account_circleคลิปวิดีโอที่จะให้ดูต่อไปนี้เป็นคลิปวิดีโอที่มีภาพเด็กชาย 2 คนอยู่ข้างกัน หนูน้อยที่ยืนอยู่ข้างขวาเป็นคนต่อยเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างซ้าย คุณครูจึงถามว่า “เธอทำอะไรเพื่อน” หนูน้อยตอบกลับมาว่า “กลัวของเล่น หนูเป็นโรคกลัวของเล่น” มาดูตัวอย่าง วิธีลงโทษลูกเมื่อลูกทำผิด จากคุณครูค่ะ
คุณครูถามเด็กน้อยผู้ทำผิดว่า “เธอไปต่อยปากเพื่อนทำไม”
หนูน้อยหันไปหาเพื่อนที่อยู่ข้างๆ แล้วบอกเพื่อนว่า “ขอโทษนะ”
คุณครูถามต่อว่า “ขอโทษแล้วเขาจะหายเจ็บมั้ย ต่อยเขาปากแตกแบบนี้”
หนูน้อยดูในปากเพื่อน แล้วเป่าปากให้ “เค้าขอโทษนะ …หนูเป่าแล้ว”
คุณครูถามเด็กน้อยที่โดนต่อย “จะให้ครุพาไปหาหมอมั้ยลูก” หนูน้อยส่ายหน้า
หนูน้อยที่เป็นคนต่อยบอกต่อว่า “ต้องหาเบตาดีนมาหยอดปาก ไม่ต้องเอาเบตาดีนหรอก ต้องเอาผ้ามาแปะไว้ พอแผลหาย ต้องไม่ไปล้างไหนเลย” หนูน้อยพูดด้วยการใช้ความคิดหาวิธีแก้ปัญหา
คุณครูถามหนูน้อยคนที่โดนต่อยต่อไปว่า “แล้วจะให้ครูทำยังไง ให้ครูบอกตำรวจมั้ย เพราะเพื่อนเขาต่อยหนูปากแตก” หนูน้อยส่ายหน้า
เด็กคนที่ทำผิดพูดออกมาว่า “กลัว กลัว กลัวตำรวจ”
คุณครูถามเด็กคนที่ทำผิด “กลัวแล้วทำเพื่อนทำไม”
เด็กน้อยพูดต่อว่า “หนูจะตีมือตัวเอง จะไม่ทำอีกแล้ว
คุณครูถาม “เชื่อได้มั้ยล่ะ” หนูน้อยตอบ “เชื่อได้ครับ”
คุณครูถาม “แน่ใจนะ” หนูน้อยตอบ “แน่ใจ”
ครูครูถามเด็กที่โดนต่อยว่า “หนูจะเอาผิดเพื่อนมั้ยลูก” ยังไม่ทันที่หนูน้อยจะตอบ เด็กที่ทำผิดก็ตอบขึ้นมาก่อนว่า “ไม่เอาอีกแล้ว”
คุณครูถามเด็กที่โดนต่อยอีกครั้ง “หนูจะเอาผิดเพื่อนมั้ยลูก” หนูน้อยส่ายหัว
คุณครูบอกให้หนูน้อยขอโทษกัน เด็กน้อยที่ทำผิดหันไปจับไหล่เพื่อนแล้วบอกขอโทษ ยกมือไหว้เพื่อน แล้วกอดเพื่อน พร้อมพูดว่า “เราไม่ได้ตั้งใจ จะไม่ทำผิดอีกแล้ว”
ชมคลิป
ไม่ฮาเอาขี้มาปาบ้านกูเลย
จากคลิปวิดีโอแสดงถึงความน่ารักของเด็กทั้ง 2 เมื่อเด็กคนหนึ่งกระทำความผิด ก็รู้สึกสำนึกผิดในอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง หาทางแก้ไขปัญหา ขอโทษเมื่อตัวเองทำร้ายเพื่อน และสำนึก พร้อมกับสัญญาว่าจะไม่กระทำความผิดอีก ส่วนเด็กน้อยผู้ถูกเพื่อนต่อย ก็ไม่แสดงอาการโกรธเคือง เมื่อเพื่อนทำร้าย พร้อมที่จะให้อภัยเพื่อน
ผู้ที่น่ายกย่อง และชื่นชมมากที่สุก ก็คือคุณครู ผู้สอนให้เด็กรู้จักใช้ความคิด แยกแยะผิดถูกด้วยตัวเอง ให้เด็กพูดออกมาถึงความคิดว่าสิ่งที่กระทำความผิดลงไปนั้น ผิดจริงหรือไม่ เพราะอะไร เป็นการใช้เหตุผลพูดคุยกับเด็ก มากกว่าการทำโทษด้วยการตี หรือดุด่า เด็กจะรู้สำนึกผิดชอบชั่วดี เมื่อตัวเองกระทำความผิด และเป็นบทเรียนไม่ให้กระทำความผิดซ้ำอีก พร้อมทั้งใช้ความคิดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
