รวม นิทานอีสปน่าอ่าน ได้ประโยชน์!!
6.ชายโง่กับต้นไผ่
เมื่อบิดาตายเเล้วชายผู้โง่เขลาเบาปัญญาก็นั่งมองต้นไผ่ที่บิดาปลูกไว้รอบ ๆ สวน พลางคิดว่า “ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย ไม่มีดอก ไม่มีผล ให้เก็บไปขาย” คิดดังนั้นชายโง่ก็ให้คนงานตัดต้นไผ่ทิ้งจนหมด หลังจากนั้นสัตว์ต่าง ๆ เเละคนพเนจรก็พากันเข้าออกในสวนอย่างสะดวก สบาย สวนผลไม้จึงได้รับความเสียหาย ทั้งถูกขโมยผล ทั้งถูกเหยียบย่ำทำลาย ในที่สุดผลไม้ก็ตายหมดทั้งสวน เพราะไม่มีต้นไผ่ที่เป็นเสมือนรั้วล้อมรอบ ป้องกันภัยอย่างเเต่ก่อน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ของทุกสิ่งย่อมมีประโยชน์ในทางที่แตกต่างกัน
ที่มา : http://nithandek.com
7.กาอยากเป็นหงส์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีอีกาฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ในถิ่นที่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ แต่พวกอีกาไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง โดยเฉพาะขนที่ดำสนิท มันอยากมีขนสีขาวเหมือนปุยเมฆ วันหนึ่งหัวหน้าอีกาซึ่งบินออกไปเที่ยวต่างถิ่นได้กลับมาบอกกับบรรดาอีกาทั้งหลายว่า
“ข้ารู้วิธีที่จะทำให้ขนดำๆ ของพวกเรากลายเป็นขนที่ขาวสะอาดแล้วล่ะ” พวกอีกาทั้งหลายได้ฟังดังนั้นก็ตื่นเต้นดีใจกันใหญ่ หัวหน้าอีกาจึงบอกต่อไปว่า “ไปกับข้าซิ แล้วพวกเจ้าจะรู้” แล้วมันก็ออกบินนำฝูงกาไปยังบึงน้ำใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่อาศัยของหงส์ เมื่อพวกอีกาเห็นบรรดาหงส์ฝูงใหญ่ที่กำลังไซร้ขน และหาอาหารอยู่ในบึงนั้น แต่ละตัวมีขนสีขาวสะอาดดุจปุยเมฆ ต่างก็รู้สึกอิจฉาในความงามสง่าของหงส์ พวกมันจึงเฝ้าสังเกตกิริยาท่าทางของหงส์ หลังจากนั้นอีกาตัวหนึ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ข้ารู้แล้ว เป็นเพราะพวกหงส์มันลงเล่นน้ำ และไซร้ขนอยู่เสมอๆ ขนของมันจึงขาวสะอาด” หัวหน้าอีกาจึงบอกว่า “ใช่แล้ว ถ้าพวกเราย้ายมาอยู่ที่บึงใหญ่แห่งนี้ และได้ลงเล่นน้ำไซ้ขนเหมือนหงส์ ขนของพวกเราก็จะขาวขึ้นมาได้”
เวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ผลไม้แถวนั้นที่พวกมันสามารถกินได้ก็ร่อยหรอลงเรื่อยๆ อีกาแต่ละตัวเริ่มอดอยากผอมโซ แต่ขนของมันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขาวขึ้นมาเลย ยังคงดำสนิทเหมือนเช่นเดิม
“อีกไม่นาน ขนของพวกเราก็จะขาวแล้ว อดทนกันอีกหน่อย” หัวหน้าอีกาปลอบโยน
ในที่สุด พวกอีกาก็หมดเรี่ยวแรงที่จะเล่นน้ำและไซร้ขน และไม่มีแรงที่จะบินกลับถิ่นเดิม มันจึงค่อยๆ อดตายกันไปทีละตัวๆ จนหมดฝูง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนผู้อื่น ไม่ว่าจะเปลี่ยนในรูปแบบใด เช่น รูปร่างหน้าตา ที่อยู่อาศัย การดำรงชีวิต โดยไม่คำนึงถึงธรรมชาติดั้งเดิมของตัวเองนั้น ย่อมนำความทุกข์ และความหายนะมาสู่ตนในที่สุด
ที่มา : https://mgronline.com
8.กาหลงฝูง
กาลครั้งหนึ่ง มีกาตัวหนึ่ง เพราะความไม่พอใจในตัวเอง กาจึงเที่ยวตามไปเก็บ ขนของนกยูงที่สลัดทิ้งไว้มาปักเเซมใส่ขนของตน จนเต็มตัว ด้วยความหวังที่จะมีขนหลากหลายสีสันเหมือนดั่งนกยูงบ้าง
” ข้ามีขนงามกว่าขนดำๆ ของพวกเจ้า ข้าไม่อยู่กับพวกเจ้าดีกว่า” กากล่าวด้วยความรังเกียจพวกพ้องของตนเเล้วออกจากกลุ่มเข้าไป ปะปนอยู่กับฝูงนกยูง
พวกนกยูงเห็นกาหลงเข้ามาก็พากันรุมจิกรุมทึ้งตีจนขนนกยูง ที่เเซมอยู่ทั่วตัวนั้นหลุดกระจายไป เหลือเเต่ขนจริงที่มีสีดำสนิท กาดำถูกนกยูงขับไล่ออกจากฝูง ครั้นเมื่อกลับไปหาพวกของตนก็ไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ถ้ารังเกียจเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมของตนเอง ก็ย่อมจะถูกผู้อื่นรังเกียจด้วย
ที่มา : https://www.nithan.in.th
9.ชาวนากับงูเห่า
วันหนึ่งในฤดูหนาวอันเย็นยะเยือก ชาวนาคนหนึ่งเดินมาพบงูนอนขดตัวแข็งทื่อใกล้ตาย เพราะทนความหนาวเหน็บ ชาวนารู้สึกสงสารจึงอุ้มงูไว้แนบอกแล้วนำกลับไปบ้านด้วย เมื่อมาถึงบ้าน ชาวนาได้ก่อกองไฟให้ความอบอุ่นแก่งู แต่ทันทีที่งูฟื้นคืนสติก็เลี้อยปราดเข้าฉกชาวนาจนถึงแก่ความตาย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : คนพาลย่อมไม่รู้จักบุญคุณผู้อื่น
ที่มา : https://www.nanitalk.com
10.นกกระเรียนกับหมาป่า
นกกระเรียนมองไปเห็นหมาป่านอนดิ้นอย่างทุรนทุรายอยู่ที่กลางป่า จึงเดินเข้าไปถามไถ่อย่างเวทนาว่า
“เจ้าเป็นอะไรหรือ”
“ข้ากลืนชิ้นเนื้อเข้าไป แล้วกระดูกติดคอของข้า ข้าจะทำอย่างไรก็ไม่ออก” หมาป่าบอกเเล้วก็ขอร้องให้นกกระเรียนช่วยตนเเล้วตน จะให้รางวัลเป็นการตอบเเทน
นกกระเรียนจึงยื่นมุดหัวของมันเข้าไปในปากหมาป่า เเละสามารถล้วงเอากระดูกออกมาได้สำเร็จ
เมื่อนกกระเรียนทวงถามถึงรางวัลของตน หมาป่าก็คำรามว่า
“ข้าไม่งับคอเจ้าก็ดีเเล้ว ยังจะมาเอาอะไรจากข้าอีก เล่า”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : คนเลวมักไม่เห็นความดีของผู้อื่น
ที่มา : https://www.nithan.in.th
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่