Enterovirus ทำให้มีอาการอย่างไร?
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายประมาณ 3 – 5 วัน สำหรับทารกอาจได้รับจากน้ำนมมารดาที่มีการติดเชื้อ จะสามารถอยู่ในทางเดินอาหาร และปนอยู่ในอุจจาระของเด็กที่ป่วยได้นานหลายสัปดาห์ ก่อนที่ไวรัสจะถูกขับออกมา
1.อาการที่พบบ่อยที่สุด น่ากังวลที่สุด เมื่อเกิดในเด็กทารก จะมีไข้ขึ้นสูง และดูป่วยหนัก ทำให้ต้องตรวจเลือด และการตรวจอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุ
2.อาการที่ทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคหวัด คอหอยอักเสบ แผลร้อนใน หลอดลมฝอยอักเสบ ปอดบวม และ เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าออก
3.อาการที่ผิวหนัง ได้แก่ โรคมือ เท้า ปาก โรคเล็บที่ทำให้เล็บหลุดบ่อยๆ และไข้ออกผื่นแบบต่างๆ
4.อาการที่สมอง ได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส สมองอักเสบ) และ อัมพาตของแขนขา
5.อาการที่ทางเดินอาหาร ได้แก่ อาเจียน ท้องร่วง ปวดท้อง ตับอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ
6.อาการที่ทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ อัณฑะอักเสบ
7.อาการที่ตา ได้แก่ การอักเสบของเยื่อตาและมีเลือดออกใต้เยื่อตาอย่างฉับพลัน และผนังลูกตาชั้นกลางอักเสบ
8.อาหารที่หัวใจ ได้แก่ เยื่อหุ้มหัวใจ และกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เป็นอาการที่เคยพบในเด็กวัย 2 ขวบ โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เกิดขึ้นโดยไม่มีไข้ ไม่มีผื่น และแผลในช่องปาก แรกๆ มีอาการไอ หายใจลำบาก ซึม ต่อมาความดันเลือดสูง เหนื่อยหอบ หายใจล้มเหลวต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เม็ดเลือดขาวมีปริมาณสูง หัวใจเต้นเร็ว ไม่พบเชื้อในอุจจาระและน้ำไขสันหลัง
9.อาการที่กล้ามเนื้อ ได้แก่ กล้ามเนื้ออักเสบ
10.ในเด็กแรกเกิด โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้รับภูมิคุ้มกันจากมารดา มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการที่รุนแรง ได้แก่ ภาวะเลือดเป็นพิษ, เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน , ตับอักเสบ, การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ และ ปอดบวม