7 เทคนิคสร้าง IQ (Intelligence Quotient) - Amarin Baby & Kids
IQ (Intelligence Quotient)

7 เทคนิคสร้าง IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดของลูกที่เพิ่มพูนได้

Alternative Textaccount_circle
event
IQ (Intelligence Quotient)
IQ (Intelligence Quotient)

3.ให้ลูกได้เล่นและออกกำลังกาย

สำหรับเด็ก ๆ “การเล่น” ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมพัฒนาการในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการทางกายในด้านการฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้เจริญเติบโต พัฒนาการทางอารมณ์ที่ทำให้ลูกรู้จักการแบ่งปันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การสร้างมิตรภาพระหว่างเพื่อนในวัยเดียวกัน รู้จักการเข้าสังคม การเล่น ที่แม้จะเป็นแค่เกมง่าย ๆ ก็ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา ผ่านกระบวนการคิดที่ซับซ้อนจากสมอง ส่วนการออกกำลังกายในขณะที่เล่นกีฬาใด ๆ จะเพิ่มการทำงานของสมองด้วยการปล่อยสารเอ็นโดรฟิน เป็นสารเคมีที่ทำให้สมองเกิดความรู้สึกดี กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท เมื่อทุกกระบวนการถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน จะช่วยให้ลูก ได้คิด วิเคราะห์ ฝึกการแก้ปัญหา แก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ส่งเสริมจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ และช่วยในการจดจำทำให้เด็กได้สร้างความรู้ก่อนจะแสดงออกมาทางการกระทำและคำพูดที่พ่อแม่รับรู้ได้ รวมทั้งได้ความสุข ความเพลิดเพลินจากการเล่นและออกกำลังกายในกิจกรรมง่าย ๆ และเป็นอิสระด้วย

เทคนิคพัฒนาไอคิว
เทคนิคพัฒนาไอคิว

4.อ่านหนังสือให้ลูกฟัง

อยากให้ลูกฉลาดเพียงแค่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง หรือให้ลูกดูภาพประกอบในหนังสือ จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านสมองของลูกได้ดี มีผลจากการศึกษาจากทั่วโลก ชี้ชัดมานานแล้วว่า การอ่านหนังสือให้ลูกฟังมีประโยชน์หลายอย่าง ไม่เพียงช่วยในการพัฒนาภาษาที่ช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ของลูก ยังรวมถึงการสื่อสารและการเรียนรู้ การสะกดคำ การอ่าน ที่จะช่วยให้ลูกฉลาดขึ้นได้ เพราะในขณะที่ลูกฟังนิทานที่แม่อ่าน เซลล์สมองจะมีการแตกแขนงของเส้นใยประสาท ยิ่งเส้นใยสมองเพิ่มขึ้นมาก เด็กจะยิ่งฉลาดมาก การอ่านทำให้มีการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น ทางตา ทางหู การจับสัมผัส กระตุ้นจินตนาการและความคิดรวบยอด เมื่อฟังแล้วเด็กจะมีการคิดตามสิ่งที่ได้ยินเป็นการฝึกมโนภาพ และนอกจากจะช่วยเพิ่มความสามารถทางปัญญาที่กว้างขึ้น การที่คุณพ่อคุณแม่ได้เริ่มอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่เล็ก ๆ ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกๆ ส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ของเด็กได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดนตรีพัฒนาสติปัญญา
ดนตรีพัฒนาสติปัญญา

5.เรียนรู้การเล่นเครื่องดนตรี

มีงานวิจัย ผลทดลอง และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากศึกษาถึงประโยชน์ของดนตรีต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าการให้ทำกิจกรรมทางดนตรี อย่างการร้องเพลงหรือเล่นเครื่องดนตรีตั้งแต่ยังเล็ก มีส่วนช่วยเสริมพัฒนาการและทักษะความสามารถด้านต่าง ๆ ของเด็กได้มาก โดยมีผลการวิจัยจากหลายสถาบันได้แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายอาชีพมีวัยเด็กที่ผ่านการเรียนดนตรีมาแทบทั้งสิ้น มีผลการศึกษาพบว่า การเล่นดนตรี ให้ผลโดยตรงต่อสมอง ซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ด้วยการสแกน MRI ระหว่างที่เล่นดนตรีนั้นทำให้เกิดกระบวนการคิดสร้างสรรค์ เมื่อเด็กๆ ได้ฟังเพลง เนื้อร้องก็จะเกิดการจินตนาการเป็นภาพตามบทเพลง ครีเอทสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นได้ดี และการเรียนรู้การเล่นเครื่องดนตรียังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มระดับ IQ โดยตรงได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีผลมาจากการฝึกสมองผ่านการเรียนรู้โน๊ตดนตรี แยกประสาท เช่น การเล่นเปียโนที่ต้องใช้มือซ้าย-ขวา การตีกลองที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสตา มือ แขน ขา ที่เชื่อมโยงทุกส่วนกัน ดังนั้นกิจกรรมดนตรีก็เป็นส่วนหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยที่จะช่วยพัฒนาไอคิวให้เจ้าตัวเล็กนะคะ

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : 6 ข้อที่บอกว่าให้ลูก เรียนร้องเพลงดียังไง เพิ่มไอคิว ช่วยลูกฉลาด!

6.ฝึกหายใจลึก ๆ

หนี่งในเทคนิคสร้างความฉลาดให้ลูกแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใด ๆ เลยนั้นคือ การฝึกให้ลูกได้หายใจลึก ๆ ซึ่งจะช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้รับออกซิเจนทั่วถึง โดยสมองใช้ออกซิเจน 20.25% ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมองนั่นเอง ซึ่งวิธีหายใจอย่างถูกต้อง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น หรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ ที่สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เวลา 10-15 นาทีในแต่ละวันกับลูกในตอนเช้าหรือก่อนนอนฝึกหายใจลึก ๆ กันดูนะคะ

อ้างอิงข้อมูลจาก www.sanook.com

7.สร้างอารมณ์ขันกับลูก 

ในปี 2010 มหาวิทยาลัยนิวแม็กซิโกได้ทำการศึกษานักศึกษามหาวิทยาลัย 400 คนและพบว่าคะแนนสูงในการทดสอบความฉลาด (IQ) มีความสัมพันธ์ระหว่างสติปัญญาและอารมณ์ขันอย่างมาก การได้เล่นกับลูกและสร้างเสียงหัวเราะให้กับเจ้าตัวเล็กนั้น ทุกครั้งที่ได้ยิ้มและหัวเราะบ่อย ๆ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขหลั่งออกมา เป็นการกระตุ้นให้สมองได้คลายจากความตึงเครียด ซึ่งจะเป็นการลดภาระของสมอง ส่งผลให้ลูกรู้สึกอารมณ์ดี และนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดีได้

ท้ายที่สุดความฉลาดที่สร้างได้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น ความฉลาดของมนุษย์นั้นไม่ได้วัดจากการทดสอบที่ได้มาตรฐานเพียงอย่างเดียว การมีสมองที่ดีขึ้นอยู่กับการเรียนรู้และฝึกฝนด้วย นอกจากเทคนิค 7 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่ม IQ ของลูก โดยการแนะนำให้ลูกได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่หลากหลาย สังเกตความถนัดของตัวลูก ถ้าสามารถหาสัดส่วนที่ลงตัวของความฉลาดด้านต่าง ๆ ของลูกได้ และให้การส่งเสริมพัฒนาในแนวทางที่เหมาะสม ก็จะเป็นส่วนช่วยพัฒนาไอคิวให้ลูกเป็นเด็กฉลาดในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง และสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปในอนาคต คุณภาพชีวิตก็จะดีตามได้.

ขอบคุณข้อมูลจาก www.news18.com, www.gsbgen.com, www.happyhomeclinic.com

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ :

ทดสอบไอคิวลูก แบบง่ายๆ ด้วย Gesell drawing test ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 2-12 ขวบ

สารพัดความฉลาด 10 ด้าน 10Q คืออะไร ทำไมเด็กต้องมีให้ครบ!

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Summary
Review Date
Reviewed Item
IQ (Intelligence Quotient)
Author Rating
51star1star1star1star1star

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up