นิทาน หลากหลายเชื้อชาติ แต่จุดประสงค์เดียวกัน เป็นแหล่งรวมข้อคิด ความรู้ และส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ นิทานนานาชาติ ไร้พรมแดนอ่านได้ทุกที่
รวม นิทาน สำหรับเด็กทั่วโลก สอนลูกได้ไร้พรมแดน!!
Momotaro โมโมทาโร่ : นิทานพื้นบ้าน ญี่ปุ่น
โมโมทาโร่เป็น 1 ในนิทานพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของญี่ปุ่น โดยชื่อ “โมโมทาโร่” มีความหมายว่า “ลูกท้อทาโร่” ซึ่งเป็นคำต่อท้ายชื่อที่พบได้บ่อยในญี่ปุ่น คุณอาจเคยได้ยินเรื่องราวที่มีชื่อว่า เด็กชายลูกท้อ
โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยเอโดะ โมโมทาโร่ได้ถือกำเนิดบนโลกอยู่ภายในลูกท้อยักษ์ วันหนึ่งขณะที่คุณยายกำลังซักผ้าอยู่นั้น ก็สังเกตเห็นลูกท้อลูกหนึ่งไหลมาตามลำธาร จึงได้พยายามเก็บลูกท้อขึ้นมาจากน้ำ และนำลูกท้อกลับบ้าน ตากับยายได้พยายามที่จะเปิดลูกท้อเพื่อกินมัน แต่ทว่าด้านในลูกท้อกลับเป็นเด็กน้อย สองตายายต่างพากันดีใจและเชื่อว่าสวรรค์ได้ส่งเด็กคนนี้มาให้โดยได้ตั้งชื่อว่า “โมโมทาโร่” หรือ “เด็กชายลูกท้อ” นั่นเอง
หลายปีต่อมาโมโมทาโร่ได้ยินข่าวว่ามียักษ์มารังแกชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงออกเดินทางเพื่อที่จะไปต่อสู้กับยักษ์ที่เกาะโอนิงาชิม่า ในระหว่างทางเขาได้พบกับสุนัข ลิงและไก่ฟ้าพวกเขาได้ตกลงที่จะเดินทางไปบุกเกาะโอนิงาชิม่า เมื่อถึงเกาะพวกเขาได้ต่อสู้กัน จนในที่สุดพวกโมโมทาโร่ก็เอาชนะยักษ์ได้! โดยหัวหน้าของพวกยักษ์ผู้พ่ายแพ้ คุกเข่าลงตรงหน้าโมโมทาโร่ พร้อมทั้งน้ำตามันพูดว่า “ข้าขอสัญญาว่าพวกข้าจะไม่ไปรังควานพวกมนุษย์อีก โมโมทาโร่จึงได้นำสมบัติของพวกยักษ์ออกไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน และใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตั้งแต่นั้นมา
เด็กชายหัวแม่มือ : นิทานพื้นบ้าน ญี่ปุ่น
เป็นเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งซึ่งตัวเล็กมาก โดยเขามีขนาดตัวเพียง 1 นิ้ว ซึ่งว่ากันว่าตัวเท่าหัวแม่มือเท่านั้น
วันหนึ่งเด็กชายบอกพ่อแม่เขาว่า อยากเข้าเมืองไปทำงาน เปิดหูเปิดตา พ่อแม่เขาจึงเตรียมข้าวของไว้ให้สำหรับการเดินทาง ด้วยขนาดตัวที่เล็กมากทำให้เด็กชายสามารถใช้ถ้วย และตะเกียบแทนเรือได้เลย
เมื่อมาถึงเมืองหลวงเขาก็ตื่นตาตื่นใจ เพราะเพิ่งเคยเห็นเมืองหลวงเป็นครั้งแรก เขาได้เดินทางไปยังบ้านของเจ้าเมืองเพื่อขอเข้ารับใช้แลกกับการเรียนหนังสือ
เวลาผ่านไปเขาได้ทำงานเป็นองครักษ์ให้แก่เจ้าหญิง และในระหว่างทางที่ได้เดินทางไปไหว้พระด้วยกัน มีอสูรสองตนหวังเข้ามาชิงตัวลูกสาวขุนนางไป เขาก็ได้ปกป้องเธออย่างเต็มที่จนสามารถจัดการกับอสูรได้
อสูรได้จากไปแต่ทิ้งบางอย่างไว้ ซึ่งสิ่งนั้นคือค้อนวิเศษที่สามารถให้พรได้หนึ่งประการ เจ้าหญิงถามเขาว่าเขามีความปรารถนาสิ่งใด เขาตอบกลับไปว่าเขาต้องการจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้เช่นมนุษย์คนอื่น
เมื่อเจ้าหญิงเขย่าค้อนวิเศษทำให้ตัวเด็กชายหัวแม่มือเติบโตขึ้นได้ภายในในพริบตา ตอนนี้เขาก็กลายเป็นผู้ชายเต็มตัว และแต่งงานกับเจ้าหญิง เขากลับไปรับพ่อแม่มาอยู่ด้วยกัน จากนั้นก็ได้เป็นซามูไรดั่งที่เขาหวังไว้
Kintaro คินทาโร่ : นิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น
“คินทาโร่” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เจ้าหนูทองคำ” เป็นนิทานพื้นบ้านที่นิยมกับในหมู่เด็กๆ ญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีการเล่าหลายเวอร์ชั่น แต่ในเรื่องเล่าคินทาโร่ มีจุดเด่นคือใส่เอี๊ยมแดง สำหรับเด็กเล็ก (โดยมีอักษรว่า Kin แปลว่า ทองไปบนเสื้อ) เขาเป็นเด็กที่แข็งแรงมากซึ่งถูกเลี้ยงดูมาในป่า และกลายเป็นเพื่อนกับสัตว์หลายชนิด เขาคือทาซานแห่งญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ การที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยผืนป่า เผชิญหน้ากับสิ่งต่าง ๆ และสัตว์ป่ามากมาย ทำให้เขาเติบโตมาด้วยความกล้าหาญ และแข็งแรง เปรียบเหมือนฮีโร่ตัวเล็ก ๆ แห่งพงไพร
วันหนึ่งคินทาโร่ได้ถือขวานคู่ใจที่เป็นอาวุธประจำกายของเขา และขี่หลังหมีขึ้นภูเขา เพื่อไปเล่นกับพวกเพื่อน ๆ สัตว์ป่าเหมือนเช่นทุกวัน แต่ในระหว่างทางพวกเขาต้องข้ามลำธารขนาดใหญ่ แต่ไม่มีสะพานให้ข้าม หมีจึงพยายามโค่นต้นไม้ลงเพื่อสร้างสะพานต้นไม้ มันทั้งดันทั้งผลักต้นไม้แต่ก็ไม่ล้ม คินทาโร่จึงขอลองบ้าง ทว่าเขาแค่ผลักแค่ทีเดียวต้นไม้ก็ล้มลงเสียงดังสนั่นภูเขา และได้กลายเป็นสะพานต้นไม้เพื่อให้พวกเขาข้ามไปได้
จู่ๆ ก็มีซามูไรชั้นสูง Minamoto no Yorimitsu ก็ได้เข้ามา พวกเขาประทับใจในความแข็งแรงของคินทาโร่มากจึงได้ขอให้คินทาโร่มาเป็นผู้ติดตามของพวกเขา คินทาโร่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก ออกรบและมีผลงานมากมายในการปราบปีศาจได้ด้วย จนกลายเป็น Shitenno หรือหนึ่งในสี่องครักษ์ของ Minamoto no Yorimitsu เขาได้ชื่อใหม่ว่า Sakata Kintoki ภายหลังเขาจึงกลับไปรับแม่มาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ที่มา : https://www.jgbthai.com
หนูน้อยหมวกแดง : นิทานยุโรป
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ชายตัดไม้คนหนึ่งมีลูกสาวตัวเล็กๆ น่ารัก ผู้ชอบใส่เสื้อคลุมติดหมวกสีแดง ใครๆ พากันเรียกเธอว่า หนูน้อยหมวกแดง วันหนึ่ง คุณแม่ของหนูน้อยหมวกแดงให้เธอนำขนมเค้ก และไวน์ไปเยี่ยมคุณยายที่ป่วยอยู่ พร้อมกับกำชับว่า อย่าแวะระหว่างทาง อย่าพูดกับคนแปลกหน้า และอย่ากลับบ้านค่ำ แต่เมื่อหนูน้อยหมวกแดงเห็นดอกไม้สวยๆ ข้างทาง เธอก็หลงลืมคำเตือนของแม่ แวะเก็บดอกไม้ไปเยี่ยมคุณยาย โดยไม่รู้ว่าเจ้าหมาป่าแอบมองอยู่ และเมื่อเจ้าหมาป่าเข้ามาพูดคุยกับหนูน้อยหมวกแดง เธอก็ลืมคำเตือนของแม่ ตอบคำถามเจ้าหมาป่าอีก
“ฮัลโหล” อย่างเป็นมิตร แล้วมันก็ถามไถ่หนูน้อยหมวกแดงว่า “จะไปที่ไหน”
หนูน้อยหมวกแดง ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังถูกหลอก แถมลืมคำเตือนของคุณแม่ หนูน้อยหมวกแดงจึงเล่าให้หมาป่าฟังว่า “หนูกำลังจะไปเยี่ยมคุณยาย เพราะว่าคุณยายไม่สบาย” หมาป่าจึงหลอกให้หนูน้อยหมวกแดงไปเก็บดอกไม้สวย ๆ เสียก่อน ก่อนที่จะไปเยี่ยมคุณยายที่บ้าน หนูน้อยหมวกแดงหลงกลหมาป่า จึงเดินออกนอกเส้นทางเพื่อไปเก็บดอกไม้ ส่วนเจ้าหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ เมื่อมันเห็นหนูน้อยหมวกแดงเดินลับตาไปแล้ว มันก็รีบวิ่งไปที่บ้านของคุณยาย โดยตั้งใจที่จะจัดการกับคุณยาย ก่อนที่หนูน้อยหมวกแดงจะไปถึง จากนั้น มันก็รีบเอาเสื้อผ้าของคุณยายมาใส่ แล้วไปนอนปลอมตัวเป็นคุณยายอยู่บนเตียงทันที
“สวัสดีค่ะคุณยาย คุณแม่รู้ว่าคุณยายป่วย เลยให้หนูเอาผลไม้มาให้คุณยายกิน ขอหนูเข้าไปในบ้านแล้วเอาผลไม้ให้คุณยายกินได้ไหมคะ”
หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณยาย รีบดัดเสียง แล้วตอบหนูน้อยหมวกแดงว่า “เชิญเข้ามาเลยจ้ะหลาน ยายรอกินหลาน เอ้ย! ยายรอกินผลไม้อยู่แล้วล่ะจ้า”
เมื่อหนูน้อยหมวกแดงเดินเข้าไปในบ้าน หนูน้อยหมวกแดงก็บอกคุณยายว่า “วันนี้คุณยายเสียงแปลกแปลกนะคะ คุณยายเป็นหวัดลงคอหรือเปล่าคะ” หมาป่ารีบดัดเสียงตอบว่า “ใช่จ้ะ ยายรอกลืนหลานลงคอ เอ้ย ยายเป็นหวัดลงคอน่ะจ้า”
ครั้นเมื่อหนูน้อยหมวกแดงเดินเข้าไปใกล้ ๆ เตียงของคุณยาย หนูน้อยหมวกแดง ก็สงสัย จึงถามคุณยายว่า “ทำไมวันนี้ จมูกของคุณยายถึงได้ดูบวม ๆ ยาว ๆ แถมปากก็ดูใหญ่ โอ้โห ดูฟันสิคะ ทั้งเหลือง ทั้งแหลม นี่คุณยายไม่ได้แปรงฟันเลยเหรอคะ” หมาป่ารีบดัดเสียงตอบว่า “ใช่จ้ะหลาน หลานช่วยแปรงฟันให้ยายหน่อยได้ไหมจ๊ะ มามะ มามะ เดี๋ยวยาวจะอ้าปากกว้าง ๆ รอนะจ๊ะ”
หมาป่าหลับตา อ้าปากกว้าง รอจังหวะที่จะงับหนูน้อยหมวกแดงทันทีที่เธอยื่นมือหรือชะโงกหัวเข้าไปใกล้ ๆ แต่ขณะที่หนูน้อยหมวกแดงกำลังเดินไปหยิบแปรงสีฟัน คุณยายที่แอบอยู่ที่ห้องน้ำก็เปิดประตู โผล่หน้าออกมา พร้อมกับส่งสัญญาณด้วยการเอานิ้วชี้ แตะที่ริมฝีปากเพื่อบอกให้หนูน้อยหมวกแดงอย่าเอะอะไป จากนั้น คุณยายก็ค่อย ๆ ย่องไปที่หมาป่า และในเสี้ยววินาทีก่อนที่หมาป่าจะทันตั้งตัว คุณยายก็เอาท่อนไม้ ยัดเข้าไปขวางในปากของเจ้าหมาป่า ทำให้หมาป่าหุบปากงับใครต่อไปอีกไม่ได้
ที่มา : https://nitannambun.com
หนูเมืองและหนูชนบท : นิทานยุโรป
หนูนาตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในชนบท มันชอบกินผลไม้ มันอยู่อย่างมีความสุข วันหนึ่งญาติของหนูนามาเยี่ยมจากในเมือง หนูนารวบรวมผลไม้มากมายไว้ให้หนูบ้านกิน แต่หนูบ้านไม่ชอบกินผลไม้
หนูบ้านบอกว่า “อาหารพวกนี้ไม่อร่อยเลย เธอเข้าไปในเมืองกับฉันเถอะ ชีวิตในเมืองสนุกสนานกว่าที่นี่มากนัก”
ดังนั้นหนูนาจึงติดตามญาติของมันเข้าไปในเมือง พวกมันเดินทางมาถึงบ้านใหญ่หลังหนึ่ง พวกมันมุดลอดใต้ประตูหลังบ้านเข้าไปในบ้าน หนูบ้านพาหนูนาเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร บนโต๊ะอาหารมีอาหารวางอยู่มากมาย พวกมันเริ่มกินอาหารเป็นการใหญ่ หนูนารู้สึกมีความสุข มันพูดว่า “อาหารพวกนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน!” ทันใดนั้นมีเสียงบางอย่างดังแว่วเข้ามา หนูทั้งสองวิ่งไปหลบซ่อนอยู่หลังกองอาหาร หนูบ้านบอกหนูนาว่า “อยู่เฉย ๆ ไว้นะ” หนูนารู้สึกกลัวมาก
แมวตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร มันหันไปมองรอบ ๆ ห้อง แมวตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอาหาร หนูบ้านร้องว่า ” วิ่งหนีเร็ว!” หนูทั้งสองวิ่งเข้าไปในรูหนู หนูนาพูดกับหนูบ้านว่า “ลาก่อนน่ะ ญาติที่รัก ฉันกำลังจะกลับไปที่ชนบท ที่นั่นมันปลอดภัยและเงียบสงบดีกว่าที่นี่”
ที่มา : https://www.dailyenglish.in.th
อ่านต่อ>> นิทาน รวมทุกประเทศทั่วโลก อ่านได้อ่านดี นิทานไร้พรมแดน คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่