มีหลายคนพูดกันไปว่าแสงแฟลชทำให้ตาของเด็กเสียหรือเกิดโรคของจอตา แต่จริงๆ แล้วยังไม่เคยมีเด็กที่เป็นโรคตาเพราะแสงแฟลช และยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจนด้วย เพราะเด็กมีกลไกตามธรรมชาติที่ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงต่างๆ รวมถึงแสงแฟลชอยู่แล้วค่ะ เพราะว่า
- เด็กมีรูม่านตาเล็กกว่าผู้ใหญ่มาก รูเล็กนิดเดียว แสงก็จะผ่านได้น้อย อันตรายจากแสงก็จะลดน้อยลง
- เมื่อมีแสงส่องม่านตาจะหด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกายม่านตาจะหดเมื่อมีแสงส่องเข้ามา ก็ยิ่งทำให้แสงที่จะผ่านเข้าไปลดลงอีก
- สัญชาตญาณการหลบหลีกแสง มนุษย์มีปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณในการหลบหลีกจากแสงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเบือนหนี หลับตา หรือหยีตา ปฏิกิริยาเหล่านี้เป็นกลไกซึ่งช่วยปกป้องอันตรายจากแสงจ้าได้เช่นกัน
“นอกจากนี้การใช้แสงแฟลชยังเป็นการยิงแสงให้กระจายออก แสงไม่ได้รวมเป็นจุดเดียว ความเข้มข้นของแสงจึงถูกกระจายออกไป และการถ่ายรูปในแต่ละครั้งยังใช้เวลาไม่นาน ไม่ได้ถ่ายทั้งวัน แสงแฟลชจึงไม่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาของลูกได้ แม้จะเป็นลูกเบบี๋แรกคลอดก็ถ่ายรูปได้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ”
Q : ทำอย่างไรเมื่อหลังจากถ่ายรูปแล้วลูกมีอาการระคายเคืองหรือมีน้ำตาซึม
A : ถ้าเป็นเพียงระยะสั้นๆ และหายได้เอง สัญนิฐานลูกอาจเป็นภูมิแพ้บางชนิดซึ่งทำให้สายตาไวต่อแสงไปด้วย กรณีนี้ไม่เป็นอันตรายค่ะ แต่ในกรณีที่ดวงตาของลูกเกิดอาการแพ้มากกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณบอกถึงโรคตาอื่นๆ ที่ลูกเป็นอยู่ก่อนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป”