พัฒนาการเด็ก ช่วงอายุ 1–3 ปี เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เป็นเวลาที่สมองเจริญเติบโตและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมพัฒนากรของเด็กอย่างถูกวิธี
พัฒนาการเด็ก ช่วงอายุ 1 – 3 ปี เวลาทองแห่งการพัฒนา
คุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากให้ลูกเติบโตขึ้นด้วยสุขภาพที่แข็งแรง มีความสุข ช่วยเหลือตัวเองได้ และเป็นคนดีของสังคม เด็กที่จะเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพนั้น ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูอบรมของคุณพ่อคุณแม่และผู้เลี้ยง รวบถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก ดังนั้น ทีมแม่ ABK จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ พัฒนาการเด็ก ช่วงอายุ 1 – 3 ปี มาให้คุณพ่อคุณแม่และผู้เลี้ยง เพื่อจะได้ศึกษา และเป็นแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ
พัฒนาการเด็ก ช่วงอายุ 1 – 3 ปี เวลาทองแห่งการพัฒนา
อายุ | พัฒนาการตามวัย | วิธีการส่งเสริมพัฒนาการ |
12-18 | – ยืนเองได้ชั่วครู่ จูงมือเดิน เดินได้เอง | – ให้ลูกมีโอกาสยืน เดิน ด้วยตัวเอง |
เดือน | – วางของซ้อนกันได้ 2 ชิ้น ใส่วงกลมลง | – ให้เล่นของเล่นที่ต้องลากดึง ให้เล่นของเล่น |
ในช่อง ปักหมุดลงในช่อง | เพื่อการเรียนรู้ เช่น หมุดไม้ หยิบห่วงใส่ | |
– เรียกพ่อแม่ หรือพูดคำพยางค์เดียวที่มี | แท่งไม้ | |
ความหมาย | – พูดคุย ชี้บอกส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ใช้คำ | |
– บอกส่วนต่างๆบนใบหน้า 1-3 ส่วน | สั่งง่าย ๆ ให้ลูกทำตาม | |
– ใช้ช้อนตักอาหารแต่ยังหกบ้าง | – ให้หยิบตักอาหารรับประทานเอง | |
18-24 | – เดินได้คล่อง วิ่งได้ จูงมือเดียวเดินขึ้น | – พาลูกเดินเล่นในสนามหญ้า สนามเด็กเล่น |
เดือน | บันได เดินถอยหลัง เตะลูกบอล | เตะบอล ปีนป่าย |
– วางของซ้อนกันได้ 4-6 ชั้น แยกสี 2 สี | – ให้เล่นของเล่นที่ซับซ้อนกว่าเดิม เน้นเรื่อง | |
– ขีดเขียนเป็นเส้นยุ่งๆ ขีดเส้นตรงใน | ของสี รูปทรง มากขึ้น | |
แนวดิ่งได้ | – พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งรอบตัว ให้ดูภาพ เล่าเรื่อง | |
– ชี้รูปภาพตามบอกได้ | เล่านิทานสั้น ๆ | |
– พูดคำโดดได้มากขึ้น พูดเป็นวลี 2-3 | – เริ่มฝึกการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะให้เป็นที่ | |
พยางค์ต่อก้นเมื่ออายุ 2 ปี บอกชื่อเล่น | เช่น กระโถนหรือส้วมที่ดัดแปลงให้เหมาะ | |
– ใช้ช้อนตักอาหารเองได้ เริ่มถอดเสื้อ | กับลูก | |
ผ้าเองได้ | – สนใจเมื่อลูกมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ฝึกให้ | |
ลูกมีทางเลือกเองบ้าง | ||
3 ปี | – เตะบอล ขว้างบอล กระโดดอยู่กับที่ | – ให้เด็กได้เล่นเครื่องเล่นสนามกับเด็กอื่น เล่น |
เดินขึ้นลงบันได ขี่จักรยาน 3-4 ล้อ | ปืนป่าย กระโดด ขึ้นบันได ขี่จักรยาน 3 ล้อ | |
– เปิดหนังสือทีละแผ่น ต่อก้อนไม้สูง 8 | โดยดูแลให้ปลอดภัยระวังอุบัติเหตุ | |
ชั้น เขียนกากบาท และวงกลมได้ตาม | – ฝึกขีดเขียน ระบายสี นับเลข เล่นบทบาท | |
ตัวอย่าง รู้จักจำนวน 1-3 ชิ้น รู้จักรอให้ | สมมุติ หาของเล่นที่มีสี ขนาด รูปทรง หรือ | |
และรับ | พื้นผิว ที่แตกต่างกัน | |
– พูดได้เป็นประโยค โต้ตอบได้ตรงเรื่อง | – พูดคุยเล่านิทาน ร้องเพลงกับลูก ส่งเสริมให้ | |
บอกชื่อตัวเองได้ ร้องเพลงง่าย ๆ | ลูกพูด เล่าเรื่อง ร้องเพลง และทำท่าทาง | |
อาจพูดบางคำไม่ชัด | ประกอบเพลง | |
– บอกเวลาจะถ่ายอุจจาระ ถอดเสื้อผ้า | – สนใจความรู้สึกของลูก และตอบสนองโดย | |
และใส่เองได้ เริ่มเล่นเข้ากลุ่มแยกจาก | ไม่บังคับ หรือตามใจจนเกินไป | |
แม่ได้บ้าง | – ฝึกให้ลูกรับประทานอาหาร แต่งตัวเอง และ | |
ไปเข้าส้วมเมื่อจะถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะทุก | ||
ครั้ง โดยมีผู้คอยดูแลช่วยเหลือ | ||
ความผิดปกติทางพัฒนาการ
อายุ 18 เดือน หรือ 1.5 ปี
- เดินไม่ได้
- ไม่ชี้สิ่งต่าง ๆ ให้ดู
- ไม่รู้ว่าสิ่งของที่ใช้เป็นประจำทุกวันคืออะไร หรือใช้เพื่ออะไร
- ไม่เลียนแบบท่าทางของคนอื่น ๆ
- ไม่เรียนรู้คำใหม่ ๆ หรือรู้คำศัพท์น้อยกว่า 4 คำ ซึ่งไม่รวมคำเรียกพ่อแม่อย่างปาป๊า มาม้า ชื่อสัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของ
- ไม่แสดงความสนใจเมื่อพ่อแม่เพิ่งกลับมา หรือดูไม่กังวลเมื่อต้องห่างจากพ่อแม่
- สูญเสียทักษะบางอย่างที่เคยมี
อายุ 2 ปี
- เดินไม่มั่นคง หรือไม่คล่องตัว
- ยังไม่เริ่มพูดเป็นวลีหรือประโยคสั้น ๆ เช่น กินข้าว กินนม อาบน้ำ เป็นต้น
- ไม่รู้ว่าสิ่งของที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันใช้ทำอะไร เช่น จาน ชาม ช้อน แปรงสีฟัน เป็นต้น
- ไม่เลียนแบบพฤติกรรม คำพูด หรือคำศัพท์จากผู้อื่น
- ทำตามคำบอกง่าย ๆ ไม่ได้
- สูญเสียทักษะบางอย่างที่เคยมี
อายุ 3 ปี
- มีปัญหาในการเดินขึ้นลงบันได
- มีน้ำลายไหลออกจากปาก
- พูดเป็นประโยคไม่ได้ หรือพูดไม่ชัดเป็นอย่างมาก
- ไม่เข้าใจคำบอกหรือคำแนะนำง่าย ๆ
- เล่นของเล่นง่าย ๆ ไม่ได้
- ไม่เล่นบทบาทสมมติเป็นผู้อื่น
- ไม่สบตาคนอื่น
- สูญเสียทักษะบางอย่างที่เคยมี
ปัญหาการนอน
เด็กนอนไม่หลับ เมื่อไม่มีสถานการณ์บางอย่างที่ช่วยให้หลับ
พ่อแม่ไม่ควรฝึกให้ลูกเรียนรู้ที่จะหลับภายใต้สถานการณ์บางอย่าง เช่น ดูดนม อุ้ม หรือเขย่าตัว จนลูกหลับในอ้อมกอดของพ่อแม่ เพราะจะทำให้ลูกไม่เคยฝึกกล่อมตัวเองจนหลับเองได้ทั้งช่วงเริ่มต้นของการนอนหลับ หรือเมื่อตื่นกลางดึก หากไม่มีสถานการณ์เหมือนๆเดิม
การปรับพฤติกรรม
เมื่อเด็กอายุประมาณ 1 ปี พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกนอนพร้อมกับสิ่งที่จะช่วยให้ลูกสามารถหลับเองได้ ในช่วงเริ่มต้นของการนอน หรือเมื่อลูกตื่นมากลางดึก เช่น ผ้าห่มผืนโปรดของลูก ตุ๊กตาที่ชอบกอด เป็นต้น โดยพ่อแม่ควรกล่าวชื่นชมลูก เมื่อลูกสามารถหลับเองได้ ทั้งนี้ พ่อแม่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง เพื่อช่วยปรับพฤติกรรมการนอนของลูก
ไม่ยอมเข้านอน
ควรฝึกลูกให้นอนอยู่บนที่นอนของเขาตั้งแต่แรก คอยลูบตัว ลูบหลังให้หลับไปเองโดยไม่ต้องอุ้มขึ้นมาตั้งแต่แรกเกิดเลยก็ได้ทำซ้ำๆ ทุกๆ ครั้ง สุดท้ายทารกก็จะเคยชินกับการเข้านอนแบบที่พ่อแม่สอน
สาเหตุที่ลูกไม่ยอมเข้านอนในช่วงเวลากลางคืน
- นอนช่วงกลางวันมากเกินไป
- ไม่ออกกำลังกาย
- ไม่วางกฎเกณฑ์ให้ชัดเจน เช่น ให้ลูกนอนดึกในวันหยุด
การปรับพฤติกรรม
พ่อแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกนอนช่วงกลางวันมากเกินไป ควรพาลูกออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ลูกมีสุขนิสัยการนอนที่ดี อีกทั้งต้องปรับกิจวัตรก่อนนอนให้ชัดเจน ฝึกลูกให้นอนใกล้เวลาที่กำหนดไว้
ช่วงอายุ 1 – 3 ปี เป็นช่วงที่เด็กมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วทางด้านร่างกาย สมอง และอารมณ์ ทีมแม่ ABK จึงหวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้มีความเข้าใจ พัฒนาการเด็ก ในวัยนี้ได้เป็นอย่างดี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เทคนิคเตรียมสมองลูกให้พร้อมคิดนอกกรอบ แม่ต้องเริ่มก่อน 2 ขวบ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.si.mahidol.ac.th, https://www.pobpad.com, http://www.thaipediatrics.org
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่