Q: ลูกของผมเริ่มเดินได้เมื่ออาทิตย์ก่อน (ทั้งบ้านเฮกันใหญ่) แต่อยู่ๆ แกก็กลับไปคลานอีกแล้ว ลูกผมมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับ
พัฒนาการของเด็กมักเป็นขั้นตอนที่ก้าวไปข้างหน้าบ้าง และก้าวถอยหลังบ้างอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญของชีวิตอย่างการเดิน ดังนั้นการที่ลูกของคุณกลับไปคลานทั้งๆ ที่เดินได้แล้วอาจมาจากหลายปัจจัย ดังนี้
1. ความขัดแย้งเกี่ยวกับอิสระ
การเดินนับเป็นก้าวย่างใหญ่ของพัฒนาการ ซึ่งทำให้เด็กๆ มีอิสระที่จะได้เห็นโลกกว้างขึ้น แต่ยิ่งลูกเติบโตและต้องการอิสระมากเท่าไรพวกแกก็ยิ่งกังวลต่อโลกใหม่มากขึ้นเท่านั้น
2. อุปสรรคและความล้มเหลว
ใครว่าเด็กๆ ไม่ต้องเจอความลำบาก เข้าใจผิดแล้วค่ะ เพราะว่าแต่ละก้าวกว่าจะเตาะแตะได้หนูๆ ทั้งหลายต้องอดทนกันไม่น้อยเลยนะ ไหนจะหกล้มหกลุก ไปไหนก็เชื่องช้าไม่ทันใจ แล้วยังต้องคอยระวังไม่ให้ชนโครมเวลาเลี้ยวอีก ความลำบากเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เจ้าจอมซนหันกลับไปคลานเข่าอีกครั้ง
3. การหกล้ม
แค่ความเจ็บจากการหกล้มแรงๆ สักครั้ง ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เด็กๆ บางคนขยาดการเดินด้วยสองเท้า และกลับไปใช้เข่าซึ่งดูจะปลอดภัยกว่า อย่างน้อยก็จนกว่าจะหายกลัว
4. ความเปลี่ยนแปลงที่เด็กน้อยคาดไม่ถึง
การเลี้ยงดูแบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย น้องคนใหม่ หรือการที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มกลับไปทำงานประจำอีกครั้ง ล้วนเป็นสาเหตุที่ก่อความเครียดให้เจ้าตัวเล็ก และทำให้เขาหวนกลับไปหานิสัยดั้งเดิมแบบทารกอีกครั้ง
5. อาการเจ็บป่วย
ช่วง 2 – 3 วันก่อนที่ไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่จะแสดงอาการ เด็กๆ มักได้รับผลกระทบทางอารมณ์จนหดหู่ไม่อยากขยับเขยื้อนเล่นนั่นเล่นนี่เหมือนเคย ในกรณีแบบนี้ การเดินที่เป็นแค่ความท้าทายใหม่ของชีวิตอาจไม่น่าพิสมัยเท่าการคลานที่พวกเขาคุ้นเคยกว่า
6. วันนี้อาจเป็นวันไม่ดีของเจ้าตัวเล็ก
บางครั้งอารมณ์ฉุนเฉียวและความเหนื่อยหน่ายก็ดูดพลังของหนูๆ ไปหมด แถมยังลดความกระตือรือร้นที่จะเดินอีกต่างหาก
แต่หากหนูน้อยวัยเตาะแตะของคุณไม่ยอมเดินอีกเลย หรือดูเหมือนจะเดินโขยกเขยก ยืนตรงก็ไม่ได้ คงต้องรีบปรึกษากุมารแพทย์ให้แน่ใจว่าลูกของคุณไม่ได้มีปัญหาทางสรีระ หรือมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่อาจวินิจฉัยได้ อย่านิ่งนอนใจ ส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลดีกว่านะคะ
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง