คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง - Amarin Baby & Kids
คัน

คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

Alternative Textaccount_circle
event
คัน
คัน

คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

 “คัน เป็นอาการที่ต้องเคยเกิดขึ้นกับทุกคนไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่ หากอาการคันเกิดขึ้นบ่อย ๆ ต้องเกากันไม่หยุดจนน่ารำคาญ จนทำให้ผิวหนังถลอก “อาการคัน” จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะหากมีอาการคันบ่อย ๆ ติดต่อกันนาน ๆ แบบเป็นๆ หายๆ รวมทั้งมีผื่นขึ้นร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของ “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” ที่เกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในบางรายก็พัฒนาเป็นโรคตุ่มน้ำพองที่บั่นทอนความมั่นใจและคุณภาพชีวิต มาเช็กดูว่าอาการคันของเรานั้น เข้าข่ายผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือไม่ค่ะ

คัน หนึ่งในอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

สำหรับอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่สำคัญ คือ อาการคันที่เรื้อรัง เป็นติดต่อกันมานาน มีผื่นแดงขึ้นแบบเฉพาะเจาะจง โดยเด็กอายุขวบปีแรก ผื่นจะขึ้นบริเวณแขนขาและแก้ม

แต่เมื่ออายุ 1 ปีขึ้นไปแล้ว จะพบผื่นที่เป็นลักษณะเฉพาะขึ้นบริเวณข้อพับ แขน ขา และคอ เป็นส่วนใหญ่ มีผิวแห้งโดยเฉพาะรอบ ๆ ดวงตา ลายนิ้วมือชัดขึ้น มีผื่นที่หู หัวนม หน้าแข้งมีผิวแห้งคล้ายเกล็ดปลา และโดยมาก ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจมีอาการทางการหายใจร่วมด้วย เช่น หอบหืด ภูมิแพ้จมูก แพ้อากาศ เป็นต้น

อาการ

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อาการอันดับแรก คือ มีอาการคัน ผิวแห้ง สาก เป็นขุย มีผื่นแดงอักเสบชัดเจน ที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า

สำหรับเด็กจะสังเกตได้จากตำแหน่งของผื่นขึ้นใกล้เคียงกัน เช่น บริเวณแก้ม รอบริมฝีปาก บริเวณด้านนอกของแขน ขา ศอก เข่า มือ เท้า ข้อมือ ข้อเท้า ข้อพับทั้งหลาย

สาเหตุของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเกิดจาก 2 สาเหตุสำคัญ คือ พันธุกรรมที่ก่อให้เกิดการสร้างเซลล์ผิดปกติ ทำให้ปราการป้องกันไม่ให้น้ำระเหยจากร่างกายเสียไป ผิวหนังจึงแห้งง่าย สิ่งแปลกปลอมซึมเข้าผิวหนังได้ง่าย จนเกิดการอักเสบและการระคายเคือง

ส่วนอีกสาเหตุ คือ ภูมิต้านทานของร่างกายทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายมีความไวต่อสิ่งแปลกปลอมภายนอก อย่างเช่น การสัมผัสกับสารเคมีในชีวิตประจำวัน เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำหอม เครื่องสำอาง เมื่อสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดการแพ้ ก็จะเกิดการระคายเคือง มีอาการคัน และมีผื่นขึ้นได้ ซึ่งถ้าหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่ทำให้การแพ้เหล่านี้ได้ อาการก็จะหายไป

นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ก็มีส่วนที่กระตุ้นให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้เช่นกัน อาทิ การอาบน้ำอุ่นและการอยู่ในห้องแอร์ต่อเนื่องและนานเกินไป ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง และความเครียดที่ส่งผลต่อภูมิต้านทานในร่างกาย

คัน
คัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! เช็คอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

วิธีเช็กว่าเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือไม่

แนวทางการวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง จะใช้ วิธีทางคลินิก โดยดูลักษณะการกระจายของผื่น ซึ่งโดยมากดูจากระยะเวลาที่เป็นผื่นนานเกิน 6 เดือนขึ้นไปและมีอาการคันร่วมด้วย นอกจากนั้นอาจมี การเจาะเลือด เพื่อดูการเพิ่มขึ้นของภูมิต้านทาน

สำหรับการทดสอบ Skin Test จะเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางลมหายใจเพื่อดูการแพ้ของไรฝุ่น หรือแมลงชนิดต่าง ๆ ผู้ที่สงสัยว่าอาการแพ้เกิดจากการสัมผัสสิ่งแวดล้อมภายนอก อาจทำการทดสอบได้โดยนำสารที่สงสัยแปะไว้บนหลังเป็นเวลา 8-10 ชั่วโมง แล้วดูว่ามีผื่นหรือคันหรือไม่ ส่วนผู้ที่สงสัยว่าแพ้อาหาร จะทำการซักประวัติว่าแพ้อาหารอะไร และให้งดอาหารนั้น ๆ จากนั้นก็ให้รับประทานอาหารนั้น ๆ เข้าไปแล้วดูว่าจะเกิดการแพ้หรือไม่

การรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นยาตัวหลักในการรักษาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งต้องเลือกใช้ในขนาดที่เหมาะสม และในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ตามความจำเป็น เพราะหากใช้มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

แม้ปัจจุบันมียารักษาอาการแพ้และคันที่ไม่ใช่สเตียรอยด์แล้ว แต่ราคาค่อนข้างสูง จึงมักใช้เฉพาะที่เท่านั้น สำหรับยารับประทาน ประเภทยาแก้แพ้ ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ที่แน่นอนว่า ช่วยรักษาได้ ยาที่ช่วยได้ คือ ยาแก้คันที่ออกฤทธิ์กดสมอง ทำให้เกิดอาการง่วงได้ สำหรับผู้ที่เป็นมาก และควบคุมอาการไม่ได้ ก็จะใช้ยากดภูมิเข้ามาช่วยด้วย

ดูแลสุขภาพผิวเบื้องต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ คัน จากโรค

การป้องกันโรคผิวหนังที่ดีที่สุด คือ การดูแลสุขภาพผิวพรรณให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ  ดังนี้

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • ไม่ควรอยู่ในห้องแอร์นานกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้ง
  • การอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย เพื่อลดการติดเชื้อต่าง ๆ ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือฟอกสบู่มากจนเกินไป สบู่ที่ใช้ ควรมีส่วนผสมของสารเคลือบผิว เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง
  • หลังอาบน้ำควรใช้โลชันทาผิวภายใน 3 นาที เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในผิวหนัง
  • แสงแดดเป็นตัวทำลายผิวหนัง ควรเลี่ยงแสงแดดช่วง 10.00-15.00 น. และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม จะมีส่วนช่วยป้องกันรักษาผิว ไม่แก่และกร้านเร็ว อีกทั้งป้องกันโรคผิวด่างดำต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณข้อมูลจาก

PPTV HD

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ผื่นคันระหว่างตั้งครรภ์ รอยแตกลายที่ท้อง ป้องกันได้

ลูกมีตุ่มคล้ายยุงกัด แต่ไม่คันเฝ้าระวัง โรคฮีน็อค อันตราย!

วิธีดูแลเด็กที่มีปัญหาผื่น แดง คัน ตามผิวหน้า

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up