10.ออกกำลังกาย ยาสร้างสมาธิที่ดีที่สุด
เพราะหลังจากที่เด็กได้ออกกำลังกายมา จะรู้สึกสบาย นิ่งขึ้น รวมถึงการฝึกโยคะให้กับเด็ก ก็จะช่วยเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม ช่วยฝึกเรื่องสมาธิ ความนิ่ง เพราะโยคะเป็นกิจกรรมที่ต้องมีการควบคุมและจัดระเบียบร่างกาย จากนั้นร่างกายจะปล่อยสารต่างๆและฮอโมนต่างๆที่เป็นประโยชน์กับตัวเราออกมา ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น และถ้าคุณพ่อคุณแม่จะสอนอะไรเขาตอนนั้นลูกก็จะสามารถรับรู้ได้มากขึ้น จากสมาธิที่เพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ
11.นอนหลับพักผ่อน
คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกนอนอย่างน้อยวันละ7 ชั่วโมง และไม่ควรให้ลูกนอนเกินวันละ 9 ชั่วโมง เพราะการนอนมากทำให้ความตื่นตัวน้อยลงและทำให้ลูกเกิดความซึมเซา ซึ่งมีผลทำให้ประสิทธิภาพของความจำลดน้อยลง นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรให้ลูกนอนน้อยกว่า7ชั่วโมงต่อวัน เพราะจะทำให้เด็กขาดสมาธิซึ่งทำให้ความสามารถในการจดจำลดน้อยถอยลงไปด้วยเช่นกัน
12.เปิดทีวีเลี้ยงลูก บั่นทอนสมาธิมากที่สุด
ข้อนี้อาจจะตรงกับหลายๆบ้าน ทีวีมีประโยชน์ค่ะ ถ้าเป็นรายการดีๆและเด็กโตพอที่จะเรียนรู้จากทีวีรายการต่างๆเหล่านั้นได้ แต่ถ้าเปิดทีวีให้ผู้ใหญ่ดู แล้วเด็กก็อยู่ด้วยตลอด เสียงจากทีวีจะรบกวนโสตประสาทเด็กได้ เด็กๆมักจะหูไวค่ะ ถึงเค้าจะฟังไม่รู้เรื่องแต่เค้าก็ฟัง และยิ่งถ้าลูกมองทีวีไปด้วย ยิ่งบั่นทอนสมาธิมากขึ้น เพราะทีวีรายการต่างๆ หน้าจอเคลื่อนไหวเร็ว มีภาพและเสียงที่ดังดึงดูดเด็ก เด็กจะนั่งจ้องนิ่งตลอด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเด็กมีสมาธิ การเจอหน้าจอแบบนี้จะทำให้เด็กนิ่งทุกคน แต่มันเป็นการบั่นทอนสมาธิ เพราะพอหลุดจากหน้าจอแล้ว เขาจะสร้างสมาธิเองได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตามถ้าเด็กโตหน่อย สัก 2-3 ขวบ เราอาจจะเลือกสิ่งที่จะให้ลูกดูได้ เช่น DVD สอนภาษาที่มีประโยชน์ หรือเล่น app ในแท็บเล็ตต่างๆ และที่สำคัญต้องควบคุมเรื่องเวลาในการเล่นด้วย เพราะถ้าดูมากไปจะเสียสายตา ไม่ควรดูเกินวันละครึ่งชม.
13.เดินห้างบ่อยๆ บั่นทอนสมาธิ
ห้างสรรพสินค้ามีทั้งแสง สี เสียง ของที่วางไว้ล่อตาล่อใจเด็กๆมากมาย ถ้าลูกเรามีลักษณะที่ไม่ค่อยมีสมาธิ ควรเลี่ยงสถานที่ประเภทนี้ค่ะ สังเกตว่าถ้าพาลูกเดินห้าง เค้าจะตื่นตัว วิ่งไปทั่ว วิ่งไม่หยุด แสดงว่าเค้าถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าพวกนี้และมีอาการไม่มีสมาธิแล้ว ทางที่ดีควรเลี่ยงหรือไปให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ถ้าอยากพาลูกเที่ยวก็เน้นไปแนวธรรมชาติ ภูเขา ทะเล สวนสัตว์ แนวๆนี้น่าจะดีกว่าค่ะ
เห็นไหมคะว่าการฝึกสมาธิให้ลูกวัยซน ไม่ใช่เรื่องยากเย็นจนไม่สามารถทำได้ ลองเลือกวิธีที่เหมาะกับลูกน้อยและบริบทของครอบครัว เพื่อให้ลูกมีสมาธิดี ซึ่งจะส่งผลต่อการเรียนรู้ที่ดีของลูกกันนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.trueplookpanya.com