การเคลื่อนที่ไปมา การเล่นกีฬา การใช้มือประดิษฐ์ การใช้ทักษะทางกาย ตลอดจนทัศนศึกษาอีกด้วยนะครับ นับว่ามีความหมายครอบคลุมกว้างขวางทีเดียว
อาชีพที่เราพบบ่อยๆ จากคนที่มีทักษะด้านนี้ นอกจากนักกีฬาก็เช่น ครูสอนโยคะ แอโรบิก นักเต้นรำ ครูพละ ช่างอัญมณี ช่างฝีมือ ซึ่งประเทศไทยเคยส่งไปแข่งขันแล้วได้รางวัลชนะเลิศประเภททีมระดับโลกอย่างโอลิมปิกกันเลยทีเดียว
ตัวอย่างคนไทยที่ประสบความสำเร็จมีมากมาย โดยเฉพาะกีฬาประเภทเทนนิส ตั้งแต่คุณแทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์, ภราดร ศรีชาพันธุ์ ซึ่งตัวอย่างของคุณบอลนี้ชัดเจน คุณพ่อส่งเสริมให้ลูกชายทั้งสามคนเล่นเทนนิสจนเป็นนักกีฬาทีมชาติทุกคน ต้องหยุดพักการเรียนไปคอยตระเวนแข่ง กว่าจะพบความสำเร็จย่อมต้องฟันฝ่าขวากหนามและความอดทนมากมาย ก็ต้องขอยกย่องคุณพ่อและคุณแม่ของตระกูลศรีชาพันธุ์ครับ
ยังมีนักกีฬาเทควันโด ซึ่งแม้เป็นของเกาหลี เด็กไทยก็กลับทำได้ดี ตั้งแต่ยุคคุณโดโด้ – ยุทธพิชัย ชาญเลขา มาถึงน้องวิว – เยาวภา บุรพลชัย เป็นต้น
ถ้าเป็นแพทย์ก็มักเป็นแขนงที่มีหัตถการ เช่น ศัลยแพทย์ แพทย์ฝังเข็มกายภาพบำบัด ทันตแพทย์ เป็นต้น
ทีนี้เรามาลองดูวิธีที่ใช้วัดแววความถนัด (ปัญญา) ทางด้านนี้ว่าลูกน้อยของคุณมีประกายในข้อใดบ้างหรือไม่
1. เล่นกีฬาอย่างน้อยหนึ่งชนิดเป็นประจำ
2. รู้สึกยากจังที่จะอยู่เฉยๆ
3. ชอบทำงานด้วยมือ เช่น งานไม้ สร้างโมเดล การฝีมือ
4. ความคิดดีๆ มักมาตอนเดินเล่นหรือทำกิจกรรมออกค่าย
5. ชอบใช้เวลาว่างส่วนใหญ่กลางแจ้ง
6. เวลาทำอะไรด้วยตัวเองมักทำได้ดีเสมอ
7. เวลาสนทนามักใช้มือแสดงท่าทางประกอบ
8. ชอบสนุกกิจกรรมท้าทาย เช่น ขี่ม้า
9. ชอบขึ้นแสดงมากกว่านั่งอธิบาย
10. ไม่ลังเลที่จะออกไปเต้นรำในงานเลี้ยง
11. ชอบวิชาพละมากกว่าวิชาอื่นๆ ในห้องเรียน
12. ชอบชวนสมาชิกในครอบครัวทำกิจกรรมด้านกีฬามากกว่าอย่างอื่น
13. รายการกีฬาเป็นรายการโปรดมากกว่าละครทีวี
14. ชอบลงมือซ่อมเครื่องใช้เองมากกว่าแค่อ่านคู่มือการใช้
15. ชอบนัดเพื่อนๆ ไปทำกิจกรรมผจญภัย อย่างล่องแก่ง ปีนผา
ความจริง ประโยชน์โดยตรงของการออกกำลังกายมีมากมาย เช่น ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นเอ็นยึดหรือบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหว แต่ก็มีกีฬาหรือกิจกรรมบางอย่างที่กระตุ้นการใช้สมองสองซีก เช่น บัลเลต์ที่เน้นสมดุลสองข้าง หรือการออกกำลังกายที่เรียกว่า เบรนยิม (Brain Gym) เน้นการใช้ร่างกายสลับซีก เป็นต้น
ผลพลอยได้อื่นๆ ก็คือ การเป็นนักกีฬาอาชีพ เช่น กอล์ฟ ซึ่งเราเป็นเจ้าสนามในระดับเอเชีย ทั้งประเภทอาชีพ เยาวชน และสมัครเล่น
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งจุฬาลงกรณ์ ธรรมศาสตร์ มหิดล ก็มีโครงการช้างเผือก รับนักกีฬาเป็นนิสิตนักศึกษา จึงเป็นความได้เปรียบของนักกีฬาครับ
คุณพ่อคุณแม่คงเห็นแล้วว่าประโยชน์ของกีฬานั้นมากมายมหาศาลเพียงใด จึงควรปลูกฝังทัศนคติ กิจกรรมกีฬาให้เป็นกิจกรรมครอบครัวในวันหยุดแทนการดูทีวี เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ในภายภาคหน้าลูกของเราจะได้มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ ไม่ใช่แบบปัจจุบันที่สังคมไทยมีปัญหามากมายเพราะคำว่า “แพ้ไม่เป็น” คำเดียวเท่านั้น
ถ้าทุกคนสะกดคำว่า “แพ้” เป็น ยอมแพ้วันนี้เพื่อชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าในวันหน้า และถ้าคนไทยทุกคนได้ฝึกทักษะด้านนี้ เรียนรู้คำว่า “รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” เราคงจะมีประชาชนไทยที่มีสติ มีเหตุมีผล ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขอีกมาก
เยาวชนคุณภาพ อนาคตของประเทศ เริ่มต้นจากในบ้าน ด้วยสองมือของคุณพ่อคุณแม่ทุกครอบครัวตั้งแต่วันนี้ครับ
บทความโดย: นายแพทย์อนันต์ โลหะพัฒนบำรุง กุมารแพทย์