ลูกขยี้ตา คันตาบ่อย ๆ ระวังเป็นตาแดงรับเปิดเทอม
อาการเคืองตา คันตา เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่า ลูกเปิดเทอมไปโรงเรียนแล้ว กลับบ้านมา ลูกขยี้ตา บ่อย ๆ มีอาการคันตา เปลือกตาบวม ก็สงสัยได้เลยว่า ลูกอาจติดโรคตาแดงมาแล้วค่ะ หากเด็ก ๆ คนไหนยังไม่เป็น และคุณพ่อคุณแม่อยากป้องกัน จะมีวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร ทีมกองบรรณาธิการ ABK จะบอกให้ฟังค่ะ
ลูกขยี้ตา อาการหนึ่งของตาแดง
โรคตาแดง หรือ เยื่อบุตาอักเสบ คือ ภาวะที่เยื่อบุตาเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งเยื่อบุตาเป็นเยื่อเมือกใสที่คลุมตาขาวและบุด้านในของเปลือกตา สาเหตุของโรค แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ
- ชนิดติดเชื้อ ทั้งจากเชื้อไวรัส เช่น เชื้อไวรัสอะดีโน (Adenovirus) ซึ่งทำให้เกิดอาการเจ็บคอและมีไข้สูง และเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) และสเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus Pneumoniae) เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะติดต่อจากการสัมผัส โดยเฉพาะเด็กเล็กที่เริ่มหยิบจับสิ่งของต่างๆ รอบตัวได้เองเชื้ออาจติดมากับมือ แล้วมาจับหน้า เอามือเข้าปาก หรือเอามือขยี้ตาทำให้ได้รับเชื้อ เป็นสาเหตุที่เด็กเป็นโรคตาแดงง่ายและเป็นมากกว่าผู้ใหญ่
- ชนิดไม่ติดเชื้อ อาจเกิดจากสิ่งแปลกปลอม ฝุ่นละอองทำให้ระคายเคือง หรือจากโรคภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ หญ้า ฝุ่นจากสัตว์เลี้ยง สุนัข แมว ไรฝุ่น โดยภายหลังได้ นอกจากนี้ อาจเกิดจากอุบัติเหตุ เกิดจากการแพ้ยาได้
อาการโรคตาแดงในเด็ก
สำหรับเด็กที่เป็นโรคตาแดง อาการจะเริ่มจากเด็กจะคันตา ขยี้ตาบ่อยๆ จากนั้นตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงชัดเจน มีขี้ตา น้ำตาไหล กระพริบตาบ่อย เจ็บตา มีขี้ตามาก โดยจะมีขี้ตาสีขาว เหลือง หรือเขียว ซึ่งอาจทำให้ลืมตาได้ลำบากในเวลาตื่นนอนตอนเช้า เปลือกตาเริ่มบวมแดง อาจเป็นตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปตาอีกข้างหนึ่ง โดยอาการสามารถแบ่งได้ดังนี้
- อาการจากเชื้อไวรัส เด็กจะมีอาการตาแดง เคืองตา มีน้ำตาไหล ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโต อาจมีอาการตาบวม หรือปวดตาเล็กน้อย จะมีอาการกลัวแสง มองแสงนานไม่ได้ มีอาการแสบตาหากสัมผัสแสง รวมทั้งอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ อาการหวัด หรือการติดเชื้อเกี่ยวกับการหายใจอาการเยื่อบุตาติดเชื้อ การอักเสบของกระจกตา โดยลักษณะตาแดงจากไวรัสจะหายเองภายใน 2-3 สัปดาห์
- อาการจากเชื้อแบคทีเรีย เด็กจะมีอาการตาแดงเข้มมาก มีขี้ตามากออกสีเหลืองหรือสีเขียว ซึ่งจะเกิดมากหลังการตื่นนอน มีขี้ตาเกาะกรัง ทำให้ลืมตาไม่ขึ้น อาการอักเสบมักจะเกิดขึ้นทั้งสองข้างของตา
- อาการที่มีสาเหตุจากการแพ้ มักมีอาการ เช่น คันตา น้ำตาไหล หรือตาบวม และมักพบร่วมกับอาการภูมิแพ้จมูกอักเสบด้วย ได้แก่ จาม คันจมูก น้ำมูกไหล คัดจมูก
การรักษาตาแดงในเด็ก
เมื่อพบว่าเด็กมีอาการตาแดง ไม่ควรไปซื้อยาทา หรือยาหยอดตามาหยอดรักษาเอง ควรพามาพบจักษุแพทย์ หรือกุรมารแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย ว่าเป็นโรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ หรืออาจจะเกิดจากโรคอื่น เช่น อาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้าในตา แทนที่จะเป็นโรคตาแดง
ถ้าได้รับเชื้อแบคทีเรียซึ่งพบได้บ่อย จะรักษาด้วยการใช้ยาหยอดตาเพื่อทำการฆ่าเชื้อ และคอยประคบเย็น เพื่อลดอาการบวมของเปลือกตา ให้รู้สึกสบายตามากขึ้น ประคบครั้งละ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 5-6 วันอาการจะดีขึ้น โดยทั่วไปแล้วโรคนี้อาการจะดีขึ้นภายใน 7-10 วัน แต่หากมีการติดเชื้อ อักเสบลามไปที่กระจกตา (ตาดำ) ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะหาย
วิธีทำความสะอาดตา ถ้าเด็กมีน้ำตาหรือขี้ตาควรใช้สำลีชุบน้ำหรือใช้ทิชชูเช็ดเบาๆ เช็ดแล้วทิ้งเลย ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็จะเป็นวิธีการช่วยป้องกันการติดต่อได้
การป้องกันโรคตาแดงในเด็ก
- ให้ลูกล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่
- บอกให้ลูกหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งของที่อาจปนเปื้อนสิ่งคัดหลั่งของคนอื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ
- ให้ลูกหลีกเลี่ยง หรือระวังไม่ให้ลูกสัมผัสน้ำท่วมขัง หรือน้ำสกปรก ระวังไม่ให้น้ำกระเด็นเข้าตา หากสัมผัสแล้ว ให้รีบทำความสะอาดบริเวณนั้น และ/หรืออาบน้ำให้สะอาดทันที
- บอกลูกว่าไม่ควรใช้มือขยี้ตา
- หากลูกเป็นโรคตาแดงแล้ว ควรงดการไปในที่สาธารณะจนกว่าจะหาย เช่น การเดินห้างสรรพสินค้า การใช้รถโดยสารประจำทาง การลงสระว่ายน้ำ เพื่อป้องกันการแพร่ กระจายของเชื้อ
- ไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น ควรล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการหยอดยาเสมอ
ตาแดงไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากเกิดกับลูกน้อยแล้ว ย่อมรบกวนการใช้ชีวิตและทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวได้ คุณพ่อคุณแม่ควรป้องกันลูกน้อยตามวิธีที่แนะนำเพื่อสุขอนามัยที่ดีค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลเวิล์ดเมดิคอล, pobpad
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก