การเล่นของลูก นอกจากเรื่องจะเล่นอะไรกันดี ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ พื้นที่เล่นของเด็ก ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ที่สนามเด็กเล่น คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดสรรพื้นที่ในบ้าน หรือประยุกต์พื้นที่ในชุมชนให้เป็นพื้นที่เล่นของเด็กได้ หัวใจสำคัญคือต้องคำนึงความแตกต่างทางเพศ บุคลิกภาพ ความสามารถทางกาย และความต้องการพิเศษของเด็กค่ะ เรามีคำแนะนำเรื่องการจัดพื้นที่ในบ้านและในชุมชนมาแบ่งปันกัน
จัดพื้นที่เล่นแบบนี้ลูกก็เล่นสนุกได้นะ
- ในบ้าน ไม่ใช่ทุกบ้านจะมีขนาดใหญ่โต แต่ถ้าจัดสรรพื้นที่ดีๆ ก็สามารถเพิ่มมุมเล่นให้เด็กๆได้ขยับแข้งขยับขาได้ ลองเลือกการเล่นที่ใช้อุปกรณ์น้อยๆ แต่เน้นได้ออกแรง เช่น มุมกระโดดเชือก หรือตีลังกา เป็นต้น
- ชุมชน หากบ้านที่คุณอยู่เป็นหมู่บ้านลองหารือกับสมาชิกในชุมชนเพื่อจัดสรรพื้นที่กิจกรรมร่วมกันหนึ่งวันในทุกสัปดาห์ เช่น กิจกรรมบ่ายวันอาทิตย์ ปิดถนนเส้นเล็กในชุมชน ให้เด็กได้วิ่งไล่จับ หรือเล่นการละเล่นไทยอื่นๆ เช่น มอญซ่อนผ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในชุมชนแล้ว ยังทำให้เด็กๆ ได้มาพบปะออกกำลังกายกัน ลดพฤติกรรมการติดจออีกด้วย
- พื้นที่ว่างใต้ทางด่วน สำหรับในกรุงเทพฯ บริเวณที่มีทางด่วน ชุมชนสามารถจัดการพื้นที่ให้สะอาดและปลอดภัย เพื่อกระตุ้นให้เด็กออกมาเล่นกิจกรรมที่หลากหลายในเวลาว่างได้
- ธรรมชาติรอบตัว บ้านไหนที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ อาจจะเป็นสวนหลังบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านการเล่นกับธรรมชาติรอบตัว เช่น การห้อยโหนหรือปีนป่ายต้นไม้ จะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะทั้งร่างกาย สังคม และสมอง
Active Play คือการเล่นสนุกได้เหงื่อแบบฟรีฟอร์ม
เด็กอายุ 5-7 ปี
- เล่นเดี่ยว = ปีนป่าย ว่ายน้ำ
- เล่นคู่ = ขว้างรับลูกบอล ส่งบอลไปมา
เด็กอายุ 8-14 ปี
- เล่นคู่ = กระโดดเชือก แบดมินตัน เทนนิส
- เล่นกลุ่ม = ขี่จักรยานเที่ยวเป็นกลุ่มในชุมชน ชักเย่อ เซปักตะกร้อ