พัฒนาสมองส่วนหน้าเริ่มต้นอย่างไร?
1.เด็กต้องมีพื้นฐานที่ดีก่อน
หมายถึง พ่อแม่ต้องไม่ละทิ้งการเลี้ยงดูเด็กแบบปกติ ได้แก่ การให้ความรักความอบอุ่น ให้อาหารที่เพียงพอ ที่อยู่อาศัยปลอดภัย หากเด็กไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้ครบถ้วน เขาก็จะไม่พร้อมจะเรียนรู้เรื่องใดๆ เพราะสุขภาพกาย และใจเขาไม่แข็งแรงสมบูรณ์พอ
2.ให้เวลา
เมื่อพ่อแม่ให้ปัจจัย 4 แก่ลูกน้อยอย่างครบถ้วนแล้ว ขณะเดียวกัน ลูกก็ต้องการเวลาจากพ่อแม่ด้วย เวลาที่ว่านี้คือ เวลาในการพูดคุย สั่งสอน ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การเล่นหรืออ่านนิทาน เป็นต้น
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3.พ่อแม่ต้องเป็นสมองส่วนหน้าแทนลูก
เพราะสมองส่วนหน้าของผู้ใหญ่พัฒนาสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องนำทักษะ EF ที่มีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสอนลูก
ยกตัวอย่างสถานการณ์ เช่น ลูกถือแก้วน้ำมาแล้วทำน้ำหก วิธีสอนแบบ EF ก็คือ แทนที่จะดุด่าทันที ให้พูดกับลูกว่า “น้ำหกเหรอลูก ไม่เป็นไรนะ เรามาช่วยกันเช็ด หนูไปหยิบผ้ามานะ แม่รู้ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ คราวหน้าหนูก็ระวังหน่อยนะ”
ผลที่ได้คือ หากคราวหน้าเขาทำน้ำหกอีก เขาจะรู้ได้โดยที่เราไม่ต้องบอกว่าต้องหาผ้ามาเช็ดให้สะอาด ลูกจะเรียนรู้ปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหาได้ ในทางตรงกันข้าม หากพ่อแม่ไม่ใช้ทักษะ EF เลย ก็จะลงเอยด้วยการโกรธ ดุด่า ตี แต่ไม่สอน เมื่อลูกทำน้ำหกแล้วโดนตีหรือว่าทันที เขาจะไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจทำน้ำหก ทำไมเขาถึงถูกตี และคราวต่อไปเขาจะกลัว ไม่กล้าหยิบจับหรือทำอะไรอีกเลย หรือทำก็ทำได้ไม่ดีเพราะจะกลัวถูกตีตลอดเวลา
อ่านต่อ บทความน่าสนใจ
เรียนแบบไหน? ส่งเสริมให้ลูกน้อยเก่งรอบด้าน
สอนให้ลูกปรับตัวเข้ากับคนแต่ละเจนเนอเรชั่น
นิตยสาร Amarin Baby & Kids ฉบับเดือนกันยายน 2559