ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับ
ในปี ค. ศ. 2000 ได้มีการกำหนดค่า RDA สำหรับวิตามินซีขึ้นใหม่ โดยเพิ่มขึ้น 25-50 เปอร์เซ็นต์จากเดิมวันละ
60 มิลลิกรัม เป็น 100 มิลลิกรัม เพื่อให้เนื้อเยื่อต่างๆ ได้รับปริมาณวิตามินซีเพียงพอ
หน้าที่ของวิตามินซี
- วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ
- วิตามินซีจะมีส่วนในการสร้าง collagen ซึ่งทำให้ผิวหนังแข็งแรง
- เมื่อเกิดแผลจะหายเร็ว
- หน้าที่ ป้องกันการติดเชื้อโดยเฉพาะไข้หวัด
- ช่วยการเจริญเติบโตของกระดูก ฟัน เหงือก ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ Antioxidant
- เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อ หลอดเลือด เม็ดเลือด กระดูก
สาเหตุของการขาดวิตามินซี
- เกิดจากการแพ้อาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง
- โรคทางเดินอาหาร
- การตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมจะต้องการวิตามินซีเป็นจำนวนมาก
- โรคคอกพอกเป็นพิษ
- โรคเรื้อรังต่างๆ
- ผู้ที่ต้องเดินทางทางเรือนานๆ
การวินิจฉัยโรคขาดวิตามินซี
เจาะเลือดจะพบว่ามีระดับวิตามินซีต่ำ <0.2 mg%
การป้องกันและการรักษาโรคขาดวิตามินซี
- ให้วิตามินซีวันละ 60 มิลิกรัมก็เพียงพอที่จะป้องกันโรค
- การรับประทานวิตามินระดับสูงไม่ช่วยป้องกันไข้หวัด หรือโรคหลอดเลือดแข็ง แต่อาจจะทำให้เกิดท้องร่วง เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน ให้รับวิตามินซีขนาด 100 มิลิกรัม วันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
♥ Must read : อาหารแก้หวัด 13 ชนิด! เพิ่มภูมิต้านทานให้กับลูกน้อย
วิตามินซี กินมากไป ใช่ว่าจะดี!
อาหารทุกอย่างทานน้อยไปก็ไม่ได้ ทานมากไปก็ไม่ดี รวมทั้งวิตามินซีด้วยค่ะ เพราะถ้าร่างกายได้รับน้อยเกินไปก็จะส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน ทำให้เป็นหวัดง่าย เลือดออกตามไรฟัน ผิวพรรณดูไม่ผ่องใส เพราะวิตามินซีมีสารแอนติออกซิแด้นท์ (antioxidant) ช่วยชะลอความแก่ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย
แต่ถ้าทานมากเกินไป เช่น ทานเกิน 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันนาน ๆ เข้า ก็อาจเกิดผลข้างเคียงอย่างเช่น ไม่สบายท้อง ปวดมวนท้อง ท้องเสียรุนแรง เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไต แต่ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะอาการข้างเคียงเหล่านี้พบได้น้อยมาก เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ จึงขับออกทางปัสสาวะได้นั่นเอง ดังนั้นแล้วหากใครจำเป็นต้องทานวิตามินซีในปริมาณสูงกว่าที่กำหนด ก็ควรทานพร้อมหรือหลังอาหาร และดื่มน้ำตามมาก ๆ ด้วยค่ะ
ทั้งนี้ วิตามินซีเสริม เป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วก็สู้วิตามินซีที่ลูกน้อยจะได้จากธรรมชาติไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นหมั่นทานผักผลไม้ให้มาก ๆ โดยเฉพาะ ฝรั่ง ส้ม มะละกอ มะนาว มะม่วง มะเขือเทศ มันฝรั่ง กีวี่ สตรอว์เบอร์รี ผักใบเขียว อาหารเหล่านี้เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีที่จะช่วยคุ้มกันร่างกายให้ปลอดและหายจากโรค โดยไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเสริมมาทานเลย
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- รวมฮิต ติดชาร์ต ผักผลไม้วิตามินซีสูงเพื่อลูก
- วิตามิน อาหารเสริม ของดีที่เพิ่มอันตราย แก่ลูกน้อย
- ลูกไม่กินผัก วิธีสอนลูกกินผัก ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.foodnetworksolution.com , www.siamhealth.net , health.kapook.com