เรื่องสั้น นิทาน ตำนาน นิทานก่อนนอน ตำนานไทย พร้อมคติสอนใจ เสริมสร้างความคิด จินตนาการ พัฒนาสมอง และอารมณ์ของเด็ก
เรื่องสั้น ตำนานไทย เรื่องเล่าแต่โบราณ
ตำนานไทย เรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาแต่โบราณ ถ่ายทอดเรื่องราวของวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณี อาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ได้ อาจมีหลักฐานหรือไม่มีก็ได้ ในวันนี้ ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้นำมาฝากเป็น เรื่องสั้น ให้คุณพ่อคุณแม่ได้อ่านให้ลูกฟังก่อนนอนค่ะ
เรื่องสั้น ตำนานไทย เรื่องเล่าแต่โบราณ
เรื่องก่องข้าวน้อยฆ่าแม่
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วในฤดูฝน มีการเตรียมปักดำกล้าข้าว ทุกครอบครัวจะออกไปไถนาเตรียมการเพาะปลูก มีครอบครัวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำพร้าพ่อ ก็จะออกไปปฏิบัติภารกิจเช่นเดียวกัน วันหนึ่งเขาไถนาอยู่นานจนสายตะวันขึ้นสูงแล้ว เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียมากกว่าปกติและหิวข้าวมากกว่าทุกวัน ปกติแล้วแม่ผู้ชราจะมาส่งข้าวให้ทุกวัน แต่วันนี้กลับมาช้าผิดปกติเขาจึงหยุดไถนา เข้ามาพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ปล่อยเจ้าทุยไปกินหญ้า สายตาเหมือนมองไปทางบ้านรอคอยแม่ที่จะมาส่งข้าวด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ ยิ่งสายตะวันขึ้นสูงแดดยิ่งร้อนความหิวกระหายยิ่งทวีคูณขึ้น
ทันใดนั้นเขามองเห็นแม่เดินเลียบมาตามคันนา พร้อมกับก่องข้าวน้อย เขารู้สึกไม่พอใจที่แม่เอาก่องข้าวน้อยนั้นมาช้ามาก ด้วยความหิวกระหายจนตาลายอารมณ์พลุ่งพล่าน เขาคิดว่าในก่องข้าวน้อยนั้นคงกินไม่อิ่มเป็นแน่ จึงเอ่ยต่อว่าแม่ของตนว่า
“แม่ไปทำอะไรอยู่ถึงมาส่งข้าวให้กินช้านัก ก่องข้าวก็เอามาแต่ก่องน้อยๆ แล้วจะกินอิ่มหรือ”
ผู้เป็นแม่เอ่ยปากตอบลูกว่า
“ถึงก่องข้าวจะน้อยแต่ก็ น้อยต้อนแต้นแน่นใน ดอกลูกเอ๋ย ลองกินดูก่อน”
ด้วยความหิว ความเหน็ดเหนื่อย ความโมโหหูอื้อตาลาย ไม่ยอมฟังเสียงใดๆเกิดบันดาลโทสะอย่างแรง จึงคว้าไม้เข้าตีแม่ที่แก่ชราล้มลง แล้วเดินไปกินข้าวจนอิ่ม แต่ข้าวยังไม่หมดก่อง จึงรู้สึกผิดชอบชั่วดี รีบไปดูอาการของแม่ และเข้ามาสวมกอดแม่ ชายหนุ่มร้องไห้โฮ สำนึกผิดที่ฆ่าแม่ของตนด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ เมื่อชายหนุ่มปลงศพแม่แล้ว ขอร้องชักชวนญาติมิตรชาวบ้าน ช่วยกันปั้นอิฐก่อเป็นธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่ไว้จึงให้ชื่อว่า “ธาตุก่องข้าวน้อยฆ่าแม่” จนตราบทุกวันนี้
คติสอนใจ
ทำดีกับพ่อแม่เมื่อยามท่านยังมีชีวิตอยู่ดีกว่าไปสำนึกได้เมื่อยามจากไป
เรื่องเซียงเมี่ยง ตอนหลอกเจ้าเมืองลงน้ำ
เซียงเมี่ยงเป็นคนที่เกลียดคร้านและก็โกหกเก่ง เจ้าเมืองได้ยินชื่อเสียงของเซียงเมี่ยง ก็เลยอยากลองเชาวน์เซียงเหมี่ยงดูว่าเซียงเมี่ยงจะโกหกท่านเจ้าเมืองได้หรือไม่ เจ้าเมืองก็เลยเดินทางไปที่หมู่บ้านที่เซียงเมี่ยงอยู่ เจ้าเมืองก็นั่งครุ่นคิดหาวิธีจะทดลองปัญญาของเซียงเหมี่ยง เจ้าเมืองเหลือบไปเห็นหนองน้ำก็เลยคิดออก
ท่านเจ้าเมืองพูดว่า “อ้าวเซียงเมี่ยง ข้าได้ยินชื่อเสียงเจ้ามามาก เจ้าลองมาโกหกข้าลงน้ำดูสิว่าเจ้าจะโกหกข้าได้มั้ย” เจ้าเมืองพูดไปหัวเราะไป
เซียงเมี่ยงก็เลยพูด “โอ้ยตัวข้านี้จะโกหกท่านเจ้าเมืองลงน้ำไม่ได้หรอก เว้นจากโกหกท่านเจ้าเมืองขึ้นจากน้ำ”
เจ้าเมืองได้ยินเช่นนั้นก็เลยลงไปในน้ำเจ้าเมืองก็เลยพูดว่า “ข้าลงน้ำแล้วเอ้าเจ้าลองโกหกข้าขึ้นจากน้ำดูสิ”
เซียงเมี่ยงก็เลยหัวเราะชอบใจ “ข้าน้อยก็โกหกท่านเจ้าเมืองลงน้ำได้แล้ว”
ท่านเจ้าเมืองได้แต่เจ็บใจที่เสียรู้เซียงเมี่ยง
คติสอนใจ
อย่าดูถูกใครโดยที่ยังไม่รู้จักเขาจริงๆ ความประมาทมักเป็นบ่อเกิดแห่งความไม่ดี
เรื่องหลวงพ่อกับเณรน้อย
วันหนึ่ง ตอนเช้าก่อนหลวงพ่อจะออกไปบินฑบาตร ก็ได้สั่งเณรน้อยว่า “น้อยน้อย หลวงพ่อจะไปบิณฑบาตรนะ อยู่กุฏิก็ให้ดูดีๆ อย่าให้ไก่มาขี้ใส่เด้อ ถ้าไก่มาขี้ใส่ได้ จะลงโทษอย่างหนัก” แล้วก็เข้าไปบิณฑบาต
เณรน้อยก็เลยวางแผนอุบายแกล้งหลวงพ่อ ก็คือเอาน้ำอ้อยไปหยอดไว้ตรงนั้นตรงนี้ เริ่มตั้งแต่ที่บันได ขึ้นมาหยอดให้เหมือนกองขี้ไก่ หยอดแล้วก็คอยเฝ้าไล่ไก่ไม่ให้ขึ้นกุฏิ พอประมาณเวลาหลวงพ่อจะกลับมา เณรน้อยก็ทำท่าว่าไม่ได้อยู่เฝ้ากุฏิ ไปเดินเล่นที่อื่น
หลวงพ่อกลับมาเห็นกองน้ำอ้อย นึกว่าเป็นกองขี้ไก่ หลวงพ่อเลยโกรธมากร้องเรียกหาเณรน้อยว่า “น้อยเอ้ยน้อย ไปทำอะไรอยู่ไหนมา ทำไมไม่มาเฝ้ากุฏิ ปล่อยให้ไก่มาขี้ใส่เต็มเลยเนี่ย”
พอเณรน้อยมาแล้วหลวงพ่อก็ลงโทษให้กินขี้ไก่ เณรน้อยก็ทำเป็นอิดออดไม่อยากกิน แต่ในที่สุดก็เอามือลงไปปาดกองขี้ไก่กองนั้นกองนี้ ฮู้อร่อยๆ ฮู้หวานดีอร่อย พอหลวงพ่อเห็นเณรน้อยกินน่าอร่อยก็เลยถามว่า มันอร่อยจริงๆเหรอน้อยมันไม่เหม็นหรอ อร่อยจริงๆหลวงพ่อลองชิมดู หลวงพ่อก็เลยเอามือปาดลงมาชิม โฮ้หวานหอมอร่อยดี ขี้ไก่มันอร่อยอย่างนี้ ปล่อยให้ไก่มาขี้ใส่กุฏินานแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องไล่มันนะน้อย
เณรน้อยก็หัวเราะอยู่ในใจ วันต่อมาก็สั่งเณรน้อยว่า น้อยๆ วันนี้ปล่อยให้ไก่มันมาขี้ใส่เยอะๆนะ เณรน้อยเลยหนีไปเล่นที่อื่น พอหลวงพ่อกลับมาเห็นไก่อยู่กุฏิกะดีใจ หลวงพ่อติดใจรสชาติขี้ไก่ หลวงพ่อจึงเอามือเอาขี้ไก่มาเลียกิน เอ๊ะ กองนี่มันทำไมไม่อร่อยว่ะ เป็นเหม็นๆด้วย สงสัยก็เลยไปหาชิมกองอื่น
เณรน้อยร้องถามหลวงพ่อว่า เป็นยังไงหลวงพ่ออร่อยไหมหลวงพ่อ เป็นเหม็นๆเปรี้ยวๆหลวงพ่อเผยอปากตอบ เณรน้อยก็หัวเราะ ใครว่าขี้ไก่มันอร่อยขี้ไก่มันไม่อร่อยหรอก ฮ่าๆๆ หลวงพ่อเสียรู้เณรน้อย
คติสอนใจ
อย่าหลงเชื่อกลอุบายของผู้อื่นโดยง่ายต้องได้จากการรู้จริงๆไม่ใช่เพียงการบอกเล่า
อ่านต่อ…เรื่องสั้น ตำนานไทย เรื่องเล่าแต่โบราณ คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่