ มือของคุณพ่อคุณแม่ นี่แหละค่ะ มาเป็นตัวช่วย การฝึกการผลักเดินสำคัญอย่างไร เพราะการผลักเดินจะช่วยฝึกให้ลูกใช้สะโพกและต้นขาในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และเมื่อลูกทรงตัวได้มั่นคงพอ ลูกจะปล่อยรถหรืออุปกรณ์ผลักเดินได้เอง
5. ให้ลูกได้เดินเท้าเปล่าบ้าง
เมื่อเดินเท้าเปล่า เท้าของลูกจะได้สัมผัสพื้นผิวที่ที่ลูกกำลังยืนอยู่ ทำให้ลูกได้รับรู้ว่าพื้นที่เดินอยู่นั้นมีความแข็งมากเพียงใด ควรจะทรงตัวไปทางไหน ปล่อยให้ลูกได้ใช้นิ้วเท้าในการทรงตัวบ้าง ก็จะทำให้ลูกเดินได้อย่างมั่นคงมากขึ้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการหัดเดินของลูกนั้น คือ กำลังใจ หากคุณพ่อคุณแม่มัวแต่กังวลว่าทำไม ลูก 1 ขวบยังไม่เดิน และไปกดดันให้ลูกเดินให้ได้ ลูกก็จะรับรู้ถึงความกังวลนั้น จนทำให้ลูกกลัวและไม่กล้าที่จะเดินอีก สิ่งนี้อาจส่งผลให้ลูกมีพัฒนาการช้าได้นะคะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่