นิทานก่อนนอน เล่าให้ลูกฟังทุกคืน ฉลาดทั้งไอคิว อีคิว - Amarin Baby & Kids
นิทานก่อนนอน

นิทานก่อนนอน เล่าให้ลูกฟังทุกคืน ปูพื้นฐานภาษา ฉลาดทั้งไอคิว อีคิว

Alternative Textaccount_circle
event
นิทานก่อนนอน
นิทานก่อนนอน

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…” กิจกรรมเล่า นิทานก่อนนอน นอกจากจะเป็นการสร้างความผูกพันที่ดีระหว่างครอบครัวแล้ว ยังดีต่อพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของเจ้าตัวเล็กเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงสร้างความสนุกเพลิดเพลินใจ และยังเป็นตัวกระตุ้นจินตนาการของเด็ก ๆ เชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาสมองและสติปัญญาที่ดีได้อีกด้วย มาดูประโยชน์ของการเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน พร้อมตัวอย่างหนังสือนิทานที่น่าอ่านให้ลูกฟังกันค่ะ

7 ประโยชน์ของการเล่า นิทานก่อนนอน ให้ลูกฟัง

1.ช่วยให้เกิดจินตนาการ ในขณะที่ลูกได้ฟังนิทานจะช่วยกระตุ้นจินตนาการเป็นภาพตามเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่เล่า ซึ่งจินตนาการวัยเด็กเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สมองเกิดกระบวนการคิดสร้างสรรค์ การเชื่อมโยงเรื่องราว และจัดระบบเรื่องราวได้ยิ่งขึ้น และถึงแม้จะเป็นหนังสือนิทานเล่มเดิมที่มีเรื่องราวเดิม ๆ แต่การคิด การตีความ หรือการวาดภาพในสมองของเด็กจะต่างกันออกไปได้ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มกระบวนการทำงานของสมอง และต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง

2.ช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษา การเล่านิทานของคุณพ่อคุณแม่ก็เหมือนลูกได้เรียนภาษาไปในตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ลูกจะรู้จักชุดคำศัพท์ใหม่ ๆ ความหมายของคำ โครงสร้างประโยค ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และต่อยอดไปสู่การรักการอ่านและมีทัศนคติที่ต่อการเรียนภาษา

3.ช่วยเพิ่มความจำที่ดีมากขึ้น การได้ฟังนิทานนอกจากจะช่วยเสริมสร้างจินตนาการแล้ว ยังทำให้เด็ก ๆ เกิดทักษะในการจับประเด็นวิเคราะห์เรื่องราว และสรุปเรื่องย่อในเรื่องได้ โดยเฉพาะนิทานเรื่องโปรดที่ให้คุณพ่อคุณแม่อ่านซ้ำไปซ้ำมาก็จะทำให้ลูกเกิดกระบวนการจดจำ จนคุณแม่อาจจะได้ยินลูกเล่านิทานเรื่องนี้ได้เป็นฉาก ๆ ถือว่าเป็นการช่วยพัฒนาการความจำและฝึกสมองของลูกน้อยได้อีกวิธีหนึ่งเลยทีเดียว

4.ช่วยพัฒนาทั้ง IQ EQ และ EF การเล่านิทานจะมีส่วนกระตุ้นให้ลูกเป็นคนช่างคิด ช่างสังเกต ช่างซักถาม ที่จะต่อยอดให้มีความมั่นใจ กล้าแสดงความคิดเห็น เกิดกระบวนการคิดแก้ปัญหา รู้จักวางแผน และเกิดการเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ ที่จะส่งเสริมให้เกิดความฉลาดทางปัญญา ความฉลาดทางอารมณ์ และทักษะสำคัญต่อการดำเนินชีวิตได้

5.ช่วยฝึกสมาธิให้ลูก เวลาก่อนนอนควรเป็นเวลาที่ลูกจะได้อยู่นิ่ง ๆ เตรียมพร้อมก่อนที่จะพักผ่อน การเล่านิทานในช่วงเวลาเดียวกันในทุก ๆ วัน จะทำให้ลูกน้อยรู้ว่านี่คือเวลาเข้านอน และมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่เล่า ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังวินัยการตรงต่อเวลาที่ดีให้กับเจ้าตัวเล็กด้วย

6.ช่วยปลูกฝังนิสัยที่ดีให้ลูกน้อย ในหนังสือนิทานที่มีเนื้อหาดีจะสอดแทรกไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีข้อคิดสอนใจ เช่น มารยาทต่าง ๆ ความมีน้ำใจ การฝึกทักษะในชีวิตประจำวัน ระเบียบวินัย ฯลฯ การเลือกนิทานที่เหมาะสมกับวัยของลูกน้อยจึงมีส่วนสำคัญ เมื่อเด็กได้ฟังเรื่องเล่าจากนิทานก็จะซึมซับและสร้างพฤติกรรมที่ดีอันเป็นการปลูกฝังสิ่งดี ๆ ให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ

7.ช่วยเสริมสร้างความอบอุ่นให้ลูกน้อย การเล่านิทานก่อนนอนจัดว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยทำให้ลูกได้นอนหลับฝันดี พักผ่อนอย่างมีความสุข การได้อยู่ใกล้ชิดคุณพ่อคุณแม่ก่อนนอนจะทำให้ลูกได้รับรู้ถึงความรัก รู้สึกปลอดภัย นำไปสู่ความรู้สึกเชื่อมั่นที่จะเรียนรู้ต่อไป

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ นักจิตเวช พัฒนาการวัยเด็กและวัยรุ่น ได้พูดถึงกิจกรรมการอ่านนิทานก่อนนอนว่า เวลาส่งลูกเข้านอนในช่วง 20.30 น. ไม่เกิน 21.00 น. การทำกิจกรรมร่วมกันถือเป็นเวลาคุณภาพ “หากทำติดต่อกันทุกวันเป็นระยะเวลา 3 ปี จะเกิดประโยชน์มากมาย เด็กมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว เฉลียวฉลาด รักการอ่าน เป็นเด็กดี เชื่อฟัง ที่สำคัญเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของสมองส่วนหน้า (EF)” – (ข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th)

ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกหนังสือนิทานที่มีเรื่องราวหลายประเภทและลักษณะแตกต่างกันที่ให้เหมาะสมกับวัยของลูกได้ เช่น นิทานที่สอดแทรกเนื้อหาในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ส่งเสริม EF จินตนาการ นิทานพื้นบ้าน นิทานอีสป หรือเรื่องที่แต่งขึ้นมาใหม่บางเรื่องเป็นจินตนาการหรือบางเรื่องเกี่ยวกับใกล้ตัวเด็ก เพื่อให้ลูกได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย และไม่ต้องกังวลไปหากลูกจะมีความชอบฟังนิทานเล่มเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก

แนะนำ 10 ตัวอย่างหนังสือนิทานก่อนนอนสำหรับลูกตั้งแต่ 0-7 ปี

คุณฟองฟันหลอ

1.คุณฟองฟันหลอ
ผู้แต่ง-ภาพประกอบ : ชีวัน วิสาสะ สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก จำนวน : ๓๒ หน้า

คุณฟองฟันหลอ เพราะเด็กๆทุกคนจะต้องมาถึงวันที่ฟันน้ำนมหลุดไป เช่นเดียวกันกับคุณฟอง ที่เมื่อฟันน้ำนมหลุดแล้วก็กลายเป็นคนฟันหลอ ไม่กล้าออกจากบ้าน ไปแปรงฟันให้เพื่อนเหมือนเคยหมือนกับเด็กๆ ที่ฟันหลอแล้วมักเขินอาย ตกใจหรือเป็นกังวล  ส่วนเพื่อน ๆ ก็รออยู่ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่า คุณฟองหายไป ไม่มาแปรงฟันให้เพื่อน ๆ เหมือนเดิม จึงเดินทางมาหาคุณฟองที่บ้าน เมื่อรู้ว่าเพื่อนมาหา คุณฟองดีใจแต่ก็ยังรู้สึกอายอยู่ดี ส่วนเพื่อน ๆ พอรู้ปัญหาของคุณฟองเพื่อนๆ ก็พยายามหาฟันมาใส่ให้คุณฟองเป็นการทดแทน เมื่อคุณช้างเสนอให้คุณฟองใช้งาคู่ใหญ่ คุณฮิปโปใจดีเสนอใช้ยืมฟันซี่โต และคุณจระเข้ก็ยินดีใช้คุณฟองยืมฟันแหลม ๆ เต็มปาก แต่คุณฟองปฏิเสธไปและขอบใจเพื่อน ๆ เพราะคุณฟองรู้ดีว่าฟันที่หลุดไปนั้นเป็นฟันน้ำนม อีกไม่นานฟันแท้ก็จะงอกขึ้นมาแท้ที่นั่นเอง.

คุณตาหนวดยาว

2.คุณตาหนวดยาว
ผู้แต่ง-ภาพประกอบ : ชีวัน วิสาสะ สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก จำนวน : ๓๒ หน้า

เรื่องของคุณตาหนวดยาวคนหนึ่งที่อยู่คนเดียว คุณตาแก่ลงทุกวันแต่หนวดของคุณตากลับยาวขึ้นเรื่อยๆ คุณตาไม่มีความสุขกับหนวดที่ยาวขึ้นเพราะบางวันก็เดินสะดุด บางวันก็ล้มเพราะหนวดยาวเกินไป คุณตาจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะอยู่กับหนวด จนในที่สุดคุณตาก็ค้นพบวิธีที่จะอยู่กับหนวดได้อย่างมีความสุข นั่นก็คือ คุณตาลองใช้หนวดทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ กวาดบ้าน ถูบ้าน สีหนวดเป็นเพลงเพราะๆ และทำอะไรๆ ได้อีกหลายอย่างตามแต่เด็กๆ จะช่วยกันจินตนาการ

หนังสือเล่มนี้จะทำให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการต่อยอดไปว่าหนวดของคุณตาสามารถทำอะไรได้อีกบ้างกันนะ แถมยังเป็นหนังสือที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเด็ก ๆ กับผู้สูงอายุด้วย

อ่านคุณตาหนวดยาวเพิ่มเติม คลิก

มากินข้าวด้วยกันนะ

3.มากินข้าวด้วยกันนะ
ผู้แต่ง-ภาพประกอบ : วชิราวรรณ ทับเสือ สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก จำนวน : ๒๔ หน้า

มากินข้าวด้วยกันนะ มากินข้าวด้วยกันนะ  เป็นหนังสือที่อยากให้เด็ก ๆ มีความสุข และรู้สึกสนุกกับการกินข้าว ตัวเด็กที่เป็นตัวละครหลักในเล่มได้ชักชวนให้เพื่อนสัตว์ต่าง ๆ มาร่วมกินอาหารด้วย หมายถึงการแบ่งปัน มีนํ้าใจเอื้อเฟื้อ และได้เสริมความรู้ด้วยว่าสัตว์แต่ละตัวชอบกินอาหารชนิดใด เช่น แมวกินปลา หมากินกระดูก หมีกินน้ำผึ้ง กระต่ายกินแครอท เด็กกินข้าว ฯลฯ หนังสือภาพเล่มนี้จะช่วยให้เพิ่มเติมจินตนาการให้กับเด็ก ๆ เมื่อเด็กหลายคนได้อ่านและเห็นภาพก็พอถึงภาพที่ตัวละครนั่งกินอาหารร่วมกันกับเพื่อน ๆ เขาจะหยิบอาหารแต่ละชนิดของทุกตัวเข้าปาก ทำท่าเคี้ยว และจินตนาการว่า ได้ลองชิมอาหารของเพื่อนจริง ๆ แล้วพูดออกมาว่า “อร่อยจังเลย” อยากให้หนังสือภาพ “มากินข้าวด้วยกันนะ” เล่มนี้ สร้างความเพลิดเพลิน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ได้กินข้าวร่วมกันอย่างมีความสุข.

อ่านมากินข้าวด้วยกันนะเพิ่มเติม คลิก

อาบน้ำด้วยกันนะ

4.อาบน้ำด้วยกันนะ
ผู้แต่ง-ภาพประกอบ : วชิราวรรณ ทับเสือ สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาพที่มีพื้นที่ขาวโล่ง สะอาดตา ไม่มีฉากหลังที่รกรุงรัง ใช้ภาพน้อย คำน้อย บอกเล่าเรื่องราวที่ชวนให้เด็ก ๆ ชื่นชอบการอาบน้ำ และอยากจะให้เด็กๆได้มีความสุข และสนุกกับการอาบนํ้า โดยเด็กชายที่เป็นตัวละครหลักในเล่มจะชวนเพื่อน ๆ ตุ๊กตาของเขาไปอาบน้ำด้วยกัน ให้เด็ก ๆ ได้จินตนาการจากเสียงที่คุณพ่อคุณแม่อ่านให้ฟัง สร้างความเพลิดเพลินไปด้วยกันจากการได้อ่านหนังสือภาพร่วมกันอย่างมีความสุข

อ่านอาบน้ำด้วยกันนะเพิ่มเติม คลิก

อาบน้ำสนุกจัง

5.อาบน้ำสนุกจัง
เรื่อง : เคียวโกะ มัตษุโอกะ ภาพ : อาคิโกะ ฮายาชิ แปล : พรอนงค์ นิยมค้าและมารินา โฮริคาวา สำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก

มาโกะจังตัวเอกในเรื่องกำลังจะอาบน้ำ ได้ยินเสียงแม่ถามเข้ามาว่า “น้ำอุ่นพอดีหรือยัง” นี่คือสัญญาณเริ่มต้นจินตนาการ จากนั้นก็เริ่มมีเพื่อนๆสัตว์เข้ามาอาบน้ำด้วยกัน เล่นสนุกด้วยกันในห้องน้ำชักชวนกันนับเลขต่อจำนวนด้วยกัน เริ่มจากตุ๊กตาเป็ดตัวเล็กๆของเด็กชาย ก็เริ่มมีเต่า เพนกวินฝาแฝด แมวน้ำ ฮิปโป จนถึงปลาวาฬ ภาพในหนังสือเล่มนี้ สวยงามและใหญ่โตเต็มตา ดูได้อย่างเต็มอิ่ม ในตอนท้ายของเรื่อง เมื่อเสียงแม่แว่วมาอีกครั้งว่า “อาบน้ำเสร็จหรือยัง” นี่ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ต้องกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้แล้ว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้ใหญ่เป็นตัวแทนของโลกความจริงนั่นเอง การอาบน้ำของมาโกะจัง เป็นการนำเสนอทั้งความจริงในขั้นตอนของการอาบน้ำอย่างละเอียด และความฝันในจินตนาการของมาโกะจัง ที่มีเต่า นกเพนกวิน แมวน้ำ และฮิปโปมาร่วมอาบน้ำด้วย ทำให้การอาบน้ำของมาโกะจังเป็นเรื่องที่น่าสนุก

นิทานเรื่องนี้สอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้เรื่องอาบน้ำและตื่นเต้นไปกับเนื้อเรื่องที่จะต้องพบสัตว์แต่ละตัวในอ่างอาบน้ำ ช่วยกระตุ้นจินตนาการได้ดี เป็นการสื่อสารทางตรงที่สอนวิธีการอาบน้ำอย่างละเอียดอย่างเป็นขั้นตอน และการสื่อสารทางอ้อม คือ สอนเรื่องการนับและคุณธรรม จริยธรรม ในเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของคนและสัตว์ แม้เนื้อเรื่องจะยาว แต่นำเสนอให้เด็กได้ติดตามและคาดเดาเป็นระยะ ทำให้เด็กสนุกไปกับการอาบน้ำของมาโกะจังพร้อมกับภาพประกอบที่มีสีสันสวยงาม

คุณกลมๆเล็กๆ

6.คุณกลม ๆ เล็ก ๆ
ผู้แต่ง-ภาพประกอบ : ปรีดา ปัญญาจันทร์ สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก จำนวน : ๒๔ หน้า

หนังสือเล่มนี้ได้นำจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้แต่ง ที่สามารถหยิบเอารูปทรงง่าย ๆ ใกล้ตัวเด็ก มาสร้างสรรค์เป็นเรื่องราวที่น่ารัก ประกอบกับการมีคำซ้ำในนิทานที่เด็ก ๆ สามารถมีส่วนร่วมได้อย่างสนุกสนาน เช่น “คุณกลม ๆ เล็ก ๆ อาศัยอยู่ในบ้านหลังกลม ๆ เล็ก ๆ ที่มีหน้าต่างกลม ๆ เล็ก ๆ นอนบนเตียงกลม ๆ เล็ก ๆ คุณกลม ๆ เล็ก ๆ เลี้ยงหมาเอาไว้ตัวหนึ่ง วันหนึ่งคุณกลม ๆ เล็ก ๆ พาหมากลม ๆ เล็ก ๆ ออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ พบไข่นกฟองกลม ๆ เล็ก ๆ อยู่ในรังที่กลมๆ เล็ก ๆ คุณกลม ๆ เล็ก ๆ จึงเอาไข่นกกลับมาบ้าน”

กุริกับกุระ

7.กุริ กับ กุระ
ผู้แต่ง : ริเอโกะ นาคางาวะ โกะ โอมูระสํานักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็กปีที่พิมพ์ : 2541 จํานวน : 28 หน้า

กุริกับกุระสองหนูนา ที่ชอบการทำอาหาร ขณะที่พวกมันออกไปเดินเล่นก็ได้เจอกับไข่ใบยักษ์ในป่า และคิดเมนูและอุปกรณ์มาทำอาหารกันมากมาย แต่สองหนูตัวเล็กจะนำไข่ใบใหญ่กลับบ้านอย่างไร พวกมันจึงตัดสินใจขนอุปกรณ์มาจากบ้าน และทำเค้กไข่หอมฟูก็ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว กุริกับกุระ ได้แบ่งเพื่อน ๆ กินกันอย่างมีความสุข หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือนิทานภาพสำหรับเด็กที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของเด็กทั่วโลก  พัฒนาทักษะทางภาษาของลูกรัก

อ่านกุริกับกุระเพิ่มเติม คลิก

งานแรกของมี้จัง

8.งานแรกของมี้จัง
ผู้แต่ง : โยริโกะ ษุษุอิ ผู้แปล : พรอนงค์ นิยมค้า ภาพประกอบ : อาคิโกะ ฮายาชิ สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก จำนวน : ๓๒ หน้า

งานแรกของมี้จัง เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 5   ขวบ ที่ได้รับมอบหมายให้ออกจากบ้านไปซื้อของคนเดียวเป็นครั้งแรก มี้จังทั้งตื่นเต้น ดีใจและตกใจเพราะยังไม่เคยออกจากไปไหนคนเดียวมาก่อนเลย ระหว่างทางมี้จังก็ได้พบเพื่อนและเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่แสนจะยิ่งใหญ่ในโลกของเด็ก ซึ่งกว่าจะซื้อนมกลับมาให้น้องได้ มี้จังต้องใช้ความพยายามและอดทนอย่างมากที่สุด เท่าที่เด็กอายุ 5 ขวบจะทำได้ หนังสือเล่มนี้เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนอกจากเรื่องจะน่าประทับใจแล้ว ภาพวาดยังมีเสน่ห์ เนื่องจากภาพให้รายละเอียดอย่างครบถ้วน สามารถฉายให้เห็นความเป็นชุมชนเล็ก ๆ ในประเทศญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี

อ่านงานแรกของมี้จังเพิ่มเติม คลิก

ปลาก็คือปลา

9.ปลา ก็ คือ ปลา
เรื่องและภาพ : ลีโอ ลิออนนี แปล: อริยา ไพฑูรย์ มูลนิธิเอสซีจี

ลูกปลากับลูกอ๊อดเป็นเพื่อนสนิทกัน วันหนึ่งลูกอ๊อดโตขึ้นกลายเป็นกบ กระโดดออกจากบึงน้ำไปท่องโลกกว้าง ปลาได้แต่รอคอยด้วยความสงสัยว่าเพื่อนกบหายไปไหน วันหนึ่งกบกลับมาเล่าถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้ไปพบ นับแต่นั้นมา ปลาผู้เปี่ยมล้นไปด้วยพลังจินตนาการก็เฝ้าแต่คิดถึงฝันถึงสิ่งวิเศษต่าง ๆ ที่กบเล่า จนกระทั่งวันหนึ่งปลาตัดสินใจแน่วแน่กระโจนขึ้นจากผืนน้ำ หวังจะไปดูสิ่งต่างๆ ด้วยตาของมันเอง

น้องหนูอยู่ไหน
น้องหนูอยู่ไหน

10.น้องหนูอยู่ไหน
ผู้แต่ง : โยริโกะ ษุษูอิ ผู้แปล : พรอนงค์ นิยมค้า ภาพประกอบ : อาคิโกะ ฮายาชิ สำนักพิมพ์ : แพรวเพื่อนเด็ก จำนวน : ๓๒ หน้า

เมื่อคุณแม่ต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน และได้ฝากให้อาซาเอะจังคอยดูแลน้องสาวตัวน้อยเพียงลำพัง แต่แล้วน้องก็หายไป เด็กหญิงตกใจ และออกตามหาน้องไปทั่ว เสียงเด็กร้อง เสียงรถเบรก ทำเอาใจเด็กหญิงสั่นทุกครั้ง และดูเหมือนว่าอาซาเอะจะได้พบน้องสาวแต่ก็กลับไม่ใช่น้องของตัวเองทุกครั้งไป จนในที่สุดเด็กหญิงก็เจอน้องสาวตัวน้อยที่กำลังเล่นอยู่ในกระบะทรายตรงสนามเด็กเล่นแถวบ้านนั่นเอง

หนังสือเล่มนี้ แสดงให้ถึงความห่วงใยและความรับผิดชอบของเด็กเล็ก ๆ ได้อย่างชัดเจน อาจจะถือได้ว่าเป็นการบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ในการสอนให้เด็กเล็ก ๆ รู้จักการระมัดระวัง แม้จะเป็นเวลาเพียงช่วงเสี้ยววินาทีก็ตาม และทำให้เห็นมุมมองของเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ระดับต่ำกว่าสายตาของผู้ใหญ่ ที่อะไรก็ดูเหมือนจะใหญ่โต น่าตื่นตระหนกไปเสียทั้งหมด แต่เมื่อเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็กลับกลายเป็นภาพจบที่ดูแสนอบอุ่นและปลอดภัย

นิทาน คือหนังสือที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าจากจินตนาการ หนังนิทานสำหรับเด็กปฐมวัยนั้น เนื้อหาควรประกอบไปด้วยคำศัพท์ที่อ่านเข้าใจง่าย ไม่ซ้ำซ้อน ตัวอักษรมีขนาดใหญ่ มีภาพประกอบที่ที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง มีสีสันดึงดูดสายตาน่าสนใจ มีเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย สั้นกระชับ และสนุกสนาน พร้อมแฝงไปด้วยแง่คิดคติสอนใจ คุณธรรม จริยธรรม เกี่ยวกับตัวเด็ก และใกล้ชิดตัวเด็ก หรือเกี่ยวกับธรรมชาติแวดล้อม

คุณพ่อคุณแม่สามารถหยิบจับหนังสือนิทานอ่านให้ลูกฟังได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงอายุ 10 ขวบโดยเฉพาะในเด็กเล็กที่จะชอบการฟังนิทานก่อนนอนจากคุณพ่อคุณแม่เป็นที่สุด ซึ่งเวลาเพียงแค่ 15-20 นาทีในการอ่านให้ลูกฟังก่อนนอน จัดเป็นเวลาทองของลูกน้อยที่ลูกจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากมาย ยิ่งคุณพ่อคุณแม่เริ่มต้นอ่านนิทานให้ลูกฟังแต่เล็ก ก็จะเป็นการช่วยปูพื้นฐานการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีความสามารถในการพัฒนาสมองและทักษะทุกด้านกว่า 80% ของชีวิต ทั้งยังมีส่วนเสริมพัฒนาการให้ลูกได้เติบโตมาเป็นเด็กรักการอ่าน ชอบเขียน และฉลาด รวมถึงอารมณ์ดี จิตใจดี ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยกล่อมเกลานิสัยให้ลูกรักได้ดีทีเดียว เพียงสละเวลาแค่วันละนิด แล้วหยิบนิทานมาอ่านให้ลูกฟังใกล้ ๆ ก่อนนอนคืนนี้กันนะคะ.

ขอบคุณเนื้อหานิทานและภาพประกอบจาก: www.taiwisdom.orgwww.naiin.com

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.healthandtrend.comwww.edtechbooks.com

อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจคลิก

5 เคล็ดวิธีอ่านนิทานสนุก ปลุกสมองลูก

ปู่ย่าตายาย “อ่านนิทาน” ให้หลานได้อะไรมากกว่าที่คิด

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up