วิธีบรรเทาอาการคันเหงือกให้ลูก เมื่อฟันเริ่มขึ้น
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นค่ะว่า อาการน้ำลายยืด น้ำลายไหลของลูก คุณแม่จะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ตอนลูกอายุได้ 6 เดือน ที่ฟันน้ำนมกำลังเริ่มขึ้น ฟันที่ค่อยๆ ทะลุโผล่พ้นเหงือก จะทำให้ลูกรู้สึกคันเหงือก ปวดเหงือก และจะชอบกัดทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะหัวนมแม่ตอนกินนมจากเต้า เผลอไม่ได้เป็นกัดให้คุณแม่เจ็บตลอด ^_^
เมื่อลูกเริ่มฟันขึ้น จะมีอาการปวดเหงือก คันเหงือก และมีน้ำลายไหลย้อยออกมาตลอดเวลา คุณแม่ควรเตรียมผ้าซับน้ำลายลูกไว้หลายๆ ผืนเลยค่ะ และในเด็กบางคนที่ฟันเริ่มขึ้นอาจจะมีอาการท้องเสียบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่เวลาที่ลูกมีอาการคันเหงือก ถือว่าทรมานสำหรับเด็กๆ มากนะคะ ดังนั้นคุณแม่ควรหาอะไรที่ปลอดภัยต่อการนำเข้าปากเด็ก เพื่อให้ลูกได้กัดเพื่อบรรเทาอาการคันเหงือก เอาเป็นว่าถ้านึกไม่ออกว่าควรหาอะไรให้ลูกกัดแก้คันเหงือก ผู้เขียนมีมาแนะนำให้ค่ะ
1. ของเย็นช่วยได้
เพื่อช่วยลดอาการบวมของเหงือก และไม่ให้ลูกคันเหงือกมากตอนที่ฟันเริ่มขึ้น วิธีที่ผู้เขียนได้ความรู้มาจากพี่สาว และเพื่อนๆ ที่เขาใช้กันคือ เตรียมผลไม้ที่นิ่มๆ หน่อย เช่น มะละกอหั่นชิ้นพอดีคำ แครอท แตงโม แตงกวา ฯลฯ ผัก ผลไม้อะไรก็ได้ที่ลูกสามารถกินได้แล้ว เตรียมเสร็จก็เอาไปแช่เย็นสัก 20-30 นาที(แช่ตู้เย็นช่องธรรมดาพอค่ะ) จากนั้นก็เอามาให้ลูกกัดกิน ความเย็นจะช่วยทำให้เหงือกชาๆ บรรเทาอาการคัน ปวดเหงือกได้ดีมากค่ะ
2. เจลทาเหงือก
วิธีนี้ก็ใช้ได้ผลดีในการช่วยบรรเทาอาการปวด คันเหงือกให้ลูก แต่มีคำแนะนำว่าก่อนใช้เจลทาเหงือกให้ลูก ควรขอคำแนะนำจากคุณหมอเด็กก่อนนะคะ เพราะเจลทาเหงือกจะมีส่วนประกอบของยาฆ่าเชื้อ ยาชาอ่อนๆ การทาเจลที่เหงือกจะทำให้ลูกรู้สึกชาตรงเหงือก ซึ่งนั่นจะช่วยลดอาการปวดเหงือกของลูกลงได้ค่ะ
3. ยางกัดแก้คันเหงือก
ตามร้านขายอุปกรณ์ของใช้เด็ก จะมีขายยางกัดสำหรับให้เด็กที่กำลังฟันขึ้นได้กัดลดอาการคันเหงือกด้วย แต่แนะนำว่าควรซื้อยางกัดที่ผลิตมาจากวัสดุที่ปลอดภัยต่อการนำเข้าปากของเด็กๆ กันนะคะ
พัฒนาการของลูกเปลี่ยนแปลง พัฒนาขึ้นตามวัยค่ะ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือพ่อแม่ผู้เป็นครูคนแรกของลูก จะต้องช่วยส่งเสริมให้ลูกได้ใช้ทักษะ พัฒนาการของพวกเขาให้ได้อย่างเต็มที่ตามวัย เพื่อที่ลูกจะได้เติบโตขึ้นอย่างเด็กที่มีทั้งคุณภาพ และประสิทธิภาพค่ะ
Must Read >> ลูกมีกลิ่นปาก สัญญาณบอกโรคที่ต้องระวัง!
และถ้าลูกเกินวัยเตาะแตะไปแล้ว แต่ยังมีน้ำลายไหลยืดอยู่ อาการแบบนี้ไม่น่าไว้ใจ พ่อแม่ควรแวะไปปรึกษาหมอพัฒนาการเด็กสักนิด เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพลูก และความสบายใจของพ่อแม่ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ลูกนอนกัดฟัน ส่งผลเสียอย่างไร และแก้ด้วยวิธีไหน?
เบบี๋น้ำลายไหลย้อย ผิดปกติหรือไม่?
เมื่อไหร่ ลูกจะหายน้ำลายยืด