ทำ "หน้าที่พ่อแม่" ให้ดีที่สุด หยุดกังวลเกินเหตุจนบั่นทอนจิตใจตน
หน้าที่พ่อแม่ กังวล สมาธิสั้น ลูกไม่ตั้งใจเรียน

ทำ “หน้าที่พ่อแม่” ให้ดีที่สุด หยุดกังวลเกินเหตุจนบั่นทอนจิตใจตน

Alternative Textaccount_circle
event
หน้าที่พ่อแม่ กังวล สมาธิสั้น ลูกไม่ตั้งใจเรียน
หน้าที่พ่อแม่ กังวล สมาธิสั้น ลูกไม่ตั้งใจเรียน

“ลูกก็ดีขึ้นเยอะค่ะ” คุณแม่รายงานเรื่องลูกที่พามาหาหมอได้หลายเดือนแล้ว

“เรียนดีขึ้น คุณครูชมว่าตั้งใจขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย”

“แต่ไม่รู้เป็นไรค่ะ เวลาจะเปิดไลน์กลุ่มของห้องเค้าทีไร คุณแม่ก็ใจคอไม่ดีทุกครั้ง”

“วันไหนมีชื่อลูกติดโผเด็กที่ส่งงานไม่ครบ แม่ก็ยังใจสั่นขึ้นมาทุกที ทำยังไงดีคะหมอ?”คุณแม่ขอปรึกษา

คุณแม่คนนี้เป็นคนที่ทุ่มเทกับลูกมาก เอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของการดูแล สอนลูกให้มีระเบียบวินัย ทำตัวให้เป็นแบบอย่าง เรียกว่าสิ่งที่ตำราเลี้ยงลูกแนะนำคุณแม่พยายามทำหมด

หน้าที่พ่อแม่ กังวล สมาธิสั้น ลูกไม่ตั้งใจเรียน

แต่ปัญหาคือลูกไม่ค่อยร่วมมือเท่าไร การที่ลูกมีอาการสมาธิสั้นรวมทั้งมีภาวะออทิสติกสเปคตรัมร่วมด้วยทำให้ลูกไม่ค่อยสนใจเรียน ครูจึงฟ้องคุณแม่เป็นประจำ เหตุการณ์ดำเนินมาเรื่อยๆ อย่างตึงเครียดเป็นปี กว่าที่คุณแม่จะตัดสินใจมาหาหมอ

คุณแม่ทุกข์ใจกับลูกมาก ด้วยความที่อยากให้ลูกเป็นเด็กดี มีความรับผิดชอบในการเรียน แต่เผอิญลูกก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูงเสียเหลือเกิน อันไหนชอบก็สุดแสนจะตั้งใจ อันไหนท่านไม่โปรดก็ไม่ยอมเรียนเสียอย่างนั้น คุณแม่เครียดเรื่องลูกจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดเรื่องลูกตลอดเวลาว่าจะแก้ปัญหาให้เขาอย่างไรดี สุขภาพจิตเสื่อมทรุดไปมาก

โชคดีที่การรักษาลูกได้ผลดี ลูกมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ความสนใจเรียนค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาจากการปรับพฤติกรรมเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียน รวมทั้งการกินยาก็มีส่วนช่วยให้สมาธิดีขึ้นเยอะ การบ้านไม่ค่อยค้างเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เห็นลูกดีขึ้นคุณแม่ก็สบายใจ รู้สึกผ่อนคลายลงพอสมควร แต่ด้วยธรรมชาติของคนที่มีความวิตกกังวลสูง จึงยังมีอาการเหมือนที่รายงานให้หมอฟัง

banner300x250

อ่านต่อ “ดูแลลูกให้ดีที่สุด ไม่ต้องกังวลเกินเหตุจนหมดกำลังใจ” คลิกหน้า 2

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up