การใช้จุกหลอก สามารถแก้ปัญหาการดูดนิ้วของลูกที่อาจส่งผลต่อการขึ้นของฟันในอนาคตของลูกน้อยได้ หากคุณพ่อ คุณแม่สามารถควบคุมการใช้จุกหลอกอย่างเหมาะสม แต่ปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นคือการติดจุกหลอก จนบางครั้งก็ไม่สามารถ เลิกจุกหลอก ได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรเลิกให้ได้ก่อน 1 ขวบ
เลิกจุกหลอก ต้องรู้จักข้อดีข้อเสีย
โดยทั่วไป ความช้าเร็วในการเลิกจุกหลอกของแต่ละครอบครัวนั้นไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่ควรเลิกช้าเกิน 3 ขวบ เพราะอาจจะส่งผลต่อการเรียงของฟันได้เช่นกัน การใช้จุกหลอกนั้น มีทั้งข้อดี และข้อเสีย
- ข้อดี ของการใช้จุกหลอก คือ สามารถแก้ปัญหาการดูดนิ้วของลูกที่อาจส่งผลต่อการขึ้นของฟันในอนาคตของลูกน้อยได้ และสามารถแก้ปัญหาเมื่อลูกน้อยติดการดูดนมแม่จนบางครั้งก็เกินความจำเป็นจนสำลัก หรืออาเจียนออกมาเพราะกระเพาะรับนมแม่ไม่ไหว หรือหากขาดการดูดไปแล้วลูกน้อยจะร้องไห้งอแง
- ข้อเสีย ของการใช้จุกหลอก คือ ถ้าไม่ดูแลทำความสะอาดให้ดีอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค การใช้จุกหลอกอย่างไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้ฟันผุฟันเก และนอกจากนี้ การใช้จุกหลอกพร้อมสายคล้องคออาจทำให้ลูกน้อยเกิดความเสี่ยงสายรัดคอจนเสียชีวิตได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรใช้จุกหลอกอย่างรอบคอบ
วิธีการใช้จุกหลอก
1.ควรให้ลูกน้อยใช้จุกหลอก เมื่อดูดนมแม่อิ่มแล้ว หรือใช้ในกรณีที่คลอดก่อนกำหนด หรือมีอาการป่วย เพื่อให้ธรรมชาติในการดูดยังคงดำเนินต่อไป
2.ไม่ควรให้จุกหลอกแทนการดูดนมเมื่อหิว ไม่ควรใส่จุกหลอกเข้าไปในปากลูกทุกครั้งเมื่อร้องงอแงควรหาสาเหตุว่าลูกน้อยร้องไห้เพราะอะไรก่อน
3.ควรทำความสะอาดจุกหลอก นึ่งฆ่าเชื้อทุกครั้ง หรือใส่ลงไปในน้ำเดือด 5 นาทีก่อนใช้งาน และหลังใช้งาน
4.ตรวจสอบจุกหลอกว่ามีสภาพสมบูรณ์หรือไม่ หากมีรอยแตก ฉีกขาดควรทิ้งทันที และควรเปลี่ยนจุกหลอกทุกๆ 2 เดือน
5.อย่าให้ลูกดูดจุกหลอกทั้งวัน เมื่อลูกน้อยเริ่มคลาน หรือเดินไปรอบๆ ได้แล้ว เพราะจะส่งผลต่อพัฒนากรทางการพูด และการขึ้นของฟันได้