กุญแจสำคัญ 3 ขวบ ปีแรก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ พัฒนาการดี สมองดี มีความสุขไปจนโต

วิธีสร้างการเชื่อมต่อของสมอง ในช่วง 3 ขวบ ปีแรก

ตั้งแต่แรกเกิด เด็ก ๆ จะพัฒนาการเชื่อมต่อของสมองผ่านประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งพวกเขาสร้างขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับพ่อแม่และผู้ดูแล และโดยการใช้ประสาทสัมผัสเพื่อโต้ตอบกับโลกใบนี้ ประสบการณ์ในแต่ละวันของเด็กเล็กจะเป็นตัวกำหนดว่าสมองส่วนไหนที่พัฒนาและส่วนไหนจะคงอยู่ไปตลอดชีวิต จำนวนและคุณภาพของการดูแล การกระตุ้น และปฏิสัมพันธ์ที่พวกเขาได้รับในช่วงขวบปีแรกจะเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่าง

ความสัมพันธ์ของเด็กกับผู้ใหญ่ในชีวิตของพวกเขามีอิทธิพลที่สำคัญที่สุดต่อการพัฒนาสมองของพวกเขา ความสัมพันธ์ที่รักใคร่กับผู้ใหญ่ที่ตอบสนองและพึ่งพาได้นั้นมีความสำคัญต่อพัฒนาการที่ดีของเด็ก ความสัมพันธ์เหล่านี้เริ่มต้นที่บ้าน กับพ่อแม่และครอบครัว นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้ดูแลเด็ก ครู และสมาชิกคนอื่นๆ รอบตัวเด็กด้วย

ตั้งแต่แรกเกิด เด็กเล็กได้รับคำเชิญให้มีส่วนร่วมกับพ่อแม่และผู้ดูแลที่เป็นผู้ใหญ่คนอื่นๆ โดยการร้องไห้ ยิ้ม และร้องไห้ เด็กวัยหัดเดินสื่อสารความต้องการและความสนใจได้โดยตรงมากขึ้น คำเชื้อเชิญเล็กๆ น้อยๆ แต่ละคำเป็นโอกาสสำหรับผู้ดูแลที่จะตอบสนองความต้องการของเด็ก กระบวนการ “เสิร์ฟและส่งคืน” นี้เป็นพื้นฐานของการทำงานของสมอง พ่อแม่และผู้ดูแลที่ให้ความสนใจ ตอบสนอง และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกกำลังสร้างสมองของลูกอย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการพูดคุย ร้องเพลง อ่านหนังสือ และเล่นกับเด็กเล็กตั้งแต่วันแรกเกิดจึงมีความสำคัญมาก เพื่อให้พวกเขามีโอกาสสำรวจโลกทางกายภาพของพวกเขา และจัดหาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มั่นคง และน่าเลี้ยงดู

พัฒนาการทางสมองมีบทบาทสำคัญในพัฒนาการด้านการรับรู้โดยรวมของเด็ก ซึ่งช่วยให้เรามีทักษะการคิด การเรียนรู้ และการแก้ปัญหา ตั้งแต่แรกเกิดถึงสามขวบ สมองของลูกจะพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาการนี้ วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยพัฒนาสมองของเด็กๆ คือให้พวกเขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันผ่านกิจกรรมประจำวัน เช่น พูดคุย เล่น อ่านหนังสือ และปลอบโยนพวกเขาเมื่อพวกเขารู้สึกเครียด ซึ่งต่อไปนี้ คือ เทคนิคพื้นฐานที่สำคัญ 4 ประการที่ จะช่วยในการสร้างพัฒนาการที่ดีในด้านต่างๆ ให้แก่เด็ก

1.  พูดคุยกับลูก

พูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่คุณกำลังทำอยู่ อธิบายสิ่งที่คุณเห็นด้วยกัน เช่น “นี่คือสุนัข เขาตัวใหญ่และมีสีน้ำตาล ดูการกระดิกหางของมันสิ” เมื่อลูกของคุณเริ่มแสดงท่าทีการพูดอ้อแอ้ ให้พูดคุยกับพวกเขาราวกับว่าพวกเขากำลังสนทนากับคุณ ลองถามคำถามง่ายๆ ของเด็กวัยหัดเดินเพื่อช่วยกระตุ้นการตอบสนองของพวกเขา

2. เล่นกับลูก

การเล่นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการช่วยพัฒนาสมองของทารกหรือเด็กวัยหัดเดิน การเล่นอาจเป็นเกม พูดคุย หรือร้องเพลงเพื่อให้เด็กมีส่วนร่วม ง่ายๆ อย่างการ “จ๊ะเอ๋” และถือของเล่นออกมาให้ลูกเห็น ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อยสำหรับเด็กวัยเตาะแตะการร้องเพลงประกอบท่าทางด้วยเพลงเด็กสนุกๆ  เช่น “Wheel on the Bus” ตลอดจนส่งเสริมการเล่นสมมติ ระบายสี และสร้างบล็อก สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมทั้งจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้เป็นอย่างดี

3. ปลอบโยนลูก

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการดูแลที่ตอบสนองและสนับสนุนสามารถช่วยให้ทารกจัดการกับความเครียดได้ดีกว่าการดูแลที่ไม่ตอบสนอง สิ่งสำคัญคือการทำให้ลูกของคุณรู้ว่าคุณพร้อมอยู่ใกล้ๆ พวกเขาเพื่อปลอบโยนและช่วยเหลือพวกเขาเมื่อพวกเขารู้สึกเครียด การพัฒนาและการรักษากิจวัตรต่างๆ ยังช่วยให้ลูกของคุณสบายใจ การจัดเวลาเล่น การกิน และการงีบหลับเป็นประจำจะช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

4. อ่านให้ลูกฟัง

แน่นอนว่าสำหรับเด็กวัยกำลังเรียนรู้ การอ่านหนังสือให้ลูกฟังถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาการทางสมองของเด็ก แม้กระทั่งก่อนที่ลูกของคุณจะจำตัวอักษรหรือคำต่างๆ ได้ การอ่านจะเริ่มทักษะทางภาษาและการสื่อสารของพวกเขา การได้ยินคำและการดูภาพเชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกันในใจลูกของคุณ การอ่านหนังสือเล่มเดิมซ้ำๆ จะช่วยสร้างความจดจำระหว่างคำที่คุณพูดและรูปภาพในหน้านั้น เมื่อเด็กโตขึ้น ให้ลองถามคำถามง่ายๆ เช่น “สุนัขอยู่ที่ไหน” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการโต้ตอบกับรูปภาพบนหน้าหนังสือ เพื่อให้เด็กๆ มีส่วนร่วมมากขึ้น นอกจากนี้ การผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเลือกหนังสือนิทานที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวันก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อการสร้างพัฒนาการของเด็กให้ดียิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.firstthingsfirst.org , https://www.newhorizonacademy.net , https://www.wyethnutrition.com.sg

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก