พาลูกไปฉีดวัคซีนแล้วหรือยัง เช็คเลย! วัคซีนในเด็กฟรี มีตัวไหนบ้าง
วัคซีนในเด็กฟรี พาลูกไปฉีดวัคซีนได้เลย ไม่ต้องเสียเงิน!
สำหรับทารกที่คลอดมา จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ป้องกันการติดต่อของโรคติดต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคติดต่อร้ายแรง สำหรับเชื้อวัคซีนนั้นผลิตจากเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสที่อ่อนตัวแล้ว ลูกจึงต้องรับวัคซีนเพื่อเป็นการเสริมสร้างการป้องกันโรค วัคซีนบางชนิดต้องได้รับมากกว่า 1 ครั้งจึงจะสามารถป้องกันโรคได้ ซึ่งมีวัคซีนในเด็กหลายตัวที่ฉีดได้ฟรี!
เพจคลินิกจุฬาคิดส์คลับ ได้โพสต์ว่า ประกาศ: วัคซีนในเด็กที่ไม่ควรเสียเงินฉีด… วัคซีนรวม 5 โรค (แบบมีไข้) วัคซีนโรต้า วัคซีนหัดเยอรมันคางทูม วัคซีนเจอี… มารับได้ในเวลาราชการ มาอังคารเช้าถ้าจะเจอหมอชิษณุ ถ้ามีบัตร รพ. แจ้งวันที่จะมา ชื่อเด็ก และ HN มา จะนัดให้ครับ ไม่ต้องเสียเวลา… ถ้าผู้ใหญ่จะฉีดวัคซีนหัดเยอรมันคางทูมและวัคซีนเจอี ต้องเสียเงินเองนะครับ มาฉีดในงานจะสะดวกกว่า
หากใครมีลูกมีหลาน สะดวกไปโรงพยาบาลจุฬาฯ ลองติดต่อดูได้เลยนะคะ
วัคซีนพื้นฐานฟรีนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขโดยการสนับสนุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดให้มีบริการวัคซีนแก่เด็กแรกเกิดไปจนถึงวัยเรียน ซึ่งเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนอย่างน้อยตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ด้วยบริการวัคซีนฟรี เด็ก ๆ สามารถรับวัคซีนเหล่านี้ได้จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือสถานีอนามัยทุกแห่ง และควรรับวัคซีนให้ครบทุกช่วงอายุ สำหรับวัคซีนฟรีในเด็ก วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกัน ประกอบด้วย
- BCG วัคซีนวัณโรค
- DTP-HB-Hib วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ
- Rota วัคซีนโรต้า
- MMR วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน
- LAJE วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์
ตารางวัคซีนในเด็ก 2563
หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่า ลูกได้รับวัคซีนที่จำเป็นครบถ้วนแต่ละช่วงวัยแล้วหรือยัง ลองมาเช็ค กำหนดการให้วัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2563 ดังนี้ค่ะ
แรกเกิด
- HB1 (วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี) ควรให้เร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
- BCG (วัคซีนป้องกันวัณโรค) ฉีดให้เด็กก่อนออกจากโรงพยาบาล
1 เดือน
- HB2 (วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี) เฉพาะรายที่คลอดจากมารดาที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี
2 เดือน
- DTP-HB-Hib1 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ)
- OPV1 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
- Rota1 (วัคซีนโรต้า)
– ห้ามให้วัคซีนโรต้าครั้งที่ 1 ในเด็กอายุมากกว่า 15 สัปดาห์
4 เดือน
- DTP-HB-Hib2 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ)
- OPV2 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
- IPV (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด)
- Rota2 (วัคซีนโรต้า)
– ให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด 1 เข็ม พร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ
ชนิดรับประทาน 1 ครั้ง
– ห้ามให้วัคซีนโรต้าครั้งสุดท้าย ในเด็กอายุมากกว่า 32 สัปดาห์
6 เดือน
- DTP-HB-Hib3 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ)
- OPV3 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
- Rota3 (วัคซีนโรต้า)
– ห้ามให้วัคซีนโรต้าครั้งสุดท้าย ในเด็กอายุมากกว่า 32 สัปดาห์
– ให้ยกเว้นการได้รับวัคซีนโรต้าครั้งที่ 3 ในเด็กที่ได้รับวัคซีน Rotarix มาแล้ว 2 ครั้ง
9 เดือน
- MMR1 (วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน) หากไม่ได้ฉีดเมื่ออายุ 9 เดือน ให้รีบติดตามฉีดโดยเร็วที่สุด
1 ปี
- LAJE1 (วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์)
1 ปี 6 เดือน
- DTP4 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน)
- OPV4 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
2 ปี 6 เดือน
- LAJE2 (วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์)
- MMR2 (วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน)
4 ปี
- DTP5 (วัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน)
- OPV5 (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน)
ประถมศึกษาปีที่ 1 (ตรวจสอบประวัติและเก็บตกวัคซีน)
- MMR (วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน)
- HB (วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี)
- LAJE (วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์)
- IPV (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด)
- dT (วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก)
- OPV (วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน) เฉพาะรายที่ได้รับไม่ครบตามเกณฑ์
- BCG (วัคซีนป้องกันวัณโรค) ให้ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานว่าเคยได้รับเมื่อแรกเกิดและไม่มีแผลเป็น ไม่ให้ในเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการของโรคเอดส์
ประถมศึกษาปีที่ 5 (นักเรียนหญิง)
- HPV1 และ HPV2 (วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี)
– ระยะห่างระหว่างเข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน
– กรณีเด็กหญิงไทยที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาให้ฉีดที่อายุ 11-12 ปี
ประถมศึกษาปีที่ 6
- dT (วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก)
กำหนดการให้วัคซีนแก่เด็กที่มารับวัคซีนล่าช้า
ครั้งที่ 1 (เมื่อพบเด็กครั้งแรก)
ช่วงอายุ 1-6 ปี
วัคซีนที่จะได้รับ
- DTP-HB-Hib1
- OPV1
- IPV*
- MMR1
- BCG
ตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้นไป
วัคซีนที่จะได้รับ
- dT1
- OPV1
- IPV
- MMR
- BCG**
*IPV
ให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV)
เก็บตกเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี และเด็กนักเรียนชั้น ป.1
**วัคซีน BCG
– ให้ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานว่าเคยได้รับ
เมื่อแรกเกิดและไม่มีแผลเป็น
– ไม่ให้ในเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ
ของโรคเอดส์
ครั้งที่ 2
เดือนที่ 1
ช่วงอายุ 1-6 ปี
- DTP-HB-Hib2
- OPV2
- LAJE1
เดือนที่ 1
ตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้นไป
- HB1
- LAJE1
ครั้งที่ 3
เดือนที่ 2
ช่วงอายุ 1-6 ปี
- MMR2
เดือนที่ 2
ตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้นไป
- dT2
- OPV2
- HB2
ครั้งที่ 4
เดือนที่ 4
ช่วงอายุ 1-6 ปี
- DTP-HB-Hib3
- OPV3
เดือนที่ 7
ตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้นไป
- HB3
ครั้งที่ 5
เดือนที่ 12
ช่วงอายุ 1-6 ปี
- DTP4
- OPV4
- LAJE2
เดือนที่ 12
ตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้นไป
- dT3
- OPV3
- LAJE2
หมายเหตุ
- วัคซีนทุกชนิดถ้าไม่สามารถเริ่มให้ตามกำหนดได้ ก็เริ่มให้ทันทีที่พบครั้งแรก
- สำหรับวัคซีนที่ต้องให้มากกว่า 1 ครั้ง หากเด็กมารับวัคซีนครั้งต่อไปล่าช้า สามารถให้วัคซีนครั้งต่อไปได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นครั้งที่ 1 ใหม่
- กรณีการให้วัคซีนแก่ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนหรือล่าช้า เด็กจะได้รับวัคซีนตามกำหนดครบภายในระยะเวลา 1 ปี จากนั้นให้วัคซีนต่อเนื่องตามที่กำหนดในกำหนดการให้วัคซีนปกติ
เช็ควัคซีนฟรีในเด็กแล้ว หากมีข้อสงสัยเรื่องวัคซีนฟรีสำหรับลูก สามารถสอบถามได้ที่สถานพยาบาลของรัฐ หรือสถานีอนามัยทุกแห่ง เพื่อฉีดวัคซีนให้ลูกครบทุกเข็ม ทุกโรค ป้องกันโรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อสุขภาพของลูก
อ้างอิงข้อมูล : เพจคลินิกจุฬาคิดส์คลับ , pca.fda.moph.go.th และ ddc.moph.go.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
เด็กไทยป่วยมะเร็งเพิ่ม 80 คนต่อเดือน! มะเร็งในเด็ก รู้เร็ว รักษาไว หายขาดได้