ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ a กับ b ต่างกันอย่างไร ?
ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A เกิดจากการผสมผสานของไวรัสสายพันธุ์ของคน หมู และนก ไม่มีการปรากฎแน่ชัดว่าโรคนี้เริ่มติดต่อกับคนเป็นครั้งแรกเมื่อไหร่ แต่เมื่อมีการระบาดเกิดขึ้นก็จะแพร่กระจายและติดต่อจากคนสู่คน ที่สำคัญเชื้อนี้ไม่ได้พบในหมูทั่วไป จึงไม่ติดต่อโดยการสัมผัสหรือกินเนื้อหมู
ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ B จะพบเฉพาะในคน และไม่ค่อยทำให้เกิดอาการรุนแรง ส่วนมากจะระบาดในช่วงหน้าหนาว เพราะไข้หวัดชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในอากาศเย็น ซึ่งพบมากที่สุดในระหว่างเดือนธันวาคมและมกราคม และในฤดูฝนคือช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งใคร ๆ ก็ป่วยเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ bได้ แต่กลุ่มที่เสี่ยงและต้องระวังคือ คนที่ป่วยเป็นโรคปอด โรคหัวใจ และเด็กเล็ก ๆ อายุน้อยกว่า 2 ปี รวมทั้งคนแก่ และคนท้องด้วย
อาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้
- ระบบทางเดินหายใจมีความผิดปกติ อาทิเช่น น้ำมูกไหล ไอและเจ็บคอ
- ไข้ขึ้นสูงประมาณ 38 องศาเซลเซียส หรืออาจมากกว่านั้น
- บางรายอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
- หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
สายพันธุ์ไหนรุนแรงกว่ากัน?
หากจัดอันดับความรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ในทั้งสองสายพันธุ์จะพบว่า ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A นั้นมีความรุนแรงมากกว่า เพราะแพร่ระบาดได้รวดเร็ว อีกทั้งยังควบคุมได้ยากกว่า ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ B นอกจากนั้น ยังสามารถแพร่ระบาดได้จากสัตว์สู่คนอีกด้วย
ไข้หวัดใหญ่กับไข้หวัดธรรมดาต่างกันอย่างไร
หากถ้าดูผิวเผินแล้ว แทบจะไม่เห็นถึงความแตกต่างระหว่างไข้หวัดใหญ่กับไข้หวัดธรรมดาเลยใช่ไหมคะ แต่ในความเป็นจริงก็มีความแตกต่างที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ
- ไข้หวัดธรรมดา จะมีแค่อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม คันคอ
- ไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยเนื้อตามตัว
ไข้หวัดใหญ่รักษาอย่างไร ฉีดวัคซีนป้องกันได้จริงหรือไม่ คลิกเลย!