น้ำมันปลา ทานตอนไหน? ให้ลูกมีภูมิคุ้มกันดี - Amarin Baby & Kids
น้ำมันปลา

ทาน น้ำมันปลา อย่างไร? ทานตอนไหน? ให้ลูกแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดี

Alternative Textaccount_circle
event
น้ำมันปลา
น้ำมันปลา

รู้หรือไม่? ว่าการทาน น้ำมันปลา นอกจากจะมีประโยชน์สำหรับสายตาและสมอง (สมองและสายตา) แล้ว น้ำมันปลาที่มี DHA เข้มข้น ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้

ภูมิคุ้มกันในร่างกายเปรียบเสมือนป้อมปราการด่านแรกที่จะนำมาต้านโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในร่างกายของลูก หากป้อมปราการนี้ไม่สูงพอที่จะต้านทานเชื้อโรคได้ เชื้อโรคก็จะเข้ามาในร่างกายได้ง่าย ทำให้ลูกป่วยบ่อย ป่วยนาน การจะสร้างป้อมปราการให้สูงพอ คุณพ่อคุณแม่จะต้องสร้างพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของลูกให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนอย่างเพียงพอ รวมถึงการทานอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอีกด้วย นอกจากการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว เรายังต้องเสริมด้วยอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วย เช่น

  • เบต้าแคโรทีน เบต้าแคโรทีนคือสารตั้งต้นของวิตามินเอ มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่นั้นเราจะทราบว่าเบต้าแคโรทีน พบมากในผักและผลไม้ที่มีสีส้ม เหลืองหรือแดง เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอสุก แตงโม แต่ในผักที่มีสีเขียวเข้มก็มีปริมาณเบต้าแคโรทีนอยู่มากเช่นกัน ได้แก่ บรอคโคลี มะระ ผักบุ้ง ต้นหอม ผักคะน้า เป็นต้น
  • วิตามินซี วิตามินซีมีประโยชน์มากมาย เช่น ใช้รักษาและป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น และจากการศึกษาพบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะสามารถช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้
  • แร่ธาตุ เช่น ซิลีเนียม หรือสังกะสี โดยแร่ธาตุต่าง ๆ มีหน้าที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินที่ทานเข้าไปให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น พบได้ในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม หรือถั่ว เป็นต้น
  • กรดไขมันโอเมก้า 3 คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สำคัญมี 2 ชนิด ได้แก่ EPA และ DHA ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า-3 ชนิด DHA นี้มีความสำคัญกับเด็กเป็นอย่างมาก เพราะนอกจาก DHA จะช่วยบำรุงสมอง ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง IQ และ EQ แล้ว ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิคุ้มกันของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่จะต้องเผชิญกับเชื้อโรคต่าง ๆ โดยมีการศึกษาว่า การให้เด็กได้รับ DHA เสริมวันละ 100 มก. เป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา พบว่าการขาดเรียนจากการไม่สบายของเด็กลดลงถึง 10% ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อให้เด็กได้รับ DHA เสริมวันละ 1,000 มก. พบว่า สามารถลดการขาดเรียนของเด็กได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับ DHA เสริม กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นไขมันจำเป็นที่ต้องได้รับจากอาหาร เนื่องจากร่างกายสร้างเองไม่ได้ เราจึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอ

น้ำมันปลา Bain Syrup

น้ำมันปลา ก็เป็นอีก 1 อาหารเสริมที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การเลือกน้ำมันปลาให้เด็กทานนั้น ยากกว่าน้ำมันปลาสำหรับผู้ใหญ่ ปัจจัยหลักที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงคือ ปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3, กลิ่นคาว, และรสชาติ การเลือก น้ำมันปลาสำหรับเด็ก โดยเฉพาะ จะช่วยให้เด็กสามารถทานได้เป็นประจำ และยังช่วยเติมเต็มสารอาหารหลักประจำวันของเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี

น้ำมันปลาเบนไซรัป เป็นน้ำมันปลาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ มีสัดส่วนของ กรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิด DHA ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 70% เป็น DHA คุณภาพดี และมีค่าทางชีวภาพสูง (High bio – availability) จึงสามารถดูดซึมและคงตัวอยู่ในกระแสเลือดได้นาน ทำให้ออกฤทธิ์ได้นาน อีกทั้งยังรับประทานได้ง่าย ไม่มีกลิ่นคาว อร่อย มีกลิ่นผลไม้รวมที่เด็ก ๆ ชอบอีกด้วย

น้ำมันปลา

น้ำมันปลา ทานอย่างไร? ทานตอนไหน? ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

องค์การโภชนาการระดับโลก เช่น Food and Agriculture Organization of the United Nations (FAO) แนะนำปริมาณ DHA ที่เด็กควรจะได้รับต่อวัน ดังนี้

  • 6 – 24 เดือน ปริมาณ DHA ที่แนะนำคือ 10 -12 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
  • 2 – 4 ขวบ ปริมาณ DHA ที่แนะนำคือ 100 – 150 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • 4 – 6 ขวบ ปริมาณ DHA ที่แนะนำคือ 150 – 200 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • 6 – 10 ขวบ ปริมาณ DHA ที่แนะนำคือ 200 – 250 มิลลิกรัม ต่อวัน

เนื่องจาก DHA เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็ก การเลือกน้ำมันปลาให้เด็กนั้น ควรจะดูที่ปริมาณ DHA เป็นหลัก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรดูสัดส่วนของ DHA ต่อปริมาณของน้ำมันปลา น้ำมันปลาชนิดไหน มีเปอร์เซ็นของ DHA มาก นั้นหมายถึงลูกจะได้รับปริมาณ DHA และประโยชน์สูงสุดจากการทานน้ำมันปลามากเช่นกัน อย่างเช่น น้ำมันปลาเบนไซรัป ซึ่งมีน้ำมันปลาทูน่าที่มี DHA ความเข้มข้นสูงถึง 70% ทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอสำหรับสร้างภูมิคุ้มกันต่อร่างกายได้แน่นอน เพียงทาน น้ำมันปลาเบนไซรัป วันละ1 ช้อนโต๊ะ (หรือ 15 มิลลิลิตร) หลังมื้ออาหารใดก็ได้ (การทานน้ำมันปลาหลังมื้ออาหารจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีกว่า) เป็นประจำทุกวัน เด็ก ๆ ก็จะได้รับ DHA ที่เข้มข้นมากเพียงพอที่ร่างกายและสมองต้องการ พร้อมที่จะเติบโตอย่างสมวัย มีพัฒนาการทางด้าน IQ และ EQ และยังมีภูมิคุ้มกันดี ไม่ป่วยบ่อย ป่วยนานค่ะ

สนับสนุนข้อมูลโดย น้ำมันปลาเบนไซรัป www.bainsyrup.com

 

 

 

อ้างอิง : Food and Agriculture Organization of the United Nations, กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, ผศ.พญ.นฤมล  เด่นทรัพย์สุนทร  ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up