สรุป: อย่าละเลยบทบาทของพ่อที่มีต่อพัฒนาการของลูก
ทาเมชา แฮร์วู้ด ผู้เขียนหลักของงานวิจัยจากคณะพัฒนาการมนุษย์และครอบครัวศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน เน้นย้ำว่านอกจากแม่แล้ว พ่อควรจะได้เข้าร่วมในงานวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก รวมถึงนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับครอบครัวด้วย และยังเสริมด้วยว่า “หน่วยงานด้านความเสี่ยงในครอบครัวหลายหน่วยพยายามจะให้พ่อมีส่วนร่วมด้วยในหลายเรื่อง แต่อาจจะมีบางจุดที่พวกเขาพลาดไป เมื่อคุยกับพ่อ ไม่ใช่คุยแค่เรื่องการสนับสนุนลูกด้านการเงินเท่านั้น แต่ควรให้พ่อได้อยู่ตรงนั้นเพื่อลูกด้วย และตระหนักว่าความเครียดหรืออาการซึมเศร้าอาจส่งผลกับลูกได้ เพื่อให้เข้าใจและช่วยลูกด้านพัฒนาการได้ ควรจะต้องมีมุมมองที่ครอบคลุมทั้งครอบครัว ทั้งพ่อและแม่”
รู้อย่างนี้แล้ว Amarin Baby & Kids ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อและว่าที่คุณพ่อทุกท่านที่อาจกำลังเครียดกับงานหรือเรื่องอื่นๆ ในชีวิต อย่าลืมดูแลสุขภาพจิตและจัดการกับความเครียดของตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยของลูกรักค่ะ
ที่มา: psychologytoday.com
ภาพ: Shutterstock