เมื่อมือเล็กๆ ไม่สามารถวาดสิ่งที่คิดหวังไว้ในใจได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าตัวเล็กจะรู้สึกไม่พอใจสิ่งที่ตัวเองทำ เด็กบางคนก็หันไปหาสิ่งอื่นทำแทน แต่บางคนก็ระบายความโมโหออกมา เช่น ส่งเสียงร้องกรี๊ด หรือส่งดินสอใส่มือคนที่ตัวเองคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่า ซึ่งลูกของคุณอยู่ในประการหลังนี้ค่ะ
เด็กเล็กๆ มักคิดว่าคนโตๆ เท่านั้นที่จะทำสิ่งยากๆ เหล่านี้ได้ดีกว่า ดังนั้นเป็นเหตุผลสมควรที่จะให้พ่อแม่ทำ แทนที่จะต้องทำด้วยตัวเอง บางครั้งอาจเป็นธรรมชาติของเด็กเอง แต่บางครั้งก็อาจเกิดจากความกดดันที่พ่อแม่ตั้งความหวังจนเกินความสามารถที่เด็กจะทำได้ คุณจึงต้องแน่ใจว่าไม่ได้ผลักดันลูกมากเกินไป หรือตั้งมาตรฐานไว้สูงเกินความเป็นจริง อย่าวิจารณ์หรือกล่าวโทษเมื่อลูกทำไม่สำเร็จ หรือทำได้เพียงแค่ระดับหนึ่ง ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ การที่ถูกจับผิด ถูกตำหนิตลอดเวลา ย่อมทำลายความรู้สึกนับถือตัวเอง หมดความภาคภูมิใจ และกลัวที่ต้องใช้ความพยายามต่อไป
ให้ลูกช่วยแสดงความคิดเห็น หากลูกอยากจะวาดรูปสักรูป ลองให้เขาอธิบายภาพในจินตนาการนั้นขณะที่คุณก็เขียนรูปตามไปเรื่อยๆ เมื่อลูกคิดไม่ออก คุณก็อาจช่วยกระตุ้นด้วยการถามว่า “หนูคิดว่าตรงนี้มีเด็กผู้หญิงสักคนดีไหมลูก แล้วผมสีอะไรดีล่ะ กำลังทำอะไรอยู่ดีนะ” หรือถ้าเป็นการต่อตัวต่อ ก็อาจถามลูกว่าจะต่อตัวอะไรต่อไป ถ้าเป็นการสวมถุงเท้า ก็อาจถามเขาว่าลูกอยากจะดึงขอบถุงเท้าขึ้นมาตรงๆ หรือว่าพับลงให้เรียบร้อย
ให้บทเรียนแก่ลูก บางครั้งลูกอาจจะทำไม่สำเร็จเพราะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป คุณต้องค่อยๆ สอนวิธีการจับดินสอสีอย่างถูกต้อง วิธีม้วนถุงเท้าก่อนที่จะสวมเข้ากับเท้า วิธีต่อภาพจิ๊กซอว์ให้รูปร่างและสีตรงกัน
เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำงานด้วยตัวเอง เช่น ขอให้ลูกระบายสีดวงอาทิตย์หรือทะเล ให้ลูกต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ดึงถุงเท้าที่กำลังสวมอยู่ขึ้นด้วยตัวเอง ช่วยเก็บหนังสือบนพื้นห้อง หยิบของเล็กๆ จากถุงมาใส่ในตู้ หรือช่วยถือถุงเล็กๆ เมื่อไปซื้อของ เพื่อเป็นการพัฒนาความมั่นใจในตัวเอง และต่อไปเขาก็จะรู้สึกว่าสามารถทำงานที่ใหญ่กว่านั้นได้
ชมเชยไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ เมื่อลูกช่วยระบายสีท้องฟ้า ต่อจิ๊กซอว์ 2 – 3 ชิ้น หรือสามารถดึงถุงเท้าขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง คุณควรแสดงความชื่นชม จะทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจและทำได้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง