17. จะมากไปแล้วนะ – อย่าหวังว่าเด็กจะเข้าใจว่าเขากำลังทำให้คุณโกรธ และนั่นยิ่งสร้างแรงต่อต้านกับความกลัวให้มากขึ้นไปอีก ในขณะที่ปัญหายังอยู่เหมือนเดิม
18. หยุดตะโกนสักที – วิธีนี้อาจจะได้ผลกับเด็กบางคน แต่สำหรับเด็กทุกคน การที่คุณเงียบแล้วพูดด้วยเหตุผลคือสิ่งที่เขาต้องการมากกว่า
19. ขี้เกียจจะพูดแล้ว – อย่าคิดว่าเด็กไม่เข้าใจความหมายของคำพูดพวกนี้ และแน่นอนว่าคุณเองก็รู้ว่าคำพูดนี้มันแย่แค่ไหน
20. เฮ้ย โมโหแล้วนะ – แทนที่จะตะโกนโวยวาย เปลี่ยนมาเป็นการเปรียบเทียบอารมณ์ด้วยสี เช่น เขียวคืออารมณ์ดี แดงคือโกรธ และโดยธรรมชาติของเด็ก เขาจะพยายามแก้ไขอีกสีให้เป็นอีกสี และคุณจะมีโอกาสได้คุยกับเขาดีๆ
21. ห้ามเปลี่ยน นี่ดีแล้ว – อาจเป็นปัญหาเวลาแต่งตัว ที่ลูกๆ ไม่อยากใส่ชุดที่คุณเลือกให้ แต่แทนที่จะบอกเขาว่าที่คุณเลือกมาเนี่ยดีที่สุดแล้ว ควรบอกเหตุผลด้วยว่าทำไมของที่เขาเลือกมาไม่เหมาะ และมันเหมาะจะใส่ไปไหน
22. อย่าเถียง – นอกจากจะทำให้เด็กต่อต้าน ผลลัพธ์นั้นอาจสะสมรุนแรงจนถึงขั้นที่ลูกไม่ยอมบอกอะไรคุณอีกเลย
23. อย่ามาโกรธพ่อ/แม่นะ – มันจะดีกว่ามากถ้าคุณจะไม่สั่งเขาแบบนี้ แต่ถามเขาว่าทำไมถึงโกรธคุณ เพราะถึงมันจะเป็นคำตอบที่ไม่ถูกใจคุณ แต่อย่างน้อยมันทำให้คุณกับลูกได้คุยกัน
24. อย่าเวอร์นักสิ – ในวัยช่างจินตนาการ เขาไม่รู้หรอกว่าอะไรคือเวอร์เกินไป อะไรคือพอดี และแทนที่คุณจะทำให้เขาต้องขายหน้า คุณสามารถบอกได้ว่า อะไรคือพอดี และเป็นความพอดีทั้งของคุณและลูก
25. หยุดเดี๋ยวนี้ – คำพูดนี้นอกจากจะใช้หยุดหมาได้แล้ว มันยังสามารถหยุดพัฒนาการและความคิดของลูกคุณได้ชะงัดมาก
พัฒนาการและพฤติกรรมต่างๆ ของลูกเกิดจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ นอกจากการกระทำแล้ว “คำพูด” ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ จากคำพูดทั้ง 25 ข้อข้างต้นหากคุณพ่อคุณแม่คนไหนเคยพูดกับลูกก็ควรหยุดนะคะ และหากใครที่ยังไม่เคยพูด ก็ควรระมัดระวังไม่เผลอตัวพูดคำยอดแย่เหล่านี้ออกมา ในขณะที่กำลังโกรธหรือโมโหลูก เพราะคุณอาจทำลายพัฒนาการของลูกด้วยคำพูดนั่นเองค่ะ
เพราะการเลี้ยงลูกน้อยให้เติบโตมาเป็นเด็กดีอย่างที่ต้องการนั้น ควรเริ่มจากคำพูดคำสอนที่ดีของพ่อแม่ มาช่วยแต่งเติมสีสันทีสวยงามให้กับผ้าขาวของเรานะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : pulptastic.com