♣ 7-9 ขวบ : ชวนเลือกชวนอ่าน
หนังสือสำหรับเด็กวัยนี้อาจมีตัวหนังสือเยอะขึ้น มีรูปภาพน้อยลง แต่ควรใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย และตัวหนังสือไม่แน่นจนเกินไป อาจเป็นนิทานที่มีเนื้อเรื่องยาวขึ้น เรื่องสั้น นวนิยายขนาดสั้น หรือหนังสือสารคดีตามความสนใจของเด็ก เพื่อสร้างนิสัยใฝ่รู้ ให้เขาเรียนรู้ว่าหากเขาอยากรู้หรือสนใจเรื่องใด ก็สามารถหาคำตอบได้จากหนังสือ และเนื่องจากเด็กวัยนี้เริ่มมีความสนใจแตกต่างไปตามเพศของตนเอง เด็กผู้ชายจึงชอบหนังสือนิทานแนวผจญภัย ส่วนเด็กผู้หญิงอาจชอบนิทานเกี่ยวกับเพื่อน โรงเรียน หรือเทพนิยาย คุณพ่อคุณแม่จึงควรเริ่มพาเขาไปร้านหนังสือและให้เลือกหนังสือตามความสนใจของตัวเอง เด็กบางคนอาจเลือกได้ดี เหมาะสมกับความสามารถในการอ่านของเขา และตรงกับความสนใจของตนเอง
ซึ่งการเลือกหนังสือได้ดีจะยิ่งส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน เพราะเด็กจะอ่านหนังสืออย่างสนุกสนานได้จนจบ ทำให้เขาอยากอ่านหนังสือเล่มต่อๆ ไป แต่เด็กบางคนที่ยังไม่รู้ชัดเจนว่าตนเองสนใจเรื่องใด ก็อาจเลือกเพียงเพราะสนใจรูปบนหน้าปกหรือของเล่นที่มากับหนังสือเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่จึงมีหน้าที่ให้คำแนะนำ และช่วยวางแผนให้เขาอ่านหนังสือเล่มที่เลือกให้ได้จนจบ อาจแบ่งอ่านวันละ 1 ตอน หรือวันละไม่กี่หน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เขาไม่รู้สึกท้อและเลิกอ่านหนังสือไปกลางคัน
Must read : การอ่านที่แท้จริงคืออะไร
⊕ 9-12 ขวบ : อิสระเลือก อิสระอ่าน
เด็กวัยนี้จะรู้สิ่งที่ตัวเองสนใจอย่างชัดเจน เมื่อพาลูกไปร้านหนังสือจึงควรมีข้อตกลงกับเขาว่า คุณพ่อคุณแม่จะให้เขาเลือกหนังสือเล่มที่ชอบที่สุดได้กี่เล่ม และอาจให้คำแนะนำวิธีการเลือกหนังสือ เช่น ควรลองอ่านก่อนสัก 1 บทเพื่อดูว่าถูกใจจริงๆ ไหม หรือหากเป็นหนังสือห่อพลาสติกที่ไม่สามารถเปิดอ่านได้ก็ควรอ่านจากปกหน้าและปกหลังก่อน และสอนให้ลูกหยิบจับหนังสืออย่างทะนุถนอม แม้เราจะเลือกซื้อหรือไม่ก็ตาม แล้วให้เวลาเขาค่อยๆ ดู ค่อยๆ เลือกด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เขาจะได้ไตร่ตรองความสนใจของตัวเอง และเลือกหนังสือที่ใช่ได้ตรงใจที่สุด
สุดท้ายนี้อาจารย์สุธาวัลย์ฝากไว้ว่า “นิสัยรักการอ่านจะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อเขารู้สึกสนุกกับการอ่านหนังสือ ดังนั้นจึงควรเลือกหนังสือของลูกให้เหมาะกับวัยและตรงกับความสนใจของเขา นอกจากนี้การเล่านิทานและชวนลูกพูดคุยหรือตั้งคำถามยังต้องใส่ลีลาหรือความตื่นเต้นเข้าไปบ้าง เพื่อให้ลูกตื่นเต้นหรือลุ้นไปตามเรื่องราว เพราะหากคุณพ่อคุณแม่เร่งแต่จะให้เขาอ่านออกเขียนได้ แล้วเด็กเกิดความเบื่อหน่าย ไม่สนุกสนาน เขาก็จะไม่ได้อะไรจากหนังสือเล่มนั้น แถมยังมีทัศนคติไม่ดีกับการอ่านติดตัวไปจนโต แตกต่างจากเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ให้อิสระในการเล่น เล่านิทานสนุกๆ ให้ลูกฟัง ชวนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เด็กจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายและจดจำได้เอง เมื่อถึงวัยที่ต้องเรียนอ่านเขียน แม้จะเริ่มช้ากว่าเด็กคนอื่นแต่ใช้เวลาไม่นานก็ตามทันเพื่อน ไม่ได้มีปัญหาพัฒนาการล่าช้าแต่อย่างใดเลยค่ะ”
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- วิธีสร้างลูกน้อยรักการอ่าน 8 step
- รวมชุดหนังสือนิทานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
- 20 เคล็ดลับสร้างลูกรักให้เป็นนักอ่านตัวน้อย
เรื่อง : ดร.สุธาวัลย์ หาญขจรสุข สถาบันวิจัยและพัฒนาการศึกษาพิเศษ (ศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็ก) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร