ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ a กับ b

ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ a กับ b ต่างกันอย่างไร ?

Alternative Textaccount_circle
event
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ a กับ b
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ a กับ b

ดูแลลูกอย่างไรเมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่?

 

  1. รับประทานยาอย่างต่อเนื่องตามที่คุณหมอสั่ง
  2. พักผ่อนให้เพียงพอ
  3. สวมเสื้อผ้าหนา ๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ
  4. ดื่มน้ำอุ่นให้มาก ๆ เพื่อทดแทนน้ำที่เสียไปเนื่องจากการมีไข้
  5. รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย ๆ หากต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นให้ใช้ช้อนกลางด้วย
  6. หมั่นเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาเพื่อเป็นการลดไข้
  7. สวมผ้าปิดปากและจมูกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรค
  8. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ

ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุข  ก็ได้รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีตามฤดูกาล จำนวน 3.5 ล้านโด๊ส ให้กับกลุ่มเสี่ยงได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 4 แสนโด๊ส และประชาชนกลุ่มเสี่ยง 3 ล้าน 1 แสนโด๊ส ประกอบด้วย

  • หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
  • เด็กอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 2 ปี
  • ผู้ที่มีโรคเรื้อรังคือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
  • บุคคลที่มีอายุ 65  ปีขึ้นไป
  • ผู้มีน้ำหนักตัว มากกว่า 100 กิโลกรัม
  • ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
  • ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อ เอชไอวี มีอาการ

โดยจะเริ่มให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย – 31 ส.ค.นี้สามารถเข้ารับบริการ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ปี 2017 ได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้านฟรี โดยวัคซีนที่ฉีดให้ครั้งนี้ จะประกอบด้วย 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ เอ (H1N1) สายพันธุ์ เอ (H3N2) และสายพันธุ์ บี(ออสเตรเลีย) อย่าลืมไปใช้สิทธิกันเยอะ ๆ นะคะ


เครดิต: กระปุกดอทคอม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  และ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค

ขอบคุณรูปภาพจาก: Medscape

อ่านเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม:

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up